เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 20, 2025, 06:37:25 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องมาทบทวนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (ขออภัยนอกเรื่องครับ)  (อ่าน 6571 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pitsanukorn
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #60 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 11:44:10 AM »

ข่าวครับ ดึงขึ้นมาใหม่ครับกำลัง HOT

กพช.ล้มแนวคิด "แม้ว" เลิกกองทุนพยุงค่าไฟ ปล่อยสะท้อนต้นทุนแท้จริง แต่ให้กระทรวงพลังงานหาแนวทางช่วยรายย่อย 9 ล้านครัวเรือน บ้านเรือนไม่ติดแอร์ เร่งหาข้อสรุปทันค่าเอฟทีรอบใหม่ 1 ก.พ.ปีหน้า

  ด้านประธานสหภาพ กฟน.เตรียมยื่นหนังสือจี้ผู้บริหารทวงหนี้ค่าไฟฟ้าบริษัทเอกชนกว่าร้อยบริษัท มูลค่ากว่า 2 พันล้าน ชี้เอาเปรียบชาวบ้าน ให้สิทธิ์คนรวยเบี้ยวไม่โดนตัดไฟ
นายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติชัดเจนที่จะไม่ตั้งกองทุนพยุงค่าไฟฟ้า แม้ในอนาคตค่าเชื้อเพลิงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นทำให้ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) สูงขึ้นก็ตาม เพราะการสะท้อนต้นทุนแท้จริงจะเพิ่มประสิทธิภาพ และการประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม  กพช.ให้กระทรวงพลังงานหาแนวทางช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยที่เป็นประชาชนทั่วไป จำนวน 9 ล้านครัวเรือน ซึ่งใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน และเป็นบ้านเรือนที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ   แต่ยังไม่อาจยืนยันแนวทางที่ใช้จะเป็นภาระงบประมาณ หรืออาจใช้มาตรการอื่นที่ไม่กระทบเงินงบประมาณ แต่ต้องสรุปก่อนปรับค่าเอฟทีงวดใหม่ในวันที่ 1 ก.พ.2549
ส่วนผู้ใช้ภาคอุตสาหกรรมคงไม่กระทบมากนัก  เพราะค่าไฟของไทยต่ำที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับต่างชาติ หากสูงขึ้นก็แข่งขันได้ แต่ภาคเอกชนควรเร่งปรับตัวหามาตรการลดต้นทุนในการผลิต
"ยืนยันว่า ปตท.และ  กฟผ.จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับค่าเอฟทีอีกต่อไป  ภาระจะผ่านประชาชนโดยตรง ส่วนข่าวกองทุนอุ้มค่าไฟฟ้าไม่รู้เกิดขึ้นจากใคร อยู่ๆ ก็มีคนจุดพลุประเด็นนี้ขึ้นมา และอนาคตไม่ว่าราคาเชื้อเพลิงจะเป็นอย่างไร จะไม่มีการปัดฝุ่นแนวคิดนี้ขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน" นายเมตตากล่าว
สำหรับแนวคิดการตั้งกองทุนพยุงค่าไฟ เกิดขึ้นในรายการ "นายกฯ ทักษิณพบสื่อ" เมื่อวันที่  27 ต.ค. โดย  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับการแทรกแซงค่าเอฟที โดยเสนอตั้งกองทุนพยุงค่าไฟฟ้าแทนการให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รับภาระ
ทั้งนี้  การล้มเลิกแนวคิดการจัดตั้งกองทุนพยุงค่าไฟฟ้าได้สร้างความประหลาดใจให้หลายฝ่าย โดยเฉพาะกระทรวงพลังงานและ บริษัท  กฟผ. จำกัด (มหาชน)  ซึ่งก่อนการประชุม กพช.ในช่วงบ่ายนั้น นายเชิดพงษ์  สิริวิชช์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ยังยืนยันการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวเพื่อให้รัฐบาลเข้ามาดูแลค่าไฟฟ้าแทน ปตท.และ กฟผ. ในลักษณะเดียวกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ด้านนายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงานการไฟฟ้านครหลวง และประธานเครือข่ายปกป้องไฟฟ้า-ประปาเพื่อชาติและประชาชน  กล่าวว่า  ในวันที่  4  พ.ย.  สหภาพฯ จะประชุมเพื่อทำหนังสือเรียกร้องต่อผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ทวงหนี้ค่าไฟฟ้าจากบริษัทเอกชนกว่า  100  แห่ง  จำนวนประมาณ 2,262 ล้านบาท โดยเป็นหนี้คงค้างถาวรกว่า 700 ล้านบาท เนื่องจากเป็นยอดหนี้สูงและแม้  กฟน.ได้ผลประโยชน์ในแง่ดอกเบี้ยปรับ  แต่ลักษณะดังกล่าวไม่เป็นธรรมต่อผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยหรือชาวบ้าน  ไม่ว่า  กฟน. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)  การประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ควรมีมาตรการดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน
"ชาวบ้านค้างค่าไฟต้องโดนตัดไฟ  แต่บริษัทธุรกิจเอกชนกลับได้เครดิต  ผัดผ่อนจ่ายหนี้ค่าไฟ ไม่ถูกตัดไฟ  ประชาชนผู้ใช้ไฟรายย่อยก็ควรได้สิทธิ์เช่นกัน  ให้คนจนได้หายใจเท่าคนรวย  เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน" นายเพียรกล่าว
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา  บอร์ด  กฟน.ได้ประชุมเกี่ยวกับรายงานการจัดเก็บหนี้ค่าไฟฟ้าค้างชำระ โดยส่วนราชการมีหนี้ถาวร  964.73  ล้านบาท  รัฐวิสาหกิจ 700.44 ล้านบาท และเอกชน 700.44 ล้านบาท  ซึ่งถ้ารวมหนี้ที่เพิ่งครบดิว  3  ฉบับ รวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งสหภาพฯ จะยื่นหนังสือและขอคำตอบภายใน 7 วัน ถ้าผู้บริหาร กฟน.ไม่มีมาตรการที่เป็นธรรมต่อรายย่อย พนักงานคงต้องเตือนและตัดไฟตามระเบียบ.

กฟผ.นำร่องปันผล3สลึง จับตายักษ์สื่อสารผูกขาด
กฟผ.โรดโชว์หุ้นวันแรก ชาวบ้านกว่า 500 คนแห่ฟัง เปิดจองกลางเดือนนี้ ราคาซื้อสูงสุด 28 บาท ผู้บริหารกระตุ้นประกาศจ่ายปันผลปี 48 หุ้นละ 0.75 บาท ด้านวิปฝ่ายค้านยื่นหนังสือคัดค้าน

จับตาธุรกิจโทรคมนาคมรายใหญ่ผูกขาดสายเคเบิลใยแก้ว
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ได้นำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนและประชาชนทั่วไป  ซึ่งมีประชาชนกว่า  500  คนเข้าร่วมรับฟัง โดยหุ้นที่กระจายทั้งหมด  1,245 ล้านหุ้น เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปและนักลงทุนรายย่อย 622.5 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 50% นักลงทุนสถาบันในประเทศ 249 ล้านหุ้น หรือ 20% และต่างประเทศ 373.5 ล้านหุ้น หรือ 30%
สำหรับราคาขายเสนอไว้ระหว่าง  25-28 บาทต่อหุ้น เปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อในวันที่ 16-17  พ.ย. ตั้งแต่เวลา  08.30-15.30  น. แต่วันจองซื้ออาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับการมีผลบังคับใช้ของหนังสือชี้ชวน  โดยจองซื้อได้ที่ธนาคารกรุงไทย  ทหารไทย  และไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ จองซื้อในราคาสูงสุดที่  28  บาทต่อหุ้น  และใช้วิธีกระจายหุ้นอย่างเป็นธรรม ไม่มีการจัดสรรให้ผู้มีอุปการะคุณ
นายบุญชู  ดิเรกสถาพร  ผู้บริหารใหญ่ด้านการเงิน บมจ.กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.มีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า  40%  ของกำไรสุทธิ หลังจากหักทุนสำรองต่างๆ แล้ว และเมื่อวันที่ 16 ก.ย. คณะกรรมการ  กฟผ.มีมติจ่ายปันผลประจำปีสำหรับผลประกอบการปี  2548  จำนวน 0.75 บาท/หุ้น โดยจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีอนุมัติประมาณเดือน  เม.ย.2549  ซึ่งการจ่ายปันผลนำมาจากกำไรสุทธิ  หรือกำไรสะสม แม้ปีนี้หาก กฟผ.ขาดทุนสุทธิก็ยังจ่ายปันผลได้ เพราะมีกำไรสะสมกว่า 80,000 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากผู้จัดการจำหน่ายหุ้น  กฟผ.ระบุว่า การกำหนดราคาหุ้น กฟผ.สูงสุดที่ 28 บาท คิดเป็นราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (พี/อี)  8-9  เท่า เมื่อเทียบกับงบการเงินสิ้นปี 2547 โดยพี/อีระดับนี้ต่ำกว่าบริษัทไฟฟ้าอื่นในภูมิภาคนี้ ซึ่งสูงอยู่ที่ 9-11 เท่า
นายสาทิตย์  วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในวันที่  3  พ.ย.  ฝ่ายค้านนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะนำจดหมายคัดค้านการนำ กฟผ.เข้าจดทะเบียนกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไปยื่นกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเตรียมจัดเวทีสาธารณะในกลางเดือน  พ.ย. 
ด้านนายเกียรติ  สิทธิอมร  ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ  พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ธุรกิจโทรคมนาคมในอนาคตต้องพึ่งพาสายเคเบิลใยแก้วที่พาดระบบสายส่งไปยังชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ  ซึ่งถ้าแปรสภาพ  กฟผ.  ซึ่งมีบริษัทลูกที่ตั้งมาแล้วชื่อ "EGAT  Telecom" และแปรสภาพระบบสายส่งไปด้วย ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีบริษัทเอกชนเพียงรายเดียวที่มีศักยภาพสูงเข้าควบคุมระบบสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศได้ทั้งหมด  ซึ่งอันตรายที่สุดและจะมีบุคคลคนเดียวที่ร่ำรวยอยู่แล้วมั่งมีเป็นทวีคูณ  โดยใช้ทรัพย์สินของทุกคน.

บันทึกการเข้า
ป๊อกแมน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 156
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2095



เว็บไซต์
« ตอบ #61 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 12:09:02 PM »

ผมไปก็อปมาจากเว็ปอื่นครับ  ฟังแล้วขนลุกนะครับ  ช่วย ดาวน์โหลดไปฟังกันนะครับ
********************************************

ขอร้องคนไทยทุกคนเข้าลิงค์นี้นะคับ!!!!เรื่องใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา..ระดับชาติและพระมหากษัตริย์!!!ก่อนที่ลิงค์นี้จะถูกระงับ
ผู้เขียน : เราคนไทย..ต้องสู้นะ!!!!

http://www.ihud.com/file.php?file=1130700499/fm_2200_0000%20Oct%2029%20(wmr).asf
พวกคุณเข้าไปที่ลิงค์นี้นะคับ แล้วก้ดาวโหลด...แล้วเอาไปฟัง อย่างน้อยขอให้ฟังถึงนาทีที่ 19 นะคับ!!!
คลิกที่ชื่อรายการแล้วหาคำว่า
Your download is ready
หรือ
Click here to download file
นะคับ!!!!!!

download ได้ครับ ก๊อปปี้ URL ข้างบนแล้ว ตามนี้ เลยครับ...
คลิ๊กเม้าส์ขวาที่ Your download is ready
แล้ว Save Target As..
ด่วนส่งต่อ จาก manager radio board
http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9480000151631
บันทึกการเข้า

Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #62 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 12:50:09 PM »

สงสัยถ้าเอาประเทศไทยเข้าตลาดได้คงเข้าไปแล้ว  ทีช้างอยากจะเข้าไม่ให้เข้าสักที
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
niik รักในหลวง
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 9
ออฟไลน์

กระทู้: 63


« ตอบ #63 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 01:22:56 PM »

คุณฅนปