เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 22, 2025, 06:14:07 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 ... 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รมต.อุตสาหกรรม อย่ากินสะเดาน้ำปลาหวาน ปรุงอาหารอย่าใส่ พริก ข่า ตะไคร้ มันมีพิษ  (อ่าน 11186 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 03:57:09 PM »

     
   อกอีแป้นจะแตก...... ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  เอาสมองส่วนไหนมาคิด ประกาศขึ้นทะเบียน พืชสมุนไพรพื้นบ้านเป็นวัถุอันตราย  ยี๊

         .... ปลาดุกย่างสะเดาน้ำปลาหวานกินมาแต่เล็กแต่น้อย  พริก ขิงข่า ตะไคร้ ขมิ้นชัน  ฯลฯ  เป็นเครื่องเทศและอาหารของไทยมาช้านาน มิหนำซ้ำเกษตรกรเอามาสกัดเป็นยาปราบศัตรูพืชแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม... ดันมาประกาศเป็นวัตถุอันตรายซะงั้น.....   ท่าน กินแต่อาหารฝรั่ง ไม่เคยแตะอาหารไทยรึ ?  หรือว่ากินปุ๋ย ยาฆ่าแมลงของฝรั่งมังค่า จนหน้ามืด สมองฝ่อ...............   แลบลิ้น แบร่ แบร่ แบร่



http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1234270769&grpid=00&catid=04

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เวลา 19:59:08 น.  มติชนออนไลน์


เอ็นจีโอต้านขึ้นทะเบียน"สะเดา-ขิง-ข่า-พริก"วัตถุอันตราย กรมแพทย์ไทยฯเตรียมถกรมว.สธ.เสนอครม.ยกเลิก

เอ็นจีโอสมุนไพรเตรียมแถลงข่าวคัดค้านขึ้นทะเบียน 13 พืชสมุนไพร เป็น "วัตถุอันตราย" กังขาหวังกีดกันทางการค้า ส่งเสริมสารเคมีมาใช้ในงานเกษตร จี้เร่งชี้แจงให้ชัดก่อนปชช.ตื่น แนะถ้าให้ดียกเลิกไปเลย ขณะที่รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯเตรียมหารือรมว.สธ.เสนอครม.ทบทวนหรือยกเลิก

รมช.สธ.เล็งหารืออธิบดีแพทย์แผนไทยกรณี13สมุนไพร

เครือข่ายหมอพื้นบ้าน เครือข่ายด้านการเกษตร และเครือข่ายฐานทรัพยากรอาหาร เตรียมแถลงเรียกร้องให้ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ชี้แจงถึงเหตุผลที่ขึ้นทะเบียนสมุนไพร 13 ชนิด เป็นวัตถุอันตราย
       
ขณะที่นายมานิตย์ นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า จะต้องหารือกับอธิบดีการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือกก่อน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า สมุนไพรทั้ง 13 ชนิด เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้าน
     
ด้านนายแพทย์ประพจน์ เภตรากาศ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก บอกว่า ประกาศดังกล่าว จะกระทบต่อวิถีชีวิตคนไทย และอุตสาหกรรมครัวเรือนและการส่งออก นอกจากนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่เคยเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานราชการ ภาคเกษตร หรือประชาชน ที่มีบทบาทในการส่งเสริมการใช้พืชทั้ง 13 ชนิด ดังนั้น จึงเตรียมหารือนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวน หรือยกเลิกการประกาศฉบับนี้

เอ็นจีโอค้านขึ้นทะเบียน13พืชสมุนไพรเป็นวัตถุอันตราย
ภายหลังจากที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ประกาศให้ผลิตภัณฑ์จากชิ้นส่วนพืช ซึ่งไม่ผ่านกรรมวิธีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี 13 ชนิด ได้แก่ 1.สะเดา 2. ตะไคร้หอม 3.ขมิ้นชัน 4.ขิง 5.ข่า 6.ดาวเรือง 7.สาบเสือ8.กากเมล็ดชา 9.พริก 10.คื่นฉ่าย 11.ชุมเห็ดเทศ 12.ดองดึง และ13.หนอนตายหยาก  เป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 1 บัญชี ข.  ทำให้เกิดกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเครือข่ายเอ็นจีโอ โดยตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการกีดกันพืชสมุนไพรไทย และจะเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้สารเคมีในอาหารมากขึ้น

นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถึงเรื่องเดียวกันนี้ ว่า เจตนาของการขึ้นทะเบียนสามารถดูได้หลายมุมมอง หากมองในแง่ดีก็อาจเพื่อต้องการควบคุมพืชที่มาสกัดเหล่านี้ให้มีคุณภาพดี ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และผู้บริโภค แต่หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็อาจจะเพื่อต้องการกีดกันการใช้สมุนไพรมาสกัดเป็นสารกำจัดวัชพืช โดยปล่อยให้มีการใช้สารเคมีทั่วไป ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นการผลักดันของผู้เสียผลประโยชน์บางส่วนแอบแฝงหรือไม่ เช่น พวกกลุ่มบริษัทยาฆ่าแมลงต่างๆ
นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งตัวระเบียบเองก็ยังเขียนไว้อย่างกว้างๆ ไม่ชัดเจน ไม่ได้เจาะจงว่าใช้เฉพาะสกัดมาทำวัชพืช หรือใช้ในการรับประทาน ในส่วนของกระบวนการนั้นก็ไม่มีการปรึกษาหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเกษตรกรหรือกลุ่มผู้ใช้พืชสมุนไพร
"ทางเครือข่ายของเราจึงเกิดความสงสัยในเจตนาการขึ้นทะเบียนครั้งนี้ว่ามีวัตถุประสงค์อื่นใดแฝงอยู่หรือไม่ ซึ่งเป็นการกีดกันการใช้สมุนไพรอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นระเบียบที่กว้างครอบคลุมเกินไป หรือกระบวนการการขึ้นทะเบียนที่ไม่รอบคอบทำให้เครือข่ายเกินข้อกังขา" นายวิฑูรย์ กล่าว
ด้านนายวีระพงษ์ เกรียงสินยศ  ผู้จัดการมูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวเรื่องเดียวกันนี้ ว่า  รู้สึกแปลกใจกับประกาศดังกล่าวมาก จริงๆ ไม่ควรที่จะมีออกมาด้วยซ้ำ เป็นเรื่องตลก และคิดว่าน่าจะมีวาระซ่อนเร้น ถึงความไม่ชอบมาพากล  และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนในกรมวิชาการเกษตรกำลังรับใช้ใครอยู่หรือเปล่า ตนก็ไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม ก่อนการแถลงข่าวในวันที่ 11ก.พ. เครือข่ายหมอพื้นบ้าน เครือข่ายด้านการเกษตร และเครือข่ายฐานทรัพยากรอาหาร ก็จะมีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาประมวลสถานการณ์ ความรู้ความเข้าใจ และองค์ประกอบต่างๆ มาหารือกันก่อนที่จำนำเสนอ ตั้งข้อสังเกตผ่านสื่อมวลชนต่อไป
ผู้จัดการมูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวต่อว่า ประกาศดังกล่าว สร้างความตกใจ หวาดวิตก ต่อสังคมมาก โดยส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกร และผู้บริโภค การที่ออกมาบอกเช่นนี้ น่าจะมีการชี้แจงให้ชัดเจนว่า ในพืชแต่ละชนิดที่ระบุไปนั้น  มีสารประกอบตัวไหนเป็นสารอันตราย ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ยึดหลักการเศรษฐกิจพอเพียง ทฤษฎีเกษตรแบบพึ่งตนเองมาใช้ในการเพาะปลูก พืชต่างๆ เหล่านี้ มีส่วนไปควบคุมแมลง และกำจัดศัตรูพืชซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อคนต่อพืชด้วยซ้ำ จึงคิดว่าควรยกเลิกประกาศไปเลย


