อ่านมาหลายวัน..เพิ่งมีประสบการณ์แต่ไม่ใช่งูเห่า...เมื่อวานนี้ครับ

พอดีเมื่อสัปดาห์ก่อนคุณแม่เล่าให้ฟังว่า เจองูเขียวหางไหม้เพ่นพ่านอยู่แถวที่นั่งหน้าบ้าน เหตุที่ท่านเล่าให้ฟังเพื่อที่จะได้ระมัดระวังเนื่องจากที่บ้านผมมีเจ้าตัวเล็กอายุ 2 ขวบ และเป็นจอมซนชอบเล่นและรื้อของในโรงรถเป็นประจำ
และเมื่อวานตอนเช้า ผมยังอยู่บนห้องด้านบนบ้านก็ได้ยินเสียงภรรยาตะโกนเรียกว่า เจอคราบงูบนขื่อโรงรถ และงูมันออกมาแล้ว ผมจึงคิดว่าจะทำอย่างไรดี เลยลงไปตรวจสอบจึงพบ คราบงูยาวที่ขื่อโรงจอดรถ และเห็นหัวงูโผล่ออกมาจากขื่อเหล็ก ดูเบื้องต้นไม่ทราบว่าเป็นงูชนิดใด แต่หัวไม่ใหญ่ มองดูด้วยตาความกว้างไม่น่าจะเกิน 4 ซ.ม.
จะไล่ก็กลัวมันจะหลบเข้าไปในขื่อและไม่ยอมออก เนื่องจากในโรงรถอาหารเยอะ(ลูกนกกระจอก) จะใช้ปืนยาวอัดลมเบอร์ 1 ก็กลัวพลาดหลังคาแตกหรือกระสุนสะท้อนโดนรถที่จอดอยู่

ดังนั้นผมจึงเลือก M4(BB GUN) ความเร็วที่เคยวัด 380ฟุต/วินาที ดูท่าจะเหมาะที่สุด เพราะไม่ต้องขยับรถให้งูตื่น

หิ้วปืนลงมา... ยืนยิงมุมเฉียงประมาณ 45 องศา ระยะห่างประมาณ 3 เมตร นัดแรกไม่โดน

.... แต่งูยังเฉยไม่ตกใจ นัดที่สองเข้ากลางหัวพร้อมตัวบิดออกมาเป็นเป้าใหญ่.. จากนั้นผมก็ยิงที่ตัวอีก 7-8 นัด ดูจนนิ่งไม่ขยับผมจึงใช้ไม้เขี่ยลงมา
พิสูจน์ซากงูพบว่าเป็นงูเขียวธรรมดามิใช่หางไหม้ตามที่กล่าวอ้าง ตัวยาวประมาณ 1.3 เมตร นัดที่โดนหัวกระสุนไม่ฝังแต่กะโหลกบุบบี้(คงตายตั้งแต่นัดนี้) ส่วนตามลำตัวพบว่ากระสุนฝังและบางนัดทะลุ ที่น่าแปลกใจคือถึงแม้จะยิงหัวแล้ว ลำตัวระบบประสาทยังทำงานได้กล่าวคือเอาไม้ยกขึ้นมาช่วงกลางตัว(หลังจากจุดที่โดนกระสุน)ถึงปลายหางยังสามารถที่จะขยับลักษณะเลื้อยได้
เหตุที่ยิงเมื่อวานนี้เนื่องจากพิจารณาดูแล้วมีความจำเป็นครับ จะใช้วิธีอื่นอาจเกิดความเสี่ยง จริงๆแล้วผมเคยมีประสบการณ์กับงูเห่าขนาดใหญ่แบบใกล้ชิดมาแล้ว...แต่ถ้าเราไม่ทำให้มันตกใจเดี๋ยวมันก็จะไปเอง