เรียนปรึกษาพี่ๆครับ
เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ไปยื่นเรื่องขอป.3 รับโอนอาวุธปืนจากแม่ครับ
มาวันนี้( 5 มี.ค. 52) กลับมาถึงบ้านตอนค่ำ ได้รับไปรษณียบัตรจากวังไชยาวางอยู่บนโต๊ะ ไม่มีข้อความอื่นใดเลย
มีแต่ประทับตัวยางสีแดงว่า "พบประวัติ"

ก็พอจะเข้าใจอยู่ครับ ก็คงตอนส่งลายนิ้วมือไปตรวจสอบแล้วจึงพบประวัตินั่นแหละครับ
เพราะผมเคยโดนจับข้อหาปืนผิดมือ คดีตั้งแต่ปี43แล้วครับ
ผลคือ
ปรับ 3,000บาท และโทษจำคุก แต่โทษจำคุกนั้น ศาลให้รอลงอาญา 1ปีครับ
ปัจจุบันก็พ้นกำหนดลงอาญามานานแล้วล่ะครับ(ก็ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในคุกล่ะครับ)
สรุปก็คือ ประวัติผมมีในเรื่องของปืนผิดมือ แต่ผมไม่เคยได้รับโทษจำคุกครับ(เพราะคำว่า "ต้องโทษจำคุก" คือตัวเราต้องได้เข้าไปอยู่ในคุกจริงๆ)
ซึ่งคุณสมบัติ ก็ไม่ขัดต่อมาตรา 13 ครับ
ตอนที่ยื่นคำร้องขอรับโอนอาวุธปืน(จากทะเบียนชื่อแม่)
ผมได้แนบสำเนาคำตัดสินคดีของศาลพร้อมคำรับรองสำเนาจากศาลไปกับแบบป.1ด้วยครับ
เพื่อแจ้งกับนายทะเบียนว่า ผมเคยถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองอาวุธปืน
แต่เรื่องจบที่ ศาลตัดสินปรับ 3,000 โทษจำคุก รอลงอาญา 1 ปี ซึ่งปัจจุบันก็เลยกำหนดมานานแล้ว จึงมิเคยได้รับโทษจำคุก
และในสำเนานั้น ผมก็เซนต์กำกับไปด้วยว่า "ใช้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยันว่าไม่เคยต้องโทษจำคุก"
ตอนนี้ ผมคิดว่า จนท.คงจะแจ้งปฏิเสธการออกป.3ให้ผม โดยใช้เหตุผลว่า "พบประวัติ" แน่ๆครับ
จากข้อความในไปรษณียบัตร และที่กล่าวมาข้างต้นนั้น
ผมพอจะรู้ตัวแล้วล่ะครับ ว่าจากที่เคยอ่านเหตุการณ์ของพี่ๆ ที่เคยหรือกำลังต้องต่อสู้เพื่อสิทธิ์ในการมีและใช้อาวุธปืนมานั้น
คราวนี้ ได้มาถึงคิวของผมที่จะต้องต่อสู้กับนายทะเบียนแล้วล่ะครับ
คือพอได้รับไปรษณียบัตร ก็รู้สึกหัวหมุนเคว้งคว้าง งง อยู่พักใหญ่เลยครับ

พยายามถามตัวเองอยู่ว่า จะทำไงดี มาถึงขั้นนี้ก็ยังอยากสู้อยู่ครับ แต่ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออกจริงๆ
อยากรบกวนขอคำปรึกษาจากพี่ๆ ว่าผมจะทำยังไงดีครับ
ขอUpdateเพิ่มเติมที่หน้าแรกนี้เลยครับ ว่าตอนนี้ได้ไปรษณียบัตรว่าให้ไปรับป.4แล้ว
รายละเอียด สาธยายไว้ในหน้าสุดท้ายแล้วครับ
ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้กำลังใจมากๆครับ