ผมก็เคยครับแต่โทรไปถามเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ให้ไปเอาผลคดีที่ สน.ที่ถูกจับแล้วแนบเอกสารตัวนี้ไปกับใบ ป.1แล้วถ่ายเอกสารเก็บไว้หลายๆๆใบถ้าต้องการขอปืนอีกครับไม่ต้องเครียดครับ
ขอบคุณครับ

ที่ผมแนบสำเนาไปพร้อมกับใบคำร้องขอรับโอน ผมได้แนบสำเนาคำพิพากษาคดีแดงของศาลไปด้วยครับ และศาลได้รับรองสำเนาตัวนี้ด้วยครับ
พอจะถือว่าเป็นเอกสารที่อ้างถึงผลคดีได้หรือไม่ครับ
เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการฯ คงไม่ได้เปิดดูเอกสารต่างๆที่แนบนี้ดูครับ หรือดูแล้วคงอยากให้ผมเข้าไปคุยชี้แจงด้วยกระมังครับ

เพราะเอกสารต่างๆที่ผมแนบกับใบคำร้องมีหลายอย่างมากมายเลยครับ

(แต่ตอนที่ยื่น ผมก็คุยกับจนท.นะครับว่าได้แนบเอกสารตัวนี้มาด้วย)
เอกสารต่างๆที่ผมแนบไปด้วย เท่าที่จำได้ก็มี
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน+ทะเบียนบ้าน
2.หนังสือรับรองหน้าที่การงาน+เงินเดือน
3.หน้า Book Bank บัญชีออมทรัพย์ โชว์ให้เห็นว่ามีเงิน2 แสนบาท(เพื่อท่านจนท.จะได้เชื่อว่ามีฐานะ+รายได้)
4.สำเนาบัตรสมาชิกสนามยิงปืน + หนังสือรับรองการเป็นสมาชิกสนามยิงปืน(เสียดาย ที่ตอนเรียนรามฯ เป็นนักกีฬายิงปืน ไม่ได้ขอประกาศนียบัตรไว้)
5.สำเนาประกาศนียบัตรการเข้าร่วมแข่งขันยิงปืน+หนังสือขอบคุณ เป็นแมทช์การกุศลแข่งที่สนามร.1รอ.(เพื่อท่านจนท.จะได้เชื่อว่าผมเป็นนักกีฬานะ ไม่ใช่โจรนะ) ^_^
6.หนังสือรับรอง(เนื้อหาจะเป็นการรับรองความประพฤติและคุณสมบัติตามมาตรา13 พรบ.อาวุธปืน) ซึ่งได้รับรองโดยข้าราชการชั้นยศนาวาอากาศเอก
7.สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการทหาร(พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง) ของท่านที่รับรองให้ผมครับ
8.สำเนาคำพิพากษาคดีแดงของศาล พร้อมประทับตราและรับรองสำเนาจากศาลอาญา ในคดีที่ผมถูกตัดสินจำคุก และรอลงอาญา2ปี ที่เป็นปัญหานี่แหละครับ

9.สำเนาป.4 ปืนสั้นออโตเมติก ขนาด.22(อันนี้เป็นปืนของผมเองครับ ขอไว้ได้ตั้งแต่ก่อนถูกจับคดีปืนผิดมือครับ)

10.สำเนาป.4 ปืนสั้นออโตเมติก ขนาด9มม.(อันนี้เป็นปืนของแม่ ซึ่งผมแจ้งประสงค์จะขอรับโอน และเป็นกระบอกที่ผมถูกจับคดีปืนผิดมือนั่นแหละครับ)
11.สำเนาบัตรประจำตัว +ทะเบียนบ้านของแม่
ในใบคำร้องก็ระบุว่ามีทรัพย์สินทั้งหมด เงิน2แสนบาท ปืน1กระบอก(มูลค่า6หมื่นบาท) รวมมูลค่า2แสน6หมื่นบาท แค่นี้แหละครับ(ทั้งชีวิต มีแค่นี้จริงๆ

)
เหตุผลที่ขอรับโอนก็เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน โดยเพื่อรับเป็นมรดก รวมทั้งปืนขนาด9มม.ก็มีอานุภาพในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินได้ไว้วางใจกว่าปืนขนาด.22ที่มีอยู่
ถ้าจำไม่ผิด น่าจะมีเท่านี้แหละครับ
จะว่าไปก็เยอะมากเลยครับ ตอนยื่นไปนี่ หนาเตอะเลยครับ

ท่านจนท.คงไม่รู้จะเปิดดูเอกสารตัวไหนดี

ที่พยายามสรรหาเอกสารมาเยอะขนาดนี้ เพราะผมก็สังหรณ์อยู่แล้วว่าจะต้องเจอปัญหาแน่

เลยยื่นเอกสารทุกอย่างที่จะยืนยันความน่าเชื่อถือของเราไปให้ได้มากที่สุดเลยล่ะครับงานนี้

ตอนนี้ก็เลยตั้งสติ เรียงร้อยคำพูด ประโยคสนทนาต่างๆ เพื่อเตรียมไปเจรจากับท่านจนท.น่ะครับ

ยังไงก็จะสู้ให้คดีถึงที่สุดครับ

กะว่าอังคารนี้ถ้าไม่ติดงานก็จะรีบไปติดต่อเจรจาครับ
มีอยู่ครั้งหนึ่งประมาณ2ปีที่แล้ว
เคยมีคนมาเสนอจะให้ย้ายไปอำเภอที่เขารู้จักกับจนท. แล้วเขาบอกว่า จนท.จะขอ3พันบาท เพื่อช่วยดำเนินการออก ป.3ให้

และจริงๆแล้วหากอยากได้ป.3นั้นมาก เงิน3พันผมก็จ่ายได้
แต่ผมมานึกถึงประโยคที่พี่ๆในเว็ปนี้ว่าไว้ครับ เลยยืนยันจะสู้ครับ
"อย่าเสียเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ์ที่เรามีอยู่แล้ว"
"อย่าสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดี ให้พี่น้องเราต้องเดือดร้อนตาม"
ฉะนั้น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ผมจะต้องสู้ครับ
ขอขอบพระคุณ

สำหรับ
"ทุกคำแนะนำ" และ "ทุกกำลังใจ" จาก "ทุกท่านครับ"