คิดถึงเรื่องช้าง ฟังเล่ามาให้ฟังต่อ
วิธีสอนช้างให้เชื่อง จับลูกช้างมัดโซ่ไว้กับต้นไม้ใหญ่ ไปไหนไม่ได้ ทำอะไรเองไม่ได้ ต้องรออาหาร น้ำที่ควาญหาให้ นานไป ช้างคิดว่าตนเองอยู่ไม่ได้ หากไม่มีควาญช้าง
เมื่อโตขึ้นเป็นช้างใหญ่ มีกำลังมหาศาล ควาญผูกโซ่ไว้กับต้นไม้เล็ก ๆ ช้างจะไม่ไปไหน เพราะเชื่อว่าตนเองถูกล่ามไว้ ไม่มีทางไปไหนได้
ระบบการศึกษาบ้านเรา เชื่อว่าเหมือนสอนคนเหมือนควาญเลี้ยงช้างใหญ่ เรียนรู้วิชามากมาย แต่นำมาใช้ไม่เป็น ข่าววิศวะจากสถาบันมีชื่อ ยิงตัวตายเพราะไม่ได้งานถูกใจ พ่อไม่ให้ไปต่อโทเมืองนอก เป็นเพราะเราไม่ได้สอนลูกให้พึ่งตนเองได้หรือเปล่า เยาวชนไม่ยอมลำบากก่อน หวังรวยทางลัด ค้ายาบ้า หาเงินง่าย คิดสั้นที่ไม่รอด
ระบบงานส่วนใหญ่เหมือนโซ่ที่ผูกเราให้เชื่อว่าไปไหนไม่ได้
ยกตัวอย่างดีๆ
ในเมือง เห็นน้องๆ ฝ่ายบัญชี หลังเลิกงาน ไปเลือกเสื้อผ้ามือสอง สภาพดี แบบสวย ไปขาย ยอดขายเดือนหนึ่งแตะสามหมื่นกว่าบาท กำไรอย่างน้อย 10 -30%
ฝ่ายช่าง ทำงานเป็นกะ วันไหนกะกลางคืน กลางวันไปช่วยเพื่อนยกเครื่องมือสอง
ในทะเล มีปลา มีหมึก มากมาย ต้องเรียนรู้วิถีหามากิน มาขาย พออยู่ได้ไม่อด
ในน้ำจืด ปลานิลกินไม่หวาดไม่ไหว ตำน้ำพริกเผาป่าคลุก เด็ดยอดมะกอกโรย ในชามข้าว ไข่ต้ม ปลาย่าง ชีวิตมีความสุขได้เหมือนๆเสมอภาคกัน เมื่อคำข้าวคลุกน้ำพริกผักสด เปรี้ยวเค็มหวานเจือเผ็ด เข้าปาก
การปิดสนามบิน คนไม่เห็นด้วยมีเยอะ แต่ไม่ใช่ว่าเสียงส่วนใหญ่จะถูกไปทั้งหมด แต่ผลกระทบเชื่อว่ามีมาถึงปัจจุบันจริง แต่อย่าไปกล่าวอ้างเลย ปัญหาเฉพาะหน้าต้องมองว่าจะรับมือกับปัจุบันอย่างไรก่อน ส่วนการเมือง จะกระทบกับชีวิตข้างหน้าอย่างไร จะไปต่ออย่างไรเดี่ยวค่อยมอง เอาตัวให้รอดวันนี้ก่อน ปล่อยให้คนที่วันนี้ไม่เดือดร้อนคิดไป หากบรรทัดฐานของสังคมไทยยังแยกได้ยากว่าอะไรถูกผิด หวังพึ่งรัฐสวัสดิการคงต้องทำใจ เงินจะเอามาจากไหน หาเงินกู้ ภาษีคนรวย เจริญแน่ แต่ช้าหน่อย
เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ซับซ้อน ผมชอบกลับไปตั้งหลักที่พื้นฐาน
ว่า วิชาเศรษฐศาสตร์เป็นการศึกษาถึงวิธีการจัดสรรทรัพยากรอันมีอยู่อย่างจำกัดเพื่อผลิตสินค้าและบริการต่างๆสนองความต้องการของมนุษย์ซึ่งโดยทั่วไปมีความต้องการไม่จำกัด ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
มองว่ามันผิด ตั้งแต่ต้น และคิดย้อนศรไปตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียง

ใช้ทรัพยากรทีมีอย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
วิชาเศรษฐศาสตร์จำเป็นต้องว่าด้วยการจัดการความต้องการในระดับที่เหมาะสมด้วยที่ผ่านมา ตลาดทุน ตลาดเงิน ตลาดการอุปโภค บริโภค ถูกกระตุ้น สร้างค่านิยมให้เกินระดับความต้องการพื้นฐานและรางวัลชีวิตที่เหมาะสมจริงๆครับ ดุอัตราการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ที่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับอายุใช้งานของรถและความต้องการรถที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวอย่างที่ชัดครับ
มีเรื่องราวที่แย้งกับแนวคิดข้างต้นอีกด้านหนึ่งสุดโต่ง บ้านเรามีอยู่เยอะเหมือนกัน
ความต้องการ บางเรื่องเป็นเรื่องธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้ เช่นนักเที่ยวต้องการเที่ยวหาความสำราญแบบไม่จำกัดเวลา ผู้ประกอบกิจการร้านบันเทิง อยากเปิดเพื่อความอยู่รอดของกิจการ ทีมงานและกำไรที่มากที่สุด
แต่มีข้อห้ามต้องปิดร้านในเวลาที่จำกัด เจ้าของร้านเป็นช้างแตกปลอก มีกำลังมหาศาล รู้กำลังของตน มีวิธีพิเศษให้ตนเองเปิดร้านเลยเวลา โดยการจัดทรัพยากรไปสนองความต้องการของควาญช้างผู้ดูแลกฎ ได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างสมดุล เกิดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติซึ่งจะยกเลิกข้อจำกัดที่ห้ามไว้เดิมนั้น ก้อไม่ได้
