เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 30, 2025, 08:27:35 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่ทราบหนังสือคำสั่งฉบับนี้นายทะเบียนยังใช้อยู่หรือไม่  (อ่าน 1464 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
hs3jqj
Jr. Member
**

คะแนน 4
ออฟไลน์

กระทู้: 42



« เมื่อ: กันยายน 14, 2008, 07:40:20 AM »

มาตรา 9 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้มีไว้เพื่อป้องกันตัวหรือทรัพย์สินหรือในการกีฬา หรือในการยิงสัตว์

การพิจารณาอนุญาตดังกล่าวข้างต้นนี้ มีหลักเกณฑ์ในการอนุญาตสำหรับชนิดและขนาดอาวุธปืนตามคำสั่ง

กระทรวงมหาดไทยที่ 674/2490 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2490 ข้อ 13 และหนังสือกระทรวงมหาดไทย

ที่ 0515/13548 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2515 ที่ 0313/ว8583 ลงวันที่ 25 กรกฏาคม 2517 และที่

0515/ว686 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2517 ดังนี้

ก. ถ้าผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการ ซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือมีหน้าที่ ปฏิบัติงานเขตพื้นที่ที่เสี่ยง

อันตรายต่อชีวิตและผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไป รับรองหน้าที่การงานมาเป็นที่เชื่อถือได้

หรือผู้ขออนุญาตเพื่อการกีฬาโดยมีหนังสือรับรองเป็นนักกีฬายิงปืน และมาฝึกซ้อมยิงปืนเป็นประจำจากเลขาธิการ

สมาคมยิงปืน หรือนายสนามยิงปืนนั้น ๆ ในการพิจารณาอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนพกให้อนุญาตขนาดลำกล้อง

ไม่เกิน .45 หรือ 11 มม.ได้

ข.สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีความจำเป็นต้องมีอาวุธปืนพก อนุญาตให้มีได้ลำกล้องไม่เกินขนาด .38 หรือ 9 มม.

สำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ขัดกับมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ทั้งนี้ต้องไม่ขัดต่อ

กฏกระทรวงที่ใช้บังคับอยู่ตามที่ระบุไว้ในข้ออื่น ๆ ด้วย

สำหรับอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงแม้ขนาดลำกล้องไม่เกิน .38 หรือ 9 มม. เช่นอาวุธปืนขนาด .357

ก็ไม่ควรอนุญาตเว้นแต่ผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการตำรวจ ทหารหรือข้าราชการอื่นซึ่มีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย

หรือเป็นข้าราชการในท้องที่กันดาร และผู้บังคับบัญชาตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไปรับรองหน้าที่การงาน

มาเป็นที่เชื่อถือได้ก็ให้พิจารณาอนุญาตได้ สำหรับในต่างจังหวัดให้นายทะเบียนฯ เสนอขอรับความเห็นชอบจาก

ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย

ข้อ 5 การอนุญาตให้มีอาวุธปืน ตามปกติควรมีได้เพียงคนละ 2 กระบอก คือ สั้นและยาว แต่ในการพิจารณา

อนุญาตมากน้อยเพียงใดแล้วแต่หลักฐานความจำเป็นของแต่ละบุคคล และควรเข้มงวดกวดขันอย่าให้มีมากเกิน

ความจำเป็นไม่ซ้ำขนาดกันให้วงเล็บวัตถุประสงค์มีและใช้อาวุธปืนในใบอนุญาต (ป.4) ให้ชัดเจน
บันทึกการเข้า
hs3jqj
Jr. Member
**

คะแนน 4
ออฟไลน์

กระทู้: 42



« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 14, 2008, 07:42:09 AM »

หากนายทะเบียนหากหนังสือฉบับนี้   เราจะขอเพิ่มได้อย่างไร
บันทึกการเข้า
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 14, 2008, 07:54:32 AM »

..ยังมีนะครับ.บางพื้นที่.อ้าง.สั้นหนึ่ง.ยาวหนี่ง.. ยี๊
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
yaris
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 14, 2008, 01:23:52 PM »

ข้อ 5 การอนุญาตให้มีอาวุธปืน ตามปกติควรมีได้เพียงคนละ 2 กระบอก คือ สั้นและยาว แต่ในการพิจารณา

