ตำรวจตรวจสอบกระสุนปริศนาตกใส่บ้านองคมนตรี พบกระสุนเจาะทะลุหลังคามาที่บริเวณโต๊ะรับแขกภายในบ้านเหตุเกิดช่วงเทศกาลปีใหม่ โชคดีไม่ใครได้รับบาดเจ็บ คาดฝีมือพวกคึกคะนองยิงปืนฉลองปีใหม่บริเวณบ้านใกล้เคียง
วันนี้ (4 ม.ค.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ศาสนุจารย์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวน สน.เตาปูน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เดินทางเข้าตรวจบ้านเลขที่ 502/1 ถนนประชาราษฏร์สาย 2 แขวงและเขตบางซื่อ กทม.ซึ่งเป็นบ้านของนายอำพล เสนานรงค์ องคมนตรี หลังได้รับแจ้งจากพล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ผู้ช่วยฝ่าย เสธฯ กระทรวงมหาดไทย หลานของนายอำพล ว่ามีกระสุนปืนปริศนา ตกใส่ภายในบ้านจึงเดินทางมาตรวจสอบ
บ้านหลังที่เกิดเหตุปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ซึ่งบริเวณนั้นมีบ้านอยู่ทั้งสิ้น 7 หลัง ส่วนหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ พบรูกระสุนเจาะทะลุหลังคา ผ่านฝ้าเพดานตกลงมาบริเวณโต๊ะรับแขก ภายในบ้านนอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนขนาด.38 ตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายอำพล องคมนตรี กล่าวว่าเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ซึ่งมีญาติพี่น้องมาประมาณ 40 คน งานเลี้ยงเสร็จสิ้น เวลา 21.00 น.ญาติจึงเดินทางกลับ เหลือเพียงตนและภรรยาจากนั้นได้เข้านอนเวลา 22.00 น. กระทั่งเมื่อช่วงเวลา 24.00 น. ได้ยินเสียงยิงปืนและเสียงจุดพลุไฟดังไปทั่วบริเวณรอบบ้านจึงลุกขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ ทราบว่าเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ ซึ่งขณะนั้นเองตนได้ยินเสียงดังขึ้นภายในบ้านเหมือนมีวัตถุหล่นใส่ แต่ไม่ได้สนใจมากนักและได้กลับเข้านอนตามปกติ
องคมนตรีกล่าวต่อว่าในช่วงเช้าของวันที่ 1 ม.ค. 52 แม่บ้านได้เข้ามาทำความสะอาดก็พบวัตถุกระสุนตกอยู่และเมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็พบว่าฝ้าเพดานทะลุเป็นวงกว้าง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดีกับผู้ใดแต่ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคนว่าไม่ควรยิงปืนขึ้นฟ้า โดยไม่มีสาเหตุเพราะผลการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำอาจเกิดอันตรายและทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ เนื่องจากมีบางกรณีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วทำให้มีผู้เสียชีวิตเช่นกัน ทั้งนี้ในบางประเทศเช่น อิหร่าน ก็มีกฎหมายห้ามผู้ใดยิงปืนขึ้นฟ้า รวมถึงตำรวจก็มีการห้ามพกอาวุธปืน
ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 4 ม.ค. พล.อ.กิตติศักดิ์ ได้โทรศัพท์ไปอวยพรปีใหม่แก่ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ และได้บอกกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ พล.ต.อ.จงรัก เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมด้วยกลุ่มงานพิสูจน์หลักฐาน (พฐ) เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้เป็นเหตุการณ์การลอบทำร้ายแต่อย่างใด หากแต่เป็นพวกมือบอนที่ยิงปืนขึ้นฟ้าซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดร้ายแรง เพราะอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ ในขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบเร่งตรวจสอบว่าบริเวณใกล้เคียงมีบ้านหลังใดบ้างที่จัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่เพื่อจะได้ติดตามหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า เบื้องต้นมอบหมายให้พ.ต.ท.พิสิฐชัย สุนทรธนปรีชา พงส.(สบ 2) สน.เตาปูน รับเรื่องไว้และรอให้นายอำพลเดินทางเข้าแจ้งความอีกครั้ง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้มาตรการหาข่าวในละแวกใกล้เคียง ว่าบ้านใดบ้างที่น่าจะมีอาวุธปืน หลังจากได้อาวุธปืนแล้วจะนำมาตรวจกับหัวกระสุนปืนที่พบในบ้านอีกครั้ง หากตรงกันก็จะจับกุมดำเนินคดีในข้อหากระทำการประมาทต่อไป
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154292 เจ้าของกระสุนปืนปริศนา เตรียมตัวงานเข้าครับ ตร. ลองควานหาในรัศมีแถวนั้น ว่ามี ป.4 ออกให้ ขนาด .38 อยู่กี่กระบอก เรียกมาตรวจหัวกระสุน ตรงกับผู้ใด รับรองแจ็คพอตแตก แน่ แต่อ่านข่าวนี้ แล้วได้แง่คิดหลายอย่าง
1) ในบางประเทศเช่น อิหร่าน ก็มีกฎหมายห้ามผู้ใดยิงปืนขึ้นฟ้า รวมถึงตำรวจก็มีการห้ามพกอาวุธปืน อันนี้เยี่ยมมาก แต่อย่างว่าประเทศเขาใช้กฎหมายอิสลาม ลงโทษรุนแรง
2) กระสุนปืน ยิงขึ้นฟ้านี่ รัศมี มันปลิวไปได้ไกลหลายกิโลเมตรไหม ฟังมาจากทีวี ว่าบางทีปลิวไปไกลหลายกิโลก็มี
3) หลังจากปลิวขึ้นฟ้าแล้ว เวลามันลงสู่พิ้นนั้น โมเมนตั้ม + แรงโน้มถ่วง นี่สามารถทะลุหลังคาได้เลย ถ้าลงกบาลคนก็จบเห่ อันตราย จริงๆ