ขณะที่ น.ส.ทัศนีย์ วีระกันต์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การจัดแถลงข่าวคัดค้านการขึ้นทะเบียนพืช 13 ชนิด เป็นวัตถุอันตราย ลงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม โดยคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้ความเห็นว่า ผลิตภัณฑ์จากชิ้นส่วนพืชซึ่งไม่ผ่านกรรมวิธีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเป็นวัตุอันตราย ซึ่งประกอบด้วย 1. สะเดา 2. ตะไคร้หอม 3.ขมิ้นชัน 4.ขิง 5.ข่า 6.ดาวเรือง 7.สาบเสือ8.กากเมล็ดชา 9.พริก 10.คื่นฉ่าย 11.ชุมเห็ดเทศ 12.ดองดึง และ13.หนอนตายหยาก  เป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 1 บัญชี ข. 
น.ส.ทัศนีย์ กล่าวว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการจัดประชุมเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2551 เพื่อเสนอให้ขึ้นทะเบียนพืชทั้ง 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตราย และในวันที่ 3 กุมภาพันธุ์ มีการขึ้นทะเบียน ซึ่งการขึ้นทะเบียนพืชทั้ง 13 ชนิดนี้ทำให้เกิดความสับสนกับทั้งผู้บริโภคและเกษตรกรที่นำพืชบางตัวมาใช้ในการกำจัดศัตรูพืช ยังมีบางชนิดที่นำมาทำสมุนไพร  การประกาศเช่นนี้ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าพืชเหล่านี้จะสามารถนำมาใช้ได้อีกหรือไม่ 
ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก กล่าวอีกว่า  การประกาศเช่นนี้จะกระทบกับประชาชนโดยตรง ต่อไปจะมีการเข้ามาควบคุมพืชทั้ง 13 ชนิด ซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากต่อเกษตรกรและผู้บริโภค และทำลายระบบเกษตรกรรมแบบยั่งยืน ดังนั้นคณะกรรมการวัตถุอันตรายต้องออกมีชี้แจงและระบุว่าสารตัวใดบ้างที่เป็นอันตราย
       ทั้งนี้ เครือข่ายหมอพื้นบ้าน เครือข่ายด้านการเกษตร และเครือข่ายฐานทรัพยากรอาหารจะมีการแถลงคัดค้านการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายทั้ง 13 ชนิด ในวันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์   เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) 912 ซ.งามวงศ์วาน 31 ซอยย่อย 7 ถ.งามวงศ์วาน อ.เมือง จ.นนทบุรี

บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:06:41 PM »

ตายห้าแล้ว  กินข่าตะใคร้ใบมะกรูดมาตั้งแต่สามขวบ จนสาสิบแล้ว  สงสัยตายก่อนแก่แหงๆ   หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:18:36 PM »

อย่าไปคิดมาก ทุกวันนี้ มีเรื่องจะให้ตาย ได้มากมาย
อยู่กันไม่ถึง ๑๐๐ ปี
ทั้ง สารเคมี ภาวะทางเสียง  ฝุ่นละออง

คิดกันไป คิดกันให้ตาย  มันก็แก้ไม่ได้
เพราะมันไม่จริงจัง
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
นายขม รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 99
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1377


ที่ว่างปลายปากกระบอกปืน


« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:28:13 PM »

สงสัยท่านรัฐมนตรี ไม่เคยกินพืชแบบนี้เลยไม่เคยได้รับสารพิษ ร่างกายก็เลยพัฒนาซะสมองไม่มีที่อยู่  ยี๊
บันทึกการเข้า

ผมจ่ายภาษีให้มาดูแลรักษาบ้านเมือง ไม่ใช่ให้มายืนดูคนเผาบ้านเผาเมือง
สหายแป๋ง คนดง
ถึงตัวเจ้าจะจากไปแต่ชื่อและความดีของเจ้าจะอยู่ในใจพี่เสมอ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2284
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53136


ป่าสร้างคนแต่คนกลับสร้างป่า ด้วยลมปาก


« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:29:17 PM »

