ต่ออีกนิด ตอนจบครับ(ขออภัยพี่ๆทุกท่านนะครับ ที่จบแบบ งงๆ)

[Bird_2006]

ขออภัยนะครับ เห็นกระทู้ตกไปหลายหน้าแล้ว ผมเลยจะปิดกระทู้ วันนี้เพิ่งเข้ามาเห็น เรื่องคงจบแล้วครับ ตำรวจเรียกน้องๆผมไปโรงพักแจ้งข้อกล่าวหา ผมก็เลยให้แจ้งความกลับไปโดยให้ข้อเท็จจริงแนบไปด้วย และแอบถามตำรวจที่รู้จักในโรงพักหลังจากนั้น2วัน เค้าบอกว่าคดีนี้ไม่ได้ส่งฟ้องศาล ผมก็เลยคิดว่าเค้าน่าจะเรียกไปขู่เด็กๆมากกว่า เพราะเค้าจะเรียกเงิน 3 แสน พอผมไม่ยอมเค้าเลยถอย
ต้องขออภัยพี่ๆทุกๆคนที่ทำให้ งง นะครับ
 

[ฺฅนเมืองชล*รักในหลวงมาก]

แล้วตำรวจ ที่คืนปืนให้กับเค้า เค้าว่าอย่างไร ครับ
ขอให้จบกันดัวยดีคร้บบ

[yod - รักในหลวง ครับ]

ปล้นทรัพย์  แล้ว ทรัพย์นั้น อยู่กับใคร

ตำรวจ ว่าอย่างไร

หาพยาน  ฝ่ายเรา มีสาม  ฝ่ายเค้ามีเท่าไหร่

[kopchai]

โอว งี้ต้องแลกกันครับ แจ้งความข้อหา พยายามฆ่าไปเลยครับ

[g 26 โต้ง...**รักในหลวง**]

 เค้านะพยายามฆ่านะครับ....อิๆๆๆ จะมาว่าเราปล้นอีกครับ ...อิๆๆ ถามเค้าว่าคิดผิดเปล่าครับ

[ROJ.KT]

            ใช่แล้วครับ เขาโดนขอหา พยายามฆ่านะครับ แต่เรา ข้อหาแย่งปืน ........

[นาจา™รักในหลวง]

ลองพิจารณาข้อเท็จจริงดูครับว่าเข้าองค์ประกอบความผิดปล้นทรัพย์หรือเปล่า...
ส่วนข้อเท็จจริงที่ว่าการกระทำฐานพยายามฆ่านั้น.....ขณะที่ตำรวจสายตรวจไปถึงนั้นปืนอยู่ในมือของน้อง แล้วจึงได้คืนปืนให้ตำรวจสายตรวจ
ตำรวจสายตรวจทั้ง 2 นาย เป็นประจักษ์พยานแน่ๆครับ.....ลองปรึกษาทนายความดูนะครับ

มาตรา ๓๔๐
            ผู้ใด ชิงทรัพย์ โดยร่วมกัน กระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่ สามคน ขึ้นไป ผู้นั้น กระทำความผิด ฐานปล้นทรัพย์ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ สิบปี ถึง สิบห้าปี และ ปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาท ถึง สามหมื่นบาท
            ถ้า ในการปล้นทรัพย์ ผู้กระทำ แม้แต่คนหนึ่งคนใดมี อาวุธ ติดตัวไปด้วย ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ สิบสองปี ถึง ยี่สิบปี และ ปรับตั้งแต่ สองหมื่นสี่พันบาท ถึง สี่หมื่นบาท
            ถ้า การปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ ผู้อื่น รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุกตั้งแต่ สิบห้าปี ถึง ยี่สิบปี
            ถ้า การปล้นทรัพย์ ได้กระทำโดย แสดงความทารุณ จนเป็นเหตุให้ ผู้อื่น รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ใช้ปืนยิง ใช้วัตถุระเบิด หรือ กระทำทรมาน ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุกตั้งแต่ สิบห้าปี ถึง ยี่สิบปี
            ถ้า การปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ ผู้อื่น ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ ประหารชีวิต

