ถ้าเก็บแบบกลัวถูกจับ แยกปืน แยกกระสุน ใส่กระเป๋าปิดล๊อค ไว้ท้ายรถ = อย่าเอาไปเลยน่าจะดีกว่า เพราะ ถึงทำทุกอย่างแบบที่บอก ตรวจเจอก็ต้องคุยกันนานอยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นเมื่อต้องการนำมาใช้ปกป้องชีวิตตัวเองหรือครอบครัวก็ทำไม่ได้ทันทีทันใด ถ้าต้องไปคนเดียวยามวิกาลที่เปลี่ยวมากหรือรู้กิติศัพท์ว่าโจรเยอะ วางไว้ข้างตัวเลยน่าจะดีที่สุด ตำรวจส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีเหตุผลมากขึ้นกว่าเดิมแต่ที่ยังทำมาหากินอยู่ก็ยังมี สรุปว่าเอาปืนไปไม่มี ป.12 ต้องแล้วแต่ดวง
จุดประสงค์ในการนำพาปืนแบบ แยกปืนกับแยกกระสุน ของผมมี 3 กรณีเท่านั้นครับคือ
1. นำพาไปสนามยิงปืนเพื่อฝึกซ้อม
2. นำพาในกรณีที่เดินทางไปพักที่บ้านต่างจังหวัดเป็นเวลานานๆ (พอถึงบ้านก็เอาเก็บไว้ที่บ้านไม่พกพาไปไหน) เนื่องจากกลัวปืนหาย
3. กรณีที่ซื้อปืนจากบุคคลอื่นที่ต่างจังหวัด และนำพาเข้ามาขอรับโอนอาวุธปืน ที่ กทม.
สำหรับ กรณีที่ 3 ผมเคยถามที่นายทะเบียนกทม. เกี่ยวกับการขอ ป.3 รับโอนจากบุคคลโดยนำเอกสารใบ ป.4 และ ใบมอบอำนาจ ของ
ผู้โอนมายื่นขอ ป.3ก่อน โดยไม่นำปืนมา แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถทำให้ได้จะต้องนำปืนมาตรวจก่อนทำการรับโอนด้วย
ซึ่งข้อ 3. นี่คิดว่าเป็นปัญหากับผมมากเนื่องจากปืนที่จะรับโอนอยู่ทางภาคเหนือขณะเดินทางกลับ กทม.เกิดฟลุ๊ค เจอด่านตรวจเข้าให้คงจะเป็นเรื่องยาว ตอนแรกเคยอ่านกระทู้นึงพูดถึงการประกันภัยอิสระภาพก่อนกระทำความผิดว่าสามารถใช้ยื่นประกันตัวได้ ผมก็เลยติดต่อกับ บ.ประกัน เพื่อจะทำ
ประกันวงเงินซัก 1แสนบาท (เบี้ยประมาณ 750บาท) ปรากฏว่าเขาไม่รับทำให้ครับ พร้อมกับแจ้งว่าการทำประกันแบบนี้มันจะคุ้มครองเฉพาะการ
กระทำความผิดแบบประมาทเท่านั้น (ซึ่งตอนนี้ก็เลยต้องพกเงินสดไว้ เผื่อประกันตัวเองล่ะครับ)