   เวรกรรม  อีกหน่อยเขาคงห้ามเรากินข้าวหอมมะลิแน่เลย
แต่ผมสงสัยอย่าง
ทำไมเป็น รมต. อุตสาหกรรมออกมาห้ามหรือว่าข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด  สะเดา ปลูกข้าง
โรงงานไฟฟ้าถ่านหินที่หาที่สร้างไม่ได้.......คิดการณ์ไกลจริงๆท่านรมต.อุตฯ
บันทึกการเข้า

รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์ 
ยืนหยัดในความเป็นไทย


  เกิดเป็นเซื้อซาดแฮ้ง  อย่าเหม็นสาบกุยกัน.......
  ข้าราษฎรประจำไทยควรคำนึง
http://www.youtube.com/watch?v=gM1D0xIwLVo
ต้นคระกูลไทย
http://www.youtube.com/watch?v=
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:32:03 PM »

คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ประกาศให้ผลิตภัณฑ์จากชิ้นส่วนพืช ซึ่งไม่ผ่านกรรมวิธีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี 13 ชนิด ได้แก่ 1.สะเดา 2. ตะไคร้หอม 3.ขมิ้นชัน 4.ขิง 5.ข่า 6.ดาวเรือง 7.สาบเสือ8.กากเมล็ดชา 9.พริก 10.คื่นฉ่าย 11.ชุมเห็ดเทศ 12.ดองดึง และ13.หนอนตายหยาก  เป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 1 บัญชี ข.



ไอ้พวกปัญญาอ่อน
บันทึกการเข้า
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:37:39 PM »

อย่าไปคิดมาก ทุกวันนี้ มีเรื่องจะให้ตาย ได้มากมาย
อยู่กันไม่ถึง ๑๐๐ ปี
ทั้ง สารเคมี ภาวะทางเสียง  ฝุ่นละออง

คิดกันไป คิดกันให้ตาย  มันก็แก้ไม่ได้
เพราะมันไม่จริงจัง

 ถ้าประกาศขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตรายแล้ว.......... ชาวบ้านจะสกัดเอาสารสะเดา ตะไคร้หอมมาเป็นยาปราบศัตรูพืช โดยพลการได้หรือครับ อาจารย์ยอด ?
        ....  ขึ้นชื่อว่าวัตุถุอันตราย ต้องมีการจัดการและควบคุม แล้วเกษตรกรจะทำอย่างไร สกัดเองไม่ได้ ไม่ปลอดภัย ต้องไปซื้อยาฆ่าแมลงผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมมาใช้แทนหรือครับ ?
        ........ ตามี กำลังปีนเก็บสะเดามาลวกกินกับลาบเนื้อ  จนท. สาธารณะสุขผ่านมาพอดี  เฮ้ยๆๆ ลุง อย่าเก็บมากินมันมีพิษ เป็นวัตุอันตรายตามประกาศกระทรวงฯ
   ลุงต้องซื้อผักกาดขาวฉีดยา โฟลิดอลล์  ฆ่าแมลงตายเรียบมากินกับลาบ จึงจะปลอดภัย.........................  ยี๊
                    .... ถ้ามันเป็นแบบนี้หละครับ จะทำอย่างไร ?  กรณีตัวอย่าง ฟิล์มรถยนต์ก็ทราบๆกันอยู่ ชาวบ้านร้านช่องเสียเงินเสียทอง ลอกกันวุ่นวาย จับปรับกันครึกโครม สุดท้าย  ยี๊ อ๋อย
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
นายต้นงิ้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 479
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4867



« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:41:56 PM »

ดีนะ ที่ลูกเนียง ลูกตอ หน่อเหรียง ไม่โดนไปด้วย  ไม่งั้นคนด้ามขวาน ตายกันเหม็ดฉาดเลย
บันทึกการเข้า

พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:45:21 PM »