มาตราประกอบ

มาตรา ๓๓๙
            ผู้ใด ลักทรัพย์ โดย ใช้กำลังประทุษร้าย หรือ ขู่เข็ญว่า ในทันใดนั้นจะ ใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
                (๑) ให้ความสะดวก แก่การ ลักทรัพย์ หรือ การพา ทรัพย์ นั้นไป
                (๒) ให้ยื่นให้ ซึ่ง ทรัพย์นั้น
                (๓) ยึดถือเอา ทรัพย์นั้น ไว้
                (๔) ปกปิด การกระทำความผิดนั้น หรือ
                (๕) ให้พ้นจาก การจับกุม
            ผู้นั้น กระทำความผิดฐาน ชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ ห้าปี ถึง สิบปี และ ปรับตั้งแต่ หนึ่งหมื่นบาท ถึง สองหมื่นบาท
            ถ้า ความผิดนั้น เป็นการกระทำ ที่ประกอบด้วยลักษณะ ดังที่บัญญัติไว้ ในอนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใด แห่ง มาตรา ๓๓๕ หรือ เป็นการกระทำต่อ ทรัพย์ที่เป็น โค กระบือ เครื่องกล หรือ เครื่องจักร ที่ผู้มีอาชีพกสิกรรม มีไว้สำหรับ ประกอบกสิกรรม ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ สิบปี ถึง สิบห้าปี และ ปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาท ถึง สามหมื่นบาท
            ถ้า การชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ ผู้อื่น รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ สิบปี ถึง ยี่สิบปี และ ปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาท ถึง สี่หมื่นบาท
            ถ้า การชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ ผู้อื่น รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ สิบห้าปี ถึง ยี่สิบปี และ ปรับตั้งแต่ สามหมื่นบาท ถึง สี่หมื่นบาท
            ถ้า การชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ ผู้อื่น ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ ประหารชีวิต หรือ จำคุกตลอดชีวิต

มาตรา ๘๓
            ในกรณี ความผิดใด เกิดขึ้นโดย การกระทำของบุคคล ตั้งแต่ สองคน ขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิด ด้วยกันนั้น เป็นตัวการ ต้องระวางโทษ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ สำหรับความผิดนั้น

มาตรา ๕๙
            บุคคล จะต้องรับผิดในทางอาญา ก็ต่อเมื่อ ได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่ จะได้กระทำ โดยประมาท ในกรณีที่ กฎหมายบัญญัติ ให้ต้องรับผิด เมื่อได้กระทำ โดยประมาท หรือเว้นแต่ ในกรณีที่ กฎหมายบัญญัติไว้ โดยแจ้งชัด ให้ต้องรับผิด แม้ได้กระทำ โดยไม่มีเจตนา
            กระทำโดยเจตนา ได้แก่ กระทำโดยรู้สำนึก ในการที่กระทำ และ ในขณะเดียวกัน ผู้กระทำ ประสงค์ต่อผล หรือ ย่อมเล็งเห็นผล ของการกระทำนั้น
            ถ้า ผู้กระทำ มิได้รู้ ข้อเท็จจริง อันเป็นองค์ประกอบ ของความผิด จะถือว่า ผู้กระทำ ประสงค์ต่อผล หรือ ย่อมเล็งเห็นผล ของการกระทำนั้น มิได้
            กระทำโดยประมาท ได้แก่ กระทำความผิด มิใช่โดยเจตนา แต่กระทำ โดยปราศจาก ความระมัดระวัง ซึ่ง บุคคล ในภาวะเช่นนั้น จักต้องมี ตาม วิสัย และ พฤติการณ์ และ ผู้กระทำ อาจใช้ความระมัดระวัง เช่นว่านั้นได้ แต่ หาได้ใช้ ให้เพียงพอไม่
            การกระทำ ให้หมายความรวมถึง การให้เกิดผล อันหนึ่งอันใดขึ้น โดยงดเว้น การที่จักต้องกระทำ เพื่อป้องกันผลนั้นด้วย
 

