--------------------------------------------------------------------------------
วิเคราะห์ ได้น่าอ่าน.. ครับ

พธม.-พปช.แพ้น็อค การเมือง...ยามนี้ ไม่ว่าใครต่อใครฟันธงล่วงหน้าไม่ได้เลยว่า มันจะออกหัวหรือก้อย
ชะตากรรมของบ้านเมืองที่มวลชนเสื้อแดงและพลพรรคสีเหลือง ระดมกำลังกันออกมาตรึงพื้นที่ไว้แบบไม่ยอมให้กันและกันนั้น
มันส่อแววการปะทะของทั้งสองฝ่ายเป็นแน่แท้
เพราะทั้งสองฝ่ายเมินเสียงเรียกร้องทั้งในและต่างประเทศที่รุมสับทั้งสองขั้วให้ยุติความขัดแย้ง....
เกมที่พันธมิตรฯยึดสามสถานที่สำคัญและแผนดาวกระจายเพื่อกดดันตามข้อเสนอบีบรัฐบาลน้องเขย โดยมิคำนึงถึงแบบแผนและสามัญสำนึก รวมทั้งอาการกร่างแบบไม่เลือกหน้า อีกทั้งการไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง
ใช่ว่าจะได้รับเสียงสรรเสริญ....
ผลกรรมของประเทศที่แกนนำพันธมิตรฯและผู้ร่วมสนับสนุน กระทำไว้ให้ลูกหลานรับไปนั้น
ถามคำเดียวว่า ใครจะแอ่นอกรับผิดชอบด้วยวิธีการใด
ความเสียหายของ"สยามประเทศ " ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะชดใช้ด้วยชีวิตหรือเงินตรามากมายเพียงใด มันก็ใช่ว่าจะทดแทนกันได้ เพราะความแตกแยกในสังคมไทยมันถึงจุดสุดยอดที่มิรู้ว่าจะใช้สิ่งใดเป็นกาวใจเชื่อมความสามัคคีของคนในชาติให้กลับคืนมาได้
ส่วนครม.ชุดนี้ ที่ยามนี้เปรียบได้ดั่ง"เป็ดง่อย "นั้น มนต์ขลังและบารมีของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในการบริหารบ้านเมืองนั้น คล้ายว่าจะสิ้นความศักดิ์สิทธิ์แล้ว
การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ใช่ว่า ผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้งสังคมจะยอมรับเท่าที่ควร
และบุคคลเหล่านี้ยังยื่นเงื่อนไขที่เจ้าตัวมิอาจปฏิเสธได้แถมไปอีกดอก
เมื่อบวกกับชะตากรรมของพรรคพลังประชาชนที่ใกล้จะหมดลมหายใจในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้าในคดียุบพรรคแล้วนั้น... มันทำให้"อายุขัย"ของรัฐบาลผสมชุดนี้ใกล้ที่จะ"เอวัง "แล้ว
หลายคนสงสัยว่า บ้านเมืองจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป
หมากการเมืองบนกระดานที่พอจะอ่านได้ในช่วงนี้นั้น หากพรรคพลังประชาชนต้องสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง สิ่งที่สังคมรู้แล้วคือไพร่พลต้องไปรวมตัวกันที่พรรคเพื่อไทย
และงานนี้มิต้องสงสัยว่า "ทักษิณ ชินวัตร " และทีมงานจะต้องเคลื่อนกองกำลังมาบัญชาการเกมรบในภูมิภาคนี้แบบเกาะติดและสั่งการให้สมชายและลิ่วล้อเดินเกมตามใบสั่ง
คีย์แมนการเมืองยามนี้ ทักษิณคือคนที่กุมชะตากรรม ขณะที่พันธมิตรฯและแนวร่วมนั้นคือฝ่ายที่ต้องสู้แบบมือเปล่าและต้นทุนต่ำ
แต้มต่อที่เคยมีแต่กลับตกเป็นรองแบบพลิกกลับในช่วงสั้นๆแบบนี้
มองได้ว่า"ทักษิณ "คือคนชนะในชอตนี้และน่าจะวางเกมการเมืองในช่วงหน้าว่าจะเลือกแผนใดในการขยับหมาก
และสิ่งแรกที่"นายใหญ่ "ต้องกระทำหลังจากตั้งลูกน้องเป็นทายาทการเมืองรุ่นที่สี่
นั่นคือ การเช็คบิล พันธมิตรฯ และกลุ่มสนับสนุนทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นให้สัมฤทธิ์ผลก่อน
เพราะกลุ่มนี้ คือ "ขวากหนาม" สำคัญที่สกัดเส้นทางของทักษิณมาตลอด
มวลชนเสื้อแดง "ตัวเบี้ย" ที่"อดีตฮีโร่หน้าเหลี่ยม " ใช้เป็นอาวุธชีวภาพในการรุกไล่แบบโต้กลับฉับพลัน
จากนั้นกระบวนการประชาธิปไตยรวมทั้งอำนาจฝ่ายยุติธรรมที่ "ทักษิณ" โจมตีมาหลายครั้งหลายหนนั้น จะเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขให้ตัวเองได้รับอานิสงส์
"พรรคเพื่อไทย "น่าจะรับใบสั่งนี้ไปแก้ไขเพื่อ "ปลดล็อค" ให้นายใหญ่ กลับมามีอำนาจเต็ม
ฉะนั้นการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของ "ว่าที่รัฐบาลใหม่ " ต้องรับไม้จากนายสมัคร สุนทรเวชและนายสมชาย ที่วางไว้ไปจัดการให้สำเร็จ
แต่ตอนนี้ยังมิรู้ว่า ลิ่วล้อ "เฮียเหลี่ยม "จะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนในการดำเนินการ
เพราะ"เกมหนัก"และ"เกมเบา"ทางการเมืองในประเด็นรัฐธรรมนูญ และ"คดีความ"ของ"นายใหญ่"ที่พรรคพลังประชาชน เคยขยับแบบชักเข้าชักออกจนดูเหมือนว่าไร้ความจริงใจในช่วงที่ผ่านมานั้น "ทักษิณ"และทีมงาน น่าจะประเมินผลดีผลเสียได้บ้างแล้วว่า ต่อไปนี้ควรใช้วิธีใด
ส่วนพันธมิตรฯนั้น"เฮียเหลี่ยม"น่าจะอ่านไต๋ ออกว่าจะแสดงอารยะขัดขืนแบบนี้ได้ไม่นานเพราะสังคมไม่เอาด้วย
แต่ใช่ว่า.. ทักษิณจะกลับมากุมสภาพได้เต็มถังเช่นเดิม เพราะข้ออ้างแบบน้ำขุ่นๆที่"เจ้าตัว" แสดงออกในช่วงที่ผ่านมานั้น สังคมโลกและสังคมไทยรู้ไส้รู้พุงนายใหญ่หมดแล้ว
และเมื่อถึงตอนนี้เหลือแต่เพียงว่า ทักษิณจะสร้างภาพลักษณ์ใหม่อย่างไรเท่านั้นเอง
http://www.oknation.net/blog/darknews/2008/12/01/entry-1