เอาประวัติก่อนละกันนะพี่ต๊อก

สุนัขไทยหลังอานเป็นสุนัขประจำชาติไทย และเป็นสุนัขสายพันธุ์แท้พันธุ์หนึ่งของโลก เป็นมรดกของแผ่นดิน เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนไทยทุกคน
ถิ่นกำเนิดสุนัขไทยหลังอาน
สุนัขไทยหลังอานถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ได้อย่างไร มีการวิเคราะห์และศึกษาจากผู้รู้คิดว่าสุนัขไทยหลังอานน่าจะมาจากสุนัขในกลุ่ม Wolf , Fox, Jackal, Coyote สุนัขไทยหลังอานเป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองที่อยู่ในย่านเอเชียตะวันออกในเขตร้อน ซี่ง สุนัขพื้นเมืองในเขตนี้จะดูมีลักษณะคล้ายๆ กัน เช่น สุนัขในประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา พม่า มาเลเซีย บางแถบของประเทศจีน สุนัขในแถบนี้จะมีกระโหลกศรีษะเป็นสามเหลี่ยมรูปลิ่ม มีกรามใหญ่ที่แข็งแรง มีหูทั้งสองข้างตั้งชัน มีเส้นหลังตรง มีหางตั้งยกขึ้นเหมือนดาบ
แต่สุนัขไทยหลังอานจะมีลักษณะพิเศษเฉพาะคือมีขนที่เส้นหลังย้อนกลับที่เส้นกลางหลัง ที่สุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ของประเทศต่างๆ ไม่มี และนี่จึงเป็นที่มาของสุนัขไทยหลังอาน
จากตำนานที่พบตามรอยเขียนภาพตามผนังถ้ำในยุคหินใหม่ เราจะเห็นรูปสุนัขหูตั้งหางดาบ และมีการบันทึกเรื่องราวของสุนัขไทย ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับสุนัขไทยหลังอาน ซึ่งในสมุดข่อยโบราณใน สมัยพระพิมลธรรม ตอนที่บวชเป็นพระ และภายหลังได้ทรงขึ้นครองราช ได้ทรงพระนามว่า "พระเจ้าทรงธรรม" ในสมัยกรุงศรีอยุธยาราชวงศ์สุโขทัย พ.ศ.2163-2171 ซึ่งเป็นเวลา 300 กว่าปีมาแล้ว มีใจความในสมุดข่อยโบราณว่า
"สุนัขตัวมันใหญ่ มันสูงเกินสองศอก มีสีต่างๆ ไม่ซ้ำกัน มันมีขนที่หลังกลับ มันร้ายมันภักดีต่อผู้เลี้ยงมัน มันหากินขุดรูหาสัตว์เล็กๆ มันชอบตามผู้เลี้ยงไปป่าหากิน มันได้สัตว์ มันจะนำมาให้เจ้าของ ถึงต้นยางมีน้ามัน มันมีกำลังกล้าหาญไม่กลัวใคร ธาตุสีทั้งหลาย รัชตะชาด มันมีโคนหาง มันมีหางเป็นดาบชาวป่า ถ้าผู้ใดมีไว้ในครอบครองจะได้รับความภักดีจากมัน"
นี่เป็นคำกล่าวของพระมหากษัตริย์ไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่สำรวจ ได้จากสมุดข่อยโบราณจะเห็นได้ว่าสุนัขไทยหลังอานของเรามีมาช้านานจนสามารถที่จะกล่าวได้ว่าสุนัขไทยหลังอาน คือ "สุนัขประจำชาติไทย" ของเรา และเป็นสุนัขที่มีมาแต่โบราณกาล ที่ช่วยปกป้องเตือนภัย ดูแลทรัพย์สิน และช่วยยังชีพในการออกป่าล่าสัตว์ ของคนไทยมาแต่โบราณกาล เราจะสามารถพิสูจน์ได้ว่า สุนัขไทยหลังอานของเราเคยอยู่คู่กับคนไทยเรามาตั้งแต่นมนาน ได้โดย ถ้าเราไปตามที่ชุมชนดั้งเดิมที่ยังมีการรักษาวัฒนธรรมไทยมาแต่ปู่ย่า ตายาย หรือ ตามพื้นที่นอกปริมณฑล เมื่อชาวบ้านเห็นสุนัขไทยหลังอาน พวกเขาจะเรียกชื่อสุนัขไทยหลังอาน กันอีกชื่อหนึ่งว่า "หมาพราน" เราจะเห็นได้ว่าสุนัขไทยหลังอานเราจะมีความสามารถพิเศษเฉพาะมากมาย ที่สุนัขสายพันธุ์อื่นไม่มีเหมือนหรือเปรียบเทียบได้เลยกับสุนัขไทยหลังอานของเรา ไม่ว่าจะเป็น "สายพันธุ์แท้ดั้งเดิม" ที่มีการพัฒนาด้วยตัวของมันเองมาแต่โบราณกาล มาจนถึงกระทั่งทุกวันนี้ ซี่งพึ่งมีคนหันมาให้ความสนใจในสุนัขไทยหลังอานและนำมาพัฒนาพันธุ์เมื่อไม่นานมานี้ มาช่วยกันอนุรักษ์และ
ลักษณะทั่วไปของสุนัขไทยหลังอาน
สุนัขไทยหลังอานมีขนาดปานกลางมีขนสั้น มีขนย้อนกลับที่กลางหลังเป็นรูปต่างๆ ทอดยาวไปตามแผ่นหลัง ลำตัวยาวกว่าความสูงที่ไหล่เล็กน้อย ลักษณะทางกายภาพ เราสามารถเห็นกล้ามเนื้อชัดเจน มีความแข็งแรงอดทน ทรหด ทนต่อลักษณะสภาพภูมิอากาศได้โดยทั่วไป ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว มีความสามารถเหมาะแก่การล่าสัตว์ได้ดี มีความสามารถในการกระโดดได้ดี มีความระแวดระวัง สิ่งแปลกปลอมได้เป็นอย่างดี ฉลาด มั่นคง กล้าหาญเด็ดเดี่ยว รักอิสระ มีท่วงท่าที่สง่างาม เป็นสุนัขในครอบครัวที่ซื่อสัตว์ รักเจ้าของ ขึ้นชื่อในการเรื่องของความจงรักภักดี
อานของสุนัขไทยหลังอาน
อานของสุนัขไทยหลังอานเป็นขนย้อนกลับที่อยู่บนหลังของสุนัขไทยหลังอานมีลักษณะหลายแบบหลายสักษณะแตกต่างกันไป โดยลักษณะที่เห็นกันมากและสามารถแบ่งแยกออกได้เป็น 8 รูปแบบ คือ
1.อานเข็ม มีขนาดเป็นเส้นเล็กบนหลังไม่มีขวัญ
2.อานแผ่น หรือ อานม้ามีขนาดใหญ่เต็มแผ่นหลังไม่มีขวัญ
3.อานเทพพนม เกิดจากการที่ขนบนหลังไม่ชี้ย้อนไปทงด้านหัว แตต่จะชี้ขึ้นชนกันกลางแนวสันหลัง เหมือนใช้นิ้วมือประสานกันในลักษณะพนมมือ และไม่มีขวัญ ส่วนมากอานเทพพนมจะเห็นได้เด่นชัดในสุนัขที่มีขนยาว
4.อานลูกศร หรือ อานธนู อานชนิดนี้เราจะเห็นมีขวัญอยู่ 2 ขวัญ ที่ตำแหน่งหัวไหล่ แล้วมีขนย้อนกลับเป็นเส้นยาวที่แนวกลางสันหลังจนกระทั่งมาถึงโคนหาง
5.อานพิณ เกิดจากขวัญจำนวน 4 ขวัญขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งหัวไหล่ 2 แลอยู่ตามตำแหน่งกลางลำตัวทั้งสองด้าน
6.อานใบโพธิ์ เกิดจากขวัญที่หัวไหล่และแผ่กว้างครอบคลุมแผ่นหลังไปเกือบถึงโคนหาง ในสุนัขบางตัวขอบอานจะลงมาข้างลำตัวทั้งซ้ายขวาและกลมกลืนหายไปข้างลำตัวก็มี บางคนก็เรียกว่าอานตกข้าง
7.อานไวโอลิน เกิดจากขวัญจำนวน 3-5 ขวัญ อยู่บนหัวไหล่ 2 ขวัญ และอีก 2 ขวัญอยู่เหนือสะโพกส่วยท้ายทั้งซ้ายและขวา
8.อานโบว์ลิ่ง เกิดจากขวัญจำนวน 4-5 ขวัญ บริเวณที่หัวไหล่อาจมีขวัญหรือไม่มีก็ได้ จะมี 2 ขวัญที่กลางลำตัว มีลักษณะชิดกันเป็นช่องแคบๆ และมีขวัญอีก 2 ขวัญเหนือสะโพกด้านท้อยทั้งซ้ายขวา