ไม่ได้คุยกันตั้งนาน คงสบายดีนะครับ ..
สบายดีครับพี่ พี่sakeยังใช้เบอร์เดิมอยู่หรือเปล่าครับคิดถึงพี่เหมือนกันครับไม่ได้คุยกันตั้งนานครับ เรื่องจริงแล้วมันก็เลอะเทอะพอกันทั้ง ฝ่ายน่ะครับ สาดโคลนใส่กันก็ต้องเลอะกันทั้ง 2 ฝ่ายครับ ตอนนี้ผมยังมองอนาคตประเทศไทยไม่ออกว่าจะไปทางไหน ทักกี้และพวกน่ะผิดอยู่แล้ว
แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าถ้าสมัครลาออก แล้วประเทศจะทำอย่างไรต่อ 1.ถ้ายุบสภาเดี๋ยวมันก็ซื้อเสียงกันเข้ามาได้เป็นเสียงข้างมากอีก ปชป.เลือกตั้งอีกก็น่าจะน้อยลงกว่าเดิมเพราะทุนมันหมดไปเรื่อยๆ เพิ่งเลือกตั้งไปได้ไม่ถึงปี ตอนนี้คงกระเบียดกระเสียนเต็มที
2.ถ้าไม่ยุบสภาแล้วให้ปชป. กับ พรรคเล็กพรรคน้อยเป็น รัฐบาล พปช 233 เสียงเป็นฝ่ายค้านก็น่าจะอยู่ได้ไม่นานกับประชาธิปไตยแบบไทย ทักกี้ซื้อหัวละ 50 ล้านซัก 20 หัวรัฐบาลผสมปชป.ก็ล้มแล้ว รวมทั้งยังไม่รวมปัจจัยที่ปชป. บริหารประเทศไม่เป็น ทำเป็นแต่เกมส์การเมือง ลองนึกดูเล่นๆ อภิสิทธิ์ชีวิตนี้ทำอะไรเป็นบ้าง เรียนจบก็มีคนปูพรมแดงไว้ให้ พอได้เป็นรมต.ก็ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏ ไม่มีผลงานซักอย่างปล่อยไปตามระบบราชการ เป็นรมต. เป็นตัวประกอบยังพอทน แต่ถ้าเป็นนายกฯ เป็นตัวเอกนี่ประเทศคงได้เศรษฐกิจล่มกันอีกรอบเป็นแน่
ถ้ามองกันลึกๆแล้ว คนน่ะผิดผิดกันหมดขึ้นอยู่กับว่าผิดมากผิดน้อย แต่ที่ผิดมากกว่าคือ
" ระบบ " เพราะระบบที่คณะราษฎร์เลือกมามันไม่สามารถใช้ได้กับประชนทั้งในขณะนั้นตลอดมาจนถึงปัจจุบัน แค่เริ่มต้น4เสือคณะราณฎร์ก็ผลัดกันฆ่าผลัดกันเนรเทศอดีตเพื่อนที่เป็นศํตรูคณะราษฎร์ก็รบแย่งชิงอำนาจกันเองแล้วเป็นบทพิสูจน์อย่างดีว่าคนไทยไม่เหมาะจริงๆ (ระบบที่ไม่ดีเริ่มต้นก็ไม่ดีตอนจบก็คงไม่ดี)มันผิดตั้งแต่เริ่มเพราะวุฒิภาวะการตัดสินใจของชาวบ้านในบางส่วนของไทยเรายังไม่พร้อมจริงๆ
ระบบไม่สามารถควบคุมคนไม่ดีได้ ทำให้คนไม่ดีเอาเปรียบคนดีจนคนดีทนไม่ได้ต้องตอบโต้โดยใช้วิธีที่ไม่ค่อยถูกต้องนักจนบางส่วนกลายเป็นคนไม่ดีไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นในสภาถ้าใครยังคงเป็นคนดีได้คงไม่มีที่ยืนหรอกครับต้องสกปรกกันบ้างไม่มากก็น้อย? เมื่อเป็นเช่นนี้ในเมื่อคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่เอาสิทธินั้นไปแลกกับเศษเงิน
เขารู้แค่ว่าสิทธิแลกเงินได้แต่ไม่รู้จักหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยก็น่าจะริบสิทธินั้นคืนเสีย คนไทยยังเหมาะกันประชาธิปไตยหรือ
