ขอบคุณคุณgms ครับ ................
แล้ว"เผด็จการทางรัฐสภา" เป็นอย่างไรครับ? ..................
ยอมรับว่ามีครับ..แต่แยกกันยากระหว่างเสียงข้างมาก และเผด็จการ
ประชาธิบไตย..ต้องใช้เสียงข้างมาก..อาจถูกมองว่าเป็นเผด็จการในบางครั้ง
ประชาชนต้องช่วยกันเลือกนักการเมืองดีมีคุณภาพ..เข้าไปช่วยคานอำนาจ
สนับสนุนสมาชิกรัฐสภาที่ออกมาเปิดโปงเผด็จการรัฐสภา..ผมเชื่อว่าถ้า
แกนนำพันธมิตลงสมัครรับเลือกตั้ง..จะเป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพมาก
บวกกับ
อำนาจตุลาการที่ล้นเหลือที่ได้จากรธน.50 เผด็จการรัฐสภาต้องน้อยลง
แต่ต่้องใช้เวลา ใช้ความอดทน..แต่แกนนำพันธมิตรทนไม่ไหวครับ..อยากเห็นในช่วงชีวิตตนเอง..ซึ่งเวลาเหลือน้อย ครับ
เรียนคุณgms ครับ .................
อำนาจตุลาการ ไม่ได้มีล้นเหลือหรือมากไปกว่าเดิมนะครับ .................. ยังคงมีอำนาจเท่าเดิม ตามที่ตัวบทกฏหมายกำหนด
เพียงแต่ รธน.50 นั้น ................. มีบทกำหนดให้มีการควบคุมการใช้อำนาจหน้าที่และการดำเนินการทางการเมืองที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น....................เพื่อป้องกัน มิให้มีการทุจริตทางการเมืองได้ง่าย............โดยมีบทลงโทษที่ชัดเจน ในการกระทำความผิดตาม รธน.
นักการเมืองที่จะเข้ามาบริหารบ้านเมือง เมื่อได้ดำเนินการไปตามที่ รธน.50 กำหนด ................ ผมไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรเลย เพราะทำถูกต้อง .................... อำนาจทางตุลาการ ก็ไม่สามารถที่จะเล่นงานได้............
ก็คนทำถูกกฏหมาย ...........จะไปกลัวทำไม จริงไหมครับ
นักการเมืองที่มีความตั้งใจที่จะกระทำการทุจริตสิครับ ................ ที่กลัว รธน.50 ฉบับนี้ ทั้งคนที่เคยทำความผิด ที่จะถูกลากเข้ามาสอบสวนและลงโทษ ตามกระบวนการยุติธรรม .............. ทั้งคนที่อยากจะทุจริต ก็อึดอัด เพราะทำได้ลำบาก
ถ้าคุณจำได้ ตอนที่ใช้ รธน.ฉบับเก่า ............ประกอบกับการซื้อเสียงในสภาจนเป็น"เผด็จการทางรัฐสภา" ที่ผ่านมาของนายเหลี่ยม ................ ฝ่ายค้านไม่มีโอกาสที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นรมฯเลยนะครับ ตลอด 6 ปีกว่าๆที่ผ่านมาของ รัฐบาล ทรท. ............... เพราะข้อจำกัดของ รธน.ฉบับเก่า รวมทั้งเสียงในสภาที่เขาซื้อไว้หมด............ขนาดที่พรรคการเมืองหลายพรรค ต้องยุบไปรวมกับ ทรท. ...........
นายเหลียม กลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่สุด ............. จำได้ไหมว่าเมื่อจะมีการเปิดสภาเพื่อซักฟอก นายเหลี่ยมยังยุบสภา เพื่อหนีอภิปราย แล้วถ่วงเวลายืดการเลือกตั้งออกไป.................เพื่อให้ กกต.(ชุดอย่างหนา)พรรคพวกของตนมีเวลาเตรียมการช่วยเหลือตนเองในการเลื้อกตั้ง..............จนมีการทุจริตในการเลือกตั้ง ที่พรรคพวกตนเองช่วยกันเสียจนเสียท่า..............จนเกิดการยึดอำนาจขึ้น..............และกระบวนการสอบสวนก็ดำเนินไปจน กระทั่งมีพรรคการเมืองถูกยุบไปสอง-สามพรรค รวมทั้ง ทรท. .................
นักการเมืองที่บอกว่า รธน.50 จุกจิก ทำให้ทำงานลำบากที่เคยได้ยินกันมานั่นแหละครับ ............... ที่ส่วนลึก อึดอัดกับบทบัญญัติของ รธน.ฉบับนี้ ....................เพราะโกงกินลำบาก ถูกตรวจสอบง่ายๆ..........
เลยต้องหาวิธีการแก้ไขไงครับ ................
ผมคิดอย่างชาวบ้านๆว่า ............... จะแก้ รธน.50 กันไปทำไม? แก้แล้วชาวบ้านอย่างเราๆท่านๆ จะได้ประโยชน์อะไร ทำไมนักการเมืองทั้งหลาย ไม่ระดมสมอง มาพัฒนาประเทศ ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ให้ประเทศชาติเจริญขึ้น ให้ ฯลฯ
แต่นี่อะไร? ................. ตั้งรัฐบาลได้ ตั้งสภาได้ จะแก้ไข รธน.50 กันอย่างเดียว ไม่สนใจปากท้องของประชาชนเลย
ถ้า รธน.50 ทำให้นักการเมืองเหล่านี้ อึดอัด ทำงานกันลำบาก ............. ก็ไม่ต้องมาลงสมัครรับการเลือกตั้งครับ ให้คนที่เขาไม่อึดอัด(เพราะไม่โกง) มาทำงานแทน ..................
คนเก่งๆบ้านเราเยอะแยะไป .................
ตกลงนักการเมืองเหล่านี้ทำเพื่อใครครับ ................คุณgms ตอบผมหน่อย
ผมถึงบอกไงว่า คุณ gms ซื่อและบริสุทธิ์เกินไป .................... คุณ gms ต้องศึกษาเพิ่มเติมให้มากๆ และ เปิดใจคบหาคนให้หลากหลายสาขาครับ .....................
คุร gms จะได้เห็นจริงด้วยกระบวนการทางความคิดของตนเอง
ด้วยความเคารพ