ดีนะ ที่ลูกเนียง ลูกตอ หน่อเหรียง ไม่โดนไปด้วย  ไม่งั้นคนด้ามขวาน ตายกันเหม็ดฉาดเลย
น่าจะอยู่ในข่าย แว่วว่าเป็นยาคุมกำเนิดชั้นดี  Grin   นีถ้าสกัดเป็นยาฆ่าแมลงได้คงไม่รอดเหมือนกัน...........
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:48:14 PM »

เอ้อ........ไม่มีเรื่องอื่นให้ทำ ให้คิดแล้วหรือ  Tongue Tongue

ผลิตภัณฑ์จากชิ้นส่วนพืช ซึ่งไม่ผ่านกรรมวิธีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี13 ชนิด ได้แก่ 1.สะเดา 2. ตะไคร้หอม 3.ขมิ้นชัน 4.ขิง 5.ข่า 6.ดาวเรือง 7.สาบเสือ8.กากเมล็ดชา 9.พริก10.คื่นฉ่าย 11.ชุมเห็ดเทศ 12.ดองดึง และ13.หนอนตายหยาก  เป็นวัตถุอันตราย

คราวนี้ โครงการโอท๊อปของหมู่บ้านที่จะผลิตน้ำพริกขายแบบใส่กระปุกลำบากแน่

เพราะน้ำพริกซึ่งมีพริกเป็นส่วนผสม เป็นวัตถุอันตราย ขำก๊าก ขำก๊าก

บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:53:25 PM »

อย่าไปคิดมาก ทุกวันนี้ มีเรื่องจะให้ตาย ได้มากมาย
อยู่กันไม่ถึง ๑๐๐ ปี
ทั้ง สารเคมี ภาวะทางเสียง  ฝุ่นละออง

คิดกันไป คิดกันให้ตาย  มันก็แก้ไม่ได้
เพราะมันไม่จริงจัง


มันเป็นเรื่องของการขัดขากันแบบ หาน้ำหนักทางเหตุผลไม่ได้ครับพี่
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Been
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:57:44 PM »


ส่งสัยแ_มันให้รับทานแต่ขยะ  สมองมันเลยคิดได้แค่นี้   ตกใจหน้าซีด
    ทีนี้ต้มข่าไก่ของโปรดผม ได้ขึ้นชื่อแน่ๆเลยว่าใส่ วัตถุอันตราย   แบร่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:59:28 PM โดย BEEN » บันทึกการเข้า
Ultraman Taro #รักในหลวง#
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 195
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1624



« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 05:01:35 PM »

เวรจริงๆเลยพวกนี้สงสัยว่าไปเก็บกดอะไรมา เบื่อจริงๆเลยพวกนักการเมืองไร้สมอง เมื่อไหร่ประเทศไทยจะมีคนดีๆ เก่ง มาบริหารมั่งเนี่ย
บันทึกการเข้า

"อย่าแก่เพราะกินข้าว อย่าเฒ่าเพราะอยู่นาน" 
โบราณว่า อย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมา ใจเย็นเข้าไว้
นายต้นงิ้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 479
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4867



« ตอบ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 05:06:36 PM »

ดีนะ ที่ลูกเนียง ลูกตอ หน่อเหรียง ไม่โดนไปด้วย  ไม่งั้นคนด้ามขวาน ตายกันเหม็ดฉาดเลย
น่าจะอยู่ในข่าย แว่วว่าเป็นยาคุมกำเนิดชั้นดี  Grin   นีถ้าสกัดเป็นยาฆ่าแมลงได้คงไม่รอดเหมือนกัน...........

เป็นหมันก็ดีซิพี่ไม่ต้องใช้มีชัย นี่จ้ำที่ไรป่องทุกที อิอิ

สงสัยกะให้บ้านเรากินพิซซ่า กินแซนวิซมั้งถึงจะดีไม่มีโรค
บันทึกการเข้า

พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 05:10:21 PM »

เค้าหมายถึง กลิ่นไม่อยากให้หันหน้าเข้าหากันครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

หน้า: [1] 2 3 4 ... 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 21 คำสั่ง