ข้อ 5 การอนุญาตให้มีอาวุธปืน ตามปกติควรมีได้เพียงคนละ 2 กระบอก คือ สั้นและยาว แต่ในการพิจารณา
อนุญาตมากน้อยเพียงใดแล้วแต่หลักฐานความจำเป็นของแต่ละบุคคล และควรเข้มงวดกวดขันอย่าให้มีมากเกิน
ความจำเป็นไม่ซ้ำขนาดกันให้วงเล็บวัตถุประสงค์มีและใช้อาวุธปืนในใบอนุญาต (ป.4) ให้ชัดเจน
สำหรับข้อนี้ลองอ่านข้อความข้างล่างนี้ดูครับ ผมcopyจากพี่ๆในนี้เก็บไว้

ที่เหลือรอพี่ธำรง หรือผู้รู้ท่านอื่นๆครับ
๑. ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕ (แก้ไขตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฉบับที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๒๒) กำหนดประเภท ชนิด และขนาดของอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้
แต่ไม่ได้ให้อำนาจกำหนดจำนวนอาวุธปืน และจำนวนอาวุธปืนขนาดต่างๆไว้ โดยในปัจจุบันได้มีการออกใบอนุญาต ให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
และมีอาวุธปืนซ้ำขนาดอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลของทางราชการที่นายทะเบียนอาวุธปืนฯ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบระบบฐานข้อมูลอยู่แล้ว
๒. ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๙ กำหนดว่า ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ให้ออกให้แก่บุคคลสำหรับใช้ในการป้องกันตัวหรือทรัพย์สิน หรือในการกีฬา หรือยิงสัตว์ เท่านั้น
โดยไม่ได้กำหนดให้ประชาชนต้องแสดงเหตุผลพิเศษเฉพาะกรณีอื่นๆ ในการมีและใช้อาวุธปืน นอกจากนี้ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๖ (๒)
กำหนดว่าในการขอ และการออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ให้ออกเป็นกฎกระทรวง
๓. คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้อง กับการไม่อนุญาตให้ประชาชนครอบครองอาวุธปืนเพิ่มเติม หากได้ครอบครองอาวุธปืน สั้น ๑ กระบอก ยาว ๑ กระบอกนั้น ออกขณะนาย วัน มูฮัมหมัด นอร์ มทา
เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีผลบังคับใช้เพียง ๖ เดือน และได้หมดอายุไปหลายปีแล้ว
๔. เมื่อมีการใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน อาวุธปืนนั้นจะต้องถูกนำไปตรวจสอบ ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีอาวุธปืนลักษณะเดียวกันมากกว่า ๑ กระบอกเพื่อการป้องกันตัวอย่างต่อเนื่อง
๕. ในการที่ข้าพเจ้าครอบครองอาวุธปืนในลักษณะใกล้เคียงกันอยู่แล้วย่อมเป็นการชัดเจนว่าข้าพเจ้ามีความรู้ความสามารถในการใช้อาวุธปืนได้อย่างปลอดภัย
และเคารพกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด จึงเป็นเหตุผลอันชัดเจนในการสนับสนุนว่าข้าพเจ้ามีคุณสมบัติที่จะใช้สิทธิตามกฎหมายครอบครองอาวุธปืนเพิ่มเติมได้อีก