[Bird_2006]

ปืนเค้ามีทะเบียนนะครับ แต่ไม่ใช่ชื่อของเค้าครับ เป็นของญาติเค้าครับ แบบนี้ ต้องโดนยึดปืนไปตรวจด้วยหรือเปล่าครับ ถ้าเราแจ้งความกลับไป

[Srikrabi]

ใช่ครับ อย่าไปยอมนะครับเรามีพยานอยู่ด้วยใช่มั้ยครับแจ้งความกลับ แล้วไม่ต้องยอมความเค้าเลยครับแบบนี้เอาให้เข็ดหลาบครับ นิสัยไม่ดีเลย แต่ผมก็ยังงงคุณตำรวจนะ

[Bird_2006]

เค้ามีญาติเป็นตำรวจครับ

[g 26 โต้ง...**รักในหลวง**]

ปืนเค้ามีทะเบียนนะครับ แต่ไม่ใช่ชื่อของเค้าครับ เป็นของญาติเค้าครับ แบบนี้ ต้องโดนยึดปืนไปตรวจด้วยหรือเปล่าครับ ถ้าเราแจ้งความกลับไป

    อิๆๆ อย่างนี้ต้องโดนข้อหาปืนผิดมืออีก 1 ครับ

[noogtiger]

ยังดีครับที่ไม่เสียเลือดเนื้อ..ปลดอาวุธคนเมาอันตรายครับ..( คนมีสี/คนบ้าอำนาจ ) ขอให้มีสติ..ต้องมีสติ

[H]

มีคำพิพากษาฎีกาชัดเจนนะครับ

ปล้นทรัพย์ก็คือลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป

พิจารณาก่อนว่าเป็นลักทรัพย์หรือไม่ ลักทรัพย์ต้องเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริต และต้องเป็นการยึดถือเอาเพื่อตน

ตามข้อเท็จจริง เมื่อแย่งปืนได้แล้วเอาลูกกระสุนออก เมื่อ จนท.ตร.มาถึง ก็ส่งมอบให้ ตร.

ไม่เป็นการยึดถือเพื่อตนแน่นอน

เรื่องนี้แปลกตรงที่เหตุใด พงส.ถึงรับคดี

ถ้าให้เดา น่าจะเป็นการที่เจ้าทุกข์หรือผู้เสียหายให้ข้อเท็จจริงไม่ครบ หรือไม่ตรงต่อ พงส.มากกว่า พงส.จึงได้รับคดี

เบื้องต้นไปให้การแก้ข้อกล่าวหา พยานที่ดีที่สุดคือ สายตรวจที่ส่งมอบปืนให้นั่นแหละครับ

[H]

เค้ามีญาติเป็นตำรวจครับ

ไม่ได้อ่านข้อนี้ครับ

ทางคดีตามที่เรียนไปเบื้องต้นนะครับ

ส่วนแจ้งความกลับ พงส.ต้องรับคดี หากไม่รับ ร้องเรียนตามขั้นตอน

เทคนิคคือให้เป็นความเหมือนกัน เพราะต่างเป็นคดีอาญาแผ่นดินนะครับ ไม่สามารถถอนคำร้องทุกข์ได้

ต่างฝ่ายต่างต้องประกันตัวสู้คดี แต่ฝ่ายนั้นโดนหลายข้อหามากกว่า ทั้งพยายามฆ่า ปืนผิดมือ พกพาฯ

หาทนายความไว้ก่อนเลยครับ สงสัยจะยาวแน่ๆ

[ahu]

พวกคงกลัวเสียฟอร์ม