อนุญาตมากน้อยเพียงใดแล้วแต่หลักฐานความจำเป็นของแต่ละบุคคล และควรเข้มงวดกวดขันอย่าให้มีมากเกิน

ความจำเป็นไม่ซ้ำขนาดกันให้วงเล็บวัตถุประสงค์มีและใช้อาวุธปืนในใบอนุญาต (ป.4) ให้ชัดเจน


สำหรับข้อนี้ลองอ่านข้อความข้างล่างนี้ดูครับ ผมcopyจากพี่ๆในนี้เก็บไว้ ไหว้ ที่เหลือรอพี่ธำรง หรือผู้รู้ท่านอื่นๆครับ

๑. ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕ (แก้ไขตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฉบับที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๒๒) กำหนดประเภท ชนิด และขนาดของอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้
แต่ไม่ได้ให้อำนาจกำหนดจำนวนอาวุธปืน และจำนวนอาวุธปืนขนาดต่างๆไว้ โดยในปัจจุบันได้มีการออกใบอนุญาต ให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
และมีอาวุธปืนซ้ำขนาดอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลของทางราชการที่นายทะเบียนอาวุธปืนฯ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบระบบฐานข้อมูลอยู่แล้ว

๒. ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๙ กำหนดว่า ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ให้ออกให้แก่บุคคลสำหรับใช้ในการป้องกันตัวหรือทรัพย์สิน หรือในการกีฬา หรือยิงสัตว์ เท่านั้น
โดยไม่ได้กำหนดให้ประชาชนต้องแสดงเหตุผลพิเศษเฉพาะกรณีอื่นๆ ในการมีและใช้อาวุธปืน นอกจากนี้ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๖ (๒)
กำหนดว่าในการขอ และการออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ให้ออกเป็นกฎกระทรวง

๓. คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้อง กับการไม่อนุญาตให้ประชาชนครอบครองอาวุธปืนเพิ่มเติม หากได้ครอบครองอาวุธปืน สั้น ๑ กระบอก ยาว ๑ กระบอกนั้น ออกขณะนาย วัน มูฮัมหมัด นอร์ มทา
เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีผลบังคับใช้เพียง ๖ เดือน และได้หมดอายุไปหลายปีแล้ว
     
๔. เมื่อมีการใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน อาวุธปืนนั้นจะต้องถูกนำไปตรวจสอบ ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีอาวุธปืนลักษณะเดียวกันมากกว่า ๑ กระบอกเพื่อการป้องกันตัวอย่างต่อเนื่อง

๕. ในการที่ข้าพเจ้าครอบครองอาวุธปืนในลักษณะใกล้เคียงกันอยู่แล้วย่อมเป็นการชัดเจนว่าข้าพเจ้ามีความรู้ความสามารถในการใช้อาวุธปืนได้อย่างปลอดภัย
และเคารพกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด จึงเป็นเหตุผลอันชัดเจนในการสนับสนุนว่าข้าพเจ้ามีคุณสมบัติที่จะใช้สิทธิตามกฎหมายครอบครองอาวุธปืนเพิ่มเติมได้อีก
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 14, 2008, 01:41:02 PM »

ตั้งหลัก กันที่ข้อกฎหมายก่อนครับ   ว่าคำสั่งฉบับนี้ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา ๖ วรรคแรก (๒)  กำหนดว่าการวางระเบียบการทะเบียน การขอและการออกใบอนุญาต  ให้ออกเป็นกฎกระทรวง
คำสั่งฉบับนี้เป็นกฎกระทรวงหรือเปล่า

พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ ฯ  มาตรา ๘ ระบุว่ากฎที่ไม่เคยลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา   ไม่อาจจะนำมาใช้บังคับในทางไม่เป็นคุณกับประชาชนได้   และก็มีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๔๖/๒๕๕๑ พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งนายทะเบียนอาวุธปืน  ด้วยสาเหตุนี้มาแล้ว
คำสั่งฉบับนี้  ไม่เคยลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2008, 01:46:13 PM โดย สุพินท์ » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 20 คำสั่ง