ในเมื่อเลือกตั้งแล้วมันแย่ไม่สามารถทำให้บ้านเมืองดีขึ้นได้อย่างนี้แล้วจะเลือกตั้งกันไปทำไม ลองดูประวัติศาสตร์กันดูก็ได้ไม่มีประเทศไหนก่อร่างสร้างตัวได้ด้วยระบอบประชาธิปไตยแต่แรกเพราะประชาชนจะเป็นเบี้ยที่คนมีอำนาจใช้สอย หันไปดูใกล้ๆบ้านก็เวียดนาม จีน บรูไน มาเลย์(ประชาธิปไตยแบบมาเลย์ใครเป็นฝ่ายค้านก็ยัดคดีกันง่ายๆจนฝ่ายค้านติดคุกกันเป็นแถว) หันไปดูไกลๆ ก็ดูไบ ที่ไม่มีน้ำมันซักหยดแต่ก็เจริญได้ครับ เขาเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า ประเทศเหล่านี้ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม หรือ ราชาธิปไตย เขาก็สามารถพัฒนาได้ในอัตราสูงกว่าไทยมาก อีกไม่เกิน10-20 ปี เวียดนามจะมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าไทย หากประเทศไทยยังเป็นประชาธิปไตย คนไทยคงต้องยอมรับความอับอายนั้นเหมือนที่ต้องอับอายเมื่อมาเลย์แซงเราไปเมื่อหลายสิบปีก่อน หากไทยเป็นประชาธิปไตยโดยที่พื้นฐานยังไม่แข็งแรงก็คงต้องวุ่นไปอย่างนี่อีกหลายร้อยปี(อาจไม่ถึงร้อยปีก็ได้ถ้าเป็นปชต.แล้ววุ่นอย่างนี้คงสิ้นชาติกันก่อนร้อยปีแน่ๆครับ)ตลอดประวัติศาสตร์ไทยล่ะครับ:D
ขอโทษนะครับเพื่อนสมาชิก ที่กระทู้นี้ยาวไปหน่อย..ไม่ได้คุยกันปีกว่า เลยขอโม้ยาวไปหน่อย....
สวัสดีครับ
คุณขวัญ ผมยังใช้เบอร์เดิมอยู่ครับ ผมเองก่อนหน้านี้ก็มองไม่ออกเหมือนกันว่าจะจบอย่างไร? เพราะถ้าเปรียบเทียบสามัญสำนึกแวบหนึ่งในล้านของวินาทีของความดีผมว่า ไอัหอกหัก มันมีน้อยกว่า ทักษิณ เสียอีก คนพวกนี้ในความคิดผมมันสามารถเผาชาติได้เลยครับ
สำหรับผม ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่น่าสนใจและเรียนรู้ ผมชอบพูดเสมอว่าผมมีวันนี้ได้เพราะผมทำอย่างนั่นอย่างนี้เมื่อในอดีต ผมว่าปัญหาทุกอย่างมันเริ่มจากตัวเราเป็นหลัก ผมยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นทุกวันในสังคมได้เพียงส่วนหนึ่งแค่นั่นเอง ที่ไหนมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการต่อสู้ การกดขี่ ที่โหดร้ายที่สุดคือ การรวมความเห็นแก่ตัว การเอาเปรียบผู้อื่น และเบียดเบียน เข้าด้วยกัน อย่างร้ายกาจ
หลังจากคณะราษฎร์ เข้ายึดอำนาจเมื่อปี พ.ศ. 2475 เรามีนายกรัฐมนตรีคนแรกชื่อ "พระยามโนปกรณ์นิติธาดา" เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย ลองสังเกตให้ดีซิครับ ในประวัติศาสตร์.ที่ผ่านมา เรามีนายกรัฐมนตรี ที่เป็นทหาร 13 จาก 25 คน ( คนปัจจุบัน..ผมไม่อยากนับมันเลย จริงๆ ให้ตายซิ.. ) มีคณะต่างๆที่ครองช่วงระยะสั้น ก็เป็นทหารอีกนั่นแหละถึง 4 คณะ และ มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ หลังจากที่เราเปลี่ยนนามประเทศจาก สยาม เป็น " ไทย ในปี พ.ศ.2482 ต่อจากนั่นเรามีการสร้าง
"อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย "ในปี พ.ศ. 2483 เพื่อให้เป็น
สัญญลักษณ์ เพื่อสะท้อนอุดมการ์ณประชาธิไตย ในสมัยของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ( จอมพลคนแรกแห่งกองทัพไทยหลังจากเปลี่ยนแปลง พ.ศ.2475 ) จนกระทั่งปัจจุบัน เราก็ยังหนี ประเภท
"ผู้ถืออาวุธ คือ ผู้มีอำนาจ " ไม่พ้นครับ
ปัจจุบัน ผมไม่ค่อยยึดติดกับศัพท์ด้านการเมืองที่มีการคิดค้นแปลกๆ ไม่ว่า จะเป็น XXX + อธิปไตย = XXX ธิปไตย หลายๆครั้งผมยอมรับว่าผมอยากให้ ประเทศไทยปกครองในกึ่งลิดรอนสิทธิบางอย่างบ้าง พูดง่ายๆก็คือ
" กึ่งเผด็จการ" ผมว่าให้เอาทฤษฎีของฝรั่งมาจับ การเมืองไทย กับพฤติกรรมประชาชน ผมว่าฝรั่งงงครับ นิสัยคนไทยส่วนใหญ่จริงๆแล้วเราไม่ค่อยอดทน ไม่มีระเบียบ ไม่ค่อยมีวินัยและที่สำคัญไม่เคารพสิทธิของตนเอง เราไม่ได้ถูกสอนให้รู้สึกหวงแหนสิทธิและหน้าที่ของตัวเอง ( มันเลยมีคนชั่วใช้ช่องว่างตรงนี้เป็นโอกาส ) เราอยากได้ประชาธิปไตย แต่เราไม่เคยเรียนรู้เลยว่าประชาธิปไตยคืออะไร? เราก็จำขี้ปากฝรั่งมาแล้วก็นั่งท่องจำ ตามคำกล่าวของ นาย ลินคอร์น์ ท่องจำกันเป็นวรรคเป็นเวร เราเรียกร้อง"สิทธิ"แต่เมื่อมีแล้วเราไม่รู้จะใช้อย่างไร? เราเรียกร้องเสรีภาพ"แต่ก็นั่นแหล่ะ เราไม่รู้อีกว่าขอบเขตอยู่ตรงไหน? เข้าทำนองประเภท
" อยากได้สิทธิแต่ไม่รู้หน้าที่ อยากได้เสรีภาพแต่ไม่รู้ความรับผิดชอบ " ไม่มีระบอบประชาธิปไตยที่ไหนหรอกครับ ที่บอกว่า
การเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ ที่ต้องออกไปเลือกตั้งและต้องออกกฎหมายมาบังคับ ผมว่าถ้าไม่ใช่ เชิญยิ้ม ก็ต้อง ชวนชื่น หล่ะครับงานนี้...
บ้านเรามันต้องใช้หลักสูตรประสมประสานกันครับ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา "สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ" ทรงมีพระดำรัส ถึงเรื่องการเรียนประวัติศาสตร์ ผมว่าทรงเป็นพระปรีชาสามารถของพระองค์ ที่ทรงมองเห็นปัญหาบางอย่างอย่างลึกซึ้ง เราเองยังต้องมีบรรพบุรุษ ความภูมิใจของความเป็นชาติมันต้องเกิดขึ้นจากประวัติศาสตร์ที่น่าภูมิใจ ไม่รู้แมวที่ไหน? สั่งให้เลิกการสอนประวัติศาสตร์ในหลักสูตรของนักเรียน ผมหล่ะกลัวจริงๆ ในอนาคตเราอาจได้คำตอบจากคำถามที่ เรามาจากไหน?แผ่นดินไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร? ประเภท คำตอบที่ว่า
" พ่อฉันซื้อมาเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง .." !!??
