....กรณีศึกษาที่ 2....
........เมื่อประมาณ 4 - 5 ปีที่แล้ว ผมเข้าสายตรวจรถจักรยานยนต์ เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ได้รับแจ้งจากพนักงานวิทยุว่า มีผู้ต้องสงสัยพกพาอาวุธปืนจอดรถจักรยานยนต์
อยู่บริเวณ ถ.เมืองเก่า(สมัยนั้นคนกระบี่น่าจะรู้กันดีนะครับว่ามีคาราโอเกะเยอะมาก) ผมกับคู่บัดดี้เลยไปบริเวณที่รับแจ้ง แต่ยังไม่เข้าไปนะครับ จอดห่างออกมาประมาณ
100 เมตร มองไปบริเวณดังกล่าว เห็นผู้ต้องสงสัย 2 คน นั่งคล่อมรถจักรยานยนต์ติดเครื่องอยู่ เลยสอบถามพนักงานวิทยุว่าคนไหนเป็นคนพกปืน พนักงานวิทยุแจ้งว่า
คนที่เห็นไม่แจ้งมาว่าคนเป็นไหน ผมเลยปรึกษากับบัดดี้ ได้ข้อสรุปว่าน่าจะเป็นคนนั่งซ้อนท้าย เลยวางแผนว่าผมจะขับรถเข้าชาร์จ แล้วให้บัดดี้กระโดดลงล๊อคตัวคนนั่งท้าย
จากนั้นผมขับรถเข้าประชิดรถผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องสงสัยพยายามจะออกรถ ผมเลยเบียดรถผู้ต้องสงสัยไว้ทำให้รถผู้ต้องสงสัยล้ม จังหวะนั้นเองคู่บัดดี้ผมก็กระโดดล๊อคตัวคนนั่งท้าย
ส่วนตัวคนขับได้ทิ้งรถออกวิ่ง ผมได้ทิ้งรถวิ่งตาม ระหว่างที่วิ่งนั้นคนร้ายที่วิ่งได้ชักอาวุธปืน(ลูกซองสั้น)ออกมาถืออยู่ในมือ จังหวะนั้นเองผมเห็น ผมกำลังชักปืนออกจากซองมาถือ
คนร้ายได้หันตัวกลับมาพร้อมทั้งเล็งปืนมาทางผม ระยะห่างไม่เกิน 5 เมตร ผมเห็นว่ายิงไม่ทันแล้วเลยหมอบพร้อมทั้งพยายามเล็งปืนไปที่คนร้าย วินาทีนั้นเองคนร้ายหันตัวกลับ ออกวิ่ง
หนีหายไป ส่วนเพื่อนผมวิ่งมาทันจังหวะที่คนร้ายหายไปแล้ว เลยเรียกกำลังมาค้นหาแต่ไม่เจอ.......
.......ข้อคิดและประเด็น..
1. จังหวะที่คนร้ายหันกลับมาเล็งปืนใส่ผมโดยที่ผมยังชักปืนออกจากซองอยู่แล้วกระโดดหมอบแล้วเล็งปืนจะยิง วินาทีนั้นเองคนร้ายหันหลังกลับ แล้วเกิดผมยิงไปด้วยลูกติดพันเข้าบริเวณข้างหลังคนร้าย
วันนั้นผมคงต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากแน่ๆ
......คำถาม....
วินาทีนั้นเป็นเพื่อนๆจะทำอย่างไร จะยิงหรือไม่ยิงครับ.......แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยครับ
......ข้อสรุปของผม........
.......การยิงปืนนั้นไม่ยากเลย.......แต่การตัดสินใจว่าจะยิงหรือไม่ยิงนั้นยากกว่า
ปล. คุณ khaophanom ครับ ผมไม่ค่อยได้เข้าสนามทั้งอ่าวนางและคลองท่อม ลูกปืนมันแพงครับ อาศัยหลุมดินเก่าๆพอซ้อมมือสัก 4-5 นัดเพิ่มกำลังใจ ดูกลุ่มกระสุนว่ายังใช้ได้อยู่มั้ย
........เหอๆ......ยิงกระสุนเป็นกล่องคิดหนักครับ......ไม่สมดุลกับกระเป๋าตัง...........
ตอบคำถามครับ...
นายสมชายไม่ใช่ตำรวจ เลยไม่ทราบว่าเวลาจับกุมผู้ต้องสงสัยเขาให้ทำกันอย่างไรครับ... การทำอย่างท้องเรื่องในกระทู้เป็นเรื่องเสี่ยงมาก และอาจถูกคนอื่นหลอกให้ปลดอาวุธศัตรูด้วยครับ...
นายสมชายเห็นตำรวจฝรั่ง(ในภาพยนต์)ใช้วิธีเอามือจับด้ามปืนไว้ แล้วเดินไปแสดงตัวขอตรวจค้น... หากหนี หรือแสดงอาวุธ ก็ค่อยว่าไปตามสถานการณ์ครับ...
กรณีตามสถานการณ์แล้ว... มีคนวิ่งข้างหน้าแว้งตัวพร้อมชักปืนใส่แบบนี้ คงไม่ยิง... อย่างที่ท่านทำแหละครับ ดีแล้วครับ... แสดงว่ายังไม่มีเจตนาเอาเราถึงตาย ปล่อยมันไปก่อนครับ...
ที่อยากย้ำคือ...
ตามสูตรทั่วไป เมื่อพบศัตรูมีอาวุธมาด้วย จะแจ้งตำรวจสายตรวจให้ช่วยปลดอาวุธให้ครับ... หลังจากนั้นจะคอยดักทำร้ายเมื่อประกันตัวออกจากโรงพัก ระหว่างทางกลับบ้าน...
ตำรวจคงต้องหาจุดที่พอเหมาะแหละครับ ระหว่าง 1) ทำตามกฏหมายเป๊ะๆแต่พลเมืองดีโดนปลดอาวุธ... กับ 2) จับกุมผู้พกอาวุธเพราะทำผิดกฏหมาย...
เส้นแบ่งคือเป็นคนดีหรือคนร้ายที่พกอาวุธ... ถ้าเป็นคนดีถูกปลดอาวุธ ก็เป็นเหยื่อให้คนร้าย... แต่ในทางกลับกัน การจับกุมคนร้ายได้ ก็ตัดโอกาสไปกระทำผิดเรื่องอื่นที่ใหญ่กว่า และสามารถขยายผลฯได้อีกด้วยครับ...