ไม่อยากเชื่อ ว่าคนที่เคยเป็นนักสู้เมื่อวันวาน จะเป็นนักสู้ของคนหน้าเหลี่ยมในวันนี้
----------------------------------------------------------------
วิสา คัญทัพ เกิดที่ ลพบุรี เติบโตในยุคเผด็จการครองเมือง เรียนจบชั้นเตรียมอุดมศึกษาจาก โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา แล้วเข้าศึกษาต่อที่คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นผู้นำนักศึกษาทำกิจกรรมก้าวหน้าในมหาวิทยาลัย จนถูกอธิการบดีในสมัยนั้นสั่งลบชื่อเขาและเพื่อนรวม 9 คน จนเกิดกรณีชุมนุมใหญ่ต่อต้านการลิดรอนสิทธิเสรีภาพนักศึกษาเมื่อวันที่ 21-22 มิถุนายน พ.ศ. 2516 จากนั้นวิสา คัญทัพเข้าร่วมกับเพื่อนตั้ง "กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ" เพื่อเคลื่อนไหวให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย จนถูกจับกุมคุมขังเป็น 1 ใน 13 กบฎรัฐธรรมนูญ ในเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516
วิสาเป็นนักคิด นักเขียน เป็นกวี เป็นศิลปินเพลงเพื่อชีวิต เข้าสู่วงการหนังสือโดยเริ่มต้นร่วมกับเพื่อนจัดทำหนังสือ "วรรณกรรมเพื่อชีวิต" ต่อมาเริ่มเขียนเพลงครั้งแรกเป็นเพลงแนวที่เรียกว่า "เพื่อชีวิต" เพลงแรกร่วมกับ สมคิด สิงสง และ สุรชัย จันทิมาธร เขียนเพลง "คนกับควาย" เพลงที่สองเขียนเนื้อร้องเพลง "คนภูเขา" ให้สุรชัย จันทิมาธรใส่ทำนอง เพลงที่สามร่วมกับ ประเสริฐ จันดำ เขียนเพลง "จดหมายชาวนา" เพลงที่สี่เขียนคำร้องทำนองด้วยตัวเองเป็นเพลงสุดท้าย ขณะเกิดเหตุการณ์ลอบฆ่าลอบสังหารผู้นำฝ่ายประชาชนจำนวนมาก ชื่อเพลง "น้ำท่วมฟ้าปลากินดาว" ให้วงคาราวาน โดยมีเนื้อร้องตอนหนึ่งว่า "น้ำท่วมฟ้า ปลากินดาว นกเหินหาวสู่สายชล คนดีถูกฆ่ากลางถนน คนชั่วขึ้นนั่งบัลลังก์บน ฟ้าฝนจึงไม่ตกมา"
วิสาเข้าป่าหนีการปราบปรามจากอำนาจรัฐ ใช้ชื่อ "สหายตะวัน" ขณะอยู่ทางภาคเหนือ และ "สหายไพรำ" เมื่ออยู่ทางภาคอีสาน เข้าร่วมต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2519 ร่วมกับเพื่อน
อดิศร เพียงเกษ "สหายศรชัย" จัดตั้งวงดนตรีและเริ่มร้องเพลงเอง บันทึกเสียงส่งเพลงออกอากาศทางสถานีวิทยุคลื่นสั้น "เสียงประชาชนแห่งประเทศไทย" มีผลงานเด่น ๆ อาทิ บินหลา, เจ็ดสิงหาสู้บนทางปืน, รำวง 1 ธันวา, ลุงสินป้าไสว, มาลำเลียงเด้อสหาย ฯลฯ
ปลายปี พ.ศ. 2523 ออกจากป่า เริ่มเขียนเพลงประกอบภาพยนตร์และเพลงเพื่อชีวิตทั่วไป มีเพลงเด่น ๆ ที่เป็นอมตะมากมายเช่น ร้อยบุปผา, รอยอดีต, กำลังใจ, แรงเทียน, ออนซอนเด, เพลงพิณ, รักที่อยากลืม, กลกามแห่งความรัก, สวรรค์ชั้นเจ็ด ฯลฯ ปัจจุบันวิสา คัญทัพ ยังคงเขียนหนังสือ เขียนเพลง ร้องเพลง และสร้างสรรค์ผลงานตามแนวทางที่ตนเองเชื่อมั่นและศรัทธา เหมือนตอนหนึ่งในเพลง "กำลังใจ" ที่เขาแต่ง "ชีวิตที่ผ่านพบ มีลบย่อมมีเพิ่ม ขอเพียงให้เหมือนเดิน... กำลังใจ"
"
ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาปสูญ ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่ ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"
เป็นบทกวีวรรคทองของวิสา คัญทัพ เขาเขียนภายหลังได้รับอิสรภาพจากการจับกุมคุมขังหลัง 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ด้วยความประทับใจในพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชนบนถนนราชดำเนิน----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทกวีวรรคทองของคุณวิสา ไพเราะมาก แต่คุณวิสาอาจสับสนหรือแยกแยะไม่ออกในวันนี้ว่าพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชาชนชาวไทยในปัจจุบันนั้นอยู่ตรงส่วนไหนของประเทศไทย หรือต่างจากพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวไทยในอดีตอย่างไร
แถม...บทกวีจาก.. วิสา คันท้อง > ระลึกถึง วิสา คัญทัพ
http://www.wisamun.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538697234&Ntype=5ค่ายนี้มีอาถรรพ์ครับ เป็นเรื่องแปลกแต่จริงไม่อิงนิยายวิทยาศาสตร์... ท่านเซอร์อาเธอร์ ซี คลาร์กสามารถงงงันได้สามสิบแปดตลบ(ตัวเลข 38 ตลบก็มีที่มาและที่ไป อยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องดัง "2001 จอมจักรวาล")...
แต่ท่านเซอร์อาจงงได้เป็นตลบที่ 39 เพราะฟาโรห์แห่งอีจิปต์(หลายองค์แยะมาก แยะจนจำชื่อไม่ได้ เพราะงงหลายองค์) เคยงงมาแล้วองค์ละอย่างน้อย 48 ตลบ... ที่มาไม่ได้ว่าทำไมค่ายนี้จึงมีอาถรรพ์...
แต่ถึงแม้จอมปราชญ์ทั้งหลายไม่ทราบที่มา... แต่ก็ทราบที่ไปว่าในที่สุดค่ายนี้จะทำให้สมองฝ่อ ฝ่อไม่เหลือดี ชีวีไม่มอดม้วย แต่จะซวยติดคุกโดยถ้วนหน้า เพราะทำผิดกฎหมายด้วยความโง่ เถื่อน และถ่อยอันเกิดจากสมองฝ่อ... ตรรกะในหัวไม่ทำงาน...
แปลกมาก... เป็นศูนย์รวมของความสมองฝ่อ...
แปลก... แปลก... แปลก...