เหนื่อยครับ....แต่ต้องเริ่มจากตัวเราและคนใกล้ตัวก่อนครับ ผมชอบบอกใครๆว่า จะดูว่าการเมืองไทยเป็นอย่างไร? ให้ดูสิ่งแวดล้อมของคนที่ทำงาน อยากรู้ว่าผลกระทบการคอร์รัปชั่นเป็นอย่างไร? ให้ดูว่าถ้าเราถูกรีดภาษีมากขึ้นกว่าเดิมจะรู้สึกอย่างไร? ดีกว่าที่มานั่งบ่นว่าของมันแพง วุ่นวายเพราะการเมือง ถ้าบอกเรื่องปราสาทพระวิหารบางคนบอกว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่เมื่อไหร่? บ้านที่เรากว่าจะเก็บหอมออมริบซื้อได้สัก 50 ตร.วา . อยู่ดีไม่ว่าดี มีวันหนึ่งเพื่อนบ้านมาบอกว่าโฉนดบ้านเราไปรุกหรือทับที่บ้านเขาและให้เลื่อนกำแพงไป...เมื่อนั่นหล่ะครับจะรู้สึก
เรื่องแปลกอีกอย่างหนึ่ง และค่อนข้างจะเหลือเชื่อสำหรับผม ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีคนนับถือ ศาสนาพุทธ( นิกายเถรวาท ) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก น่าจะมีวัดมากที่สุดในโลกเช่นกัน ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่ดูซิครับปัจุบัน คนไทยส่วนใหญ่ยังงมงายอยู่กับเรื่องที่ไม่ใช่พุทธ เราสอนให้คนมีกิเลสตั้งแต่เรื่องหาเงินเข้าวัดแล้วครับ ประเภทที่เชื่อว่า บริจาคเยอะได้บุญเยอะ บริจาคเยอะจะได้หล่อจะได้รวยตามเงินที่บริจาค สัตว์เกิดมาพิการบางคนไปนั่งไห้ว พืชออกมาพิการบางคนไปนั่งกราบ ที่ขำกว่านั่นพระที่ไหนใบ้หวยดังคนก็วิ่งไปหา ให้ตายเถอะ ถ้าผมเป็นพระรูปนั่น ผมคงไม่นั่งหลังขดหลังแข็งมาบอกใบ้หวยหรอกครับ ถ้าแม่นจริง ผมคงซื้อคนเดียวรวยไปแล้วครับ เอาเงินไปสร้างวัดและโบสถืที่สวยที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแล้วช่วยบริจาคอีกต่างหากครับ ที่ขำกว่านั่นทั่วบ้านทั่วเมืองเราเชื่อในสิ่งที่ไม่ใช้พุทธกันมากว่าพุทธเสียอีก เราถูกสอนให้เราท่องจำและเชื่อกันมามากกว่า
ซ.ต.พ. ครับ ...ที่วังเวงมากกว่านั่นปัจจุบันนี้เราต้องมานั่งตอบคำถามกันว่า ...ความดีคืออะไร? และ ศีลธรรมคืออะไร? .... วังเวงยกกำลังสองครับ....
อ๋อ..พอพูดถึงเรื่องดีชั่วที่ไร? ผมชอบนึกถึงคำพูดของ
ป๋าเปรมกับ ท่านอานันท์ ลองสังเกตุที่ ป๋าเปรม ออกมาพูดแต่ละครั้งดูซิครับ..ชัดเจน แยกเยอะ.. ผิดถูก ชั่วดี ไอ้ประเภทมั่วๆ ประเภทสมานฉัทน์ เท่ห์ๆ ถูกหรือผิดไม่รุ้ ...สมานฉันท์ไว้ก่อนไม่มีครับ...
ประเทศไทยเป็นประเทศที่แปลกที่สุดในโลกครับ ..แต่ผมก็รักประเทศไทยมากที่สุดในโลกเช่นกัน....
เพราะที่อื่นไม่มีเวป อ.ว.ป. ให้ผมได้พิมพ์บ่นเล่นๆได้เท่าที่นี้ครับ....อะไร?จะเกิดก็ต้องให้มันเกิดครับ ไม่มีใครดีเลิศประเสริฐศรีไปทั้งหมด แต่ให้เลือกที่ชั่วน้อยกว่าหรือชั่วน้อยที่สุดแล้วกันครับ
.." คุณขวัญ" ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ...
ป.ล. ออกตัวก่อนนะครับว่า ผมก็จำๆที่อ่านๆมาหรือเอาของเขามาเขียนนั่นแหล่ะครับ...
