ชัดเจนมากครับ คือผมผิดเองครับที่ไม่บอกชัดเจนเรือง ละลาย โทษที คือว่า ไม่ใช้ละลายใน ลำกล้องน่ะครับ คือผมเอาประแร้งจี้ครับมันก็ละลายและไวมากๆๆด้วยครับ และที่จี้หัวของจริงไปมันจะช้ากว่ามากครับ ผมเลยเอามาใช้คำพูดว่า ลูกจริงหัวแน่นกว่า
โลหะหลัก ๆ ในหัวกระสุนคือตะกั่วครับ ... เพราะตะกั่วมีความหนาแน่นมาก ... ในปริมาตรที่เท่ากันตะกั่วจะหนักกว่า ...
ในกระสุนจริง ถ้าใช้โลหะอื่นแทนตะกั่ว น้ำหนักจะผิดไปมากครับ ... มีผลต่อวิถีกระสุนครับ
ช้วยแนะ นำ ด้วยครับคนอืนที่ไม่รู้แบบผมจะได้รู้ครับ ผมไม่เถียงท่านหรอกครับ มันไม่ดีครับ
ที่คุณหมอ rute ท่านถาม ... ท่านคงไม่ได้มีเจตนาอะไร มากไปกว่า การให้ความรู้ครับ ....
ข้อ ๑ และ ข้อ ๒ เป็นการกำหนดนิยาม ... หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า ... ดูก่อนว่าคิดตรงกัน ... ว่า ลูกซ้อม คือลูกหัวตะกั่วล้วน (สีเทาๆ ดำๆ) ... ลูกจริง คือลูกแบบอื่น ๆ ที่มีสีแดงบ้าง สีเหลืองบ้าง บางแบบมีรู บางแบบเปิดให้เห็นสีของใส้ใน (เทา ๆ ดำๆ) ฯลฯ
หัวกระสุนแทบทุกแบบจะมีตะกั่วเป็นพื้นฐานครับ และในลูกจริง จะมีการสร้างเปลือกหุ้มลูกตะกั่วนั้นไว้ ... เพื่อหวังผลในเรื่องคุณสมบัติต่าง ๆ หรือหวังผลในเรื่องความน่าเชื่อถือ เมื่อนำไปใช้งาน ... โลหะที่มาทำเปลือก เท่าที่ทราบมี ทองแดง ทองเหลือง นิเกิล เหล็ก ....
ข้อ ๓ ท่าน ๆ คงทราบแล้วว่า ... ลูกจริง กับ ลูกซ้อม นอกจากหัวกระสุนที่มีลักษณะต่างกัน ยังมีจำนวนดินปืนในปลอกอีกที่ต่างกัน ... เพราะเวลายิง ลูกจริง มันดีดแรงกว่าลูกซ้อม
เมื่อกลับมาประเด็นของ จขกท. ... การใช้ลูกจริง ยิงซ้อม ... ก็จะทำให้ปืนได้รับแรงกระทำจากดินปืนของลูกจริง มากกว่าการใช้ลูกซ้อม ยิงซ้อม .... กระแทกแรงกว่า มากครั้ง ก็น่าจะทำให้การสึกหรอมีมากกว่า ... แต่ผมยังเห็นว่า เป็นปกติของปืน เพราะมันออกแบบให้ยิงลูกจริง...
ข้อ ๔ ก็วกกลับมาเรื่องลำกล้อง ทุกท่านทราบอยู่แล้วว่า ลำกล้องปืนส่วนมากทำมาจากเหล็ก .... ซึ่งแข็งกว่าตะกั่ว .... และแข็งกว่าโลหะที่ใช้เคลือบลูกกระสุนส่วนใหญ่มากครับ
ดังนั้นการที่ลำกล้องปืนจะสึกหรอเนื่องจากโลหะที่ใช้ทำหัวกระสุนนั้น ... ผมเองยังมองว่ายากครับ ... ยากกว่าการสึกหรอจากการใช้งานโดยไม่ดูแลรักษา และการใช้งานผิดวิธีครับ ...
สรุปว่าการใช้ลูกจริงยิงซ้อมนั้น ... นอกจากเสียเงินมากกว่าแล้ว ก็น่าจะพอบอกได้ว่า ปืนจะดูโทรมเร็วกว่าครับ ....