ได้ข่าวว่า ตอนแรกยังไม่ชักปืนไม่ใช่หรอครับ พอ รปภ เข้าไปพี่ทั่นชักปืนขึ้นมายิงเลย
แบบนี้ประเมิณยากเหลือเกิน เดาใจไม่ถูกเลยจะยกมาขู่หรือยิงจริงๆ

ถูกต้องแล้วครับ
ผมดูจากภาพวงจรปิด รปภ. เข้าไปห้ามขณะจะทำร้ายผู้หญิง ยังไม่รู้ว่าคนร้ายมีปืน
การห้ามก็แค่พูดจาเท่านั้น ไม่ได้มีอาการคุกคามแต่อย่างใดครับ
แต่ที่ไหนได้ คนร้ายดันชักปืนออกมาจ่อเลย
และไม่ได้มีเวลามากในการตัดสินใจ ครับพี่น้องก็เลยตกเป็นเหยื่อตามข่าว หลังจากนั้นผู้หญิงคงตกใจมาก ไม่กล้าไปด้วย เลยโดนอีกคน
ขอแสดงความเสียใจแก่ญาติผู้เสียชีวิต
และขอประนามการกระทำของคนใจสาด เกิดมาเป็นคนเสียชาติเกิด ครับพี่น้อง โคด.....เลวครับ

ดูใหม่สิครับ ยามรู้ว่ามีปืนในตั้งแต่ตอนที่เดินออกมานอกป้อมยามแล้วนะครับ
และท่านยามประมาททำในสิ่งที่ไม่ควรอย่างหนึ่งคือ
เอามือผลักปืนคนร้าย 


เหมือนเคยได้ยินว่า อย่าแสดงทีท่าว่าจะสู้หรือไม่เกรงกลัวคนที่ถือปืน เพราะคนร้ายจะระวังตัวมากขึ้น เช่นการผลักปืน อาจทำให้คนร้ายนำนิ้วเข้าโกร่งไกเตรียมลั่นไกทันที
ส่วนจะทำยังไงนั้น ผมคิดเอาเองว่า ควรทำให้คนร้ายผ่อนคลายที่สุดถ้าทำได้เพราะเรื่องอาจจะจบด้วยดี แต่ถ้าหากเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นก็วางแผนให้ดีแล้วกัน อาจจะยกมือขึ้นทำทีว่าเรายอมทุกอย่าง และไม่มีอาวุธ ทำให้มือเราใกล้ปืนคนร้ายไปอีกโขทีเดียว ดีกว่าเอามือไพล่หลังทำให้กว่ามือเราจะไปถึงปืนมันไกลเป็นร้อยเท่ากว่าระยะทางระหว่างนิ้วกับไกปืนของคนร้าย
ส่วนทำไงต่อผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ
ยกมือขึ้นพูดว่าอย่าทำอะไรผมผมไม่เกี่ยวถอยหลังหลบมุมอาคารแล้วก็วิ่งได้ระยะสักยี่สิบหลาแล้วค่อยดูจังหวะชักปืนยิงกับมัน ก็งูๆปลาๆละครับไม่เคยเจอเรื่องร้ายๆกับตัวเองสักทีแต่คิดว่าถ้าระยะเอื้อมมือถึงกันคนฝึกปืนเยอะกับคนไม่ฝึกโอกาสได้เสียเท่ากันเป๊ะ คนเป็นปืนเก่งปืนจะได้เปรียบพวกนักเลงก็ต้องมีระยะสักหน่อย จริงไหมครับขอคอมเม้นด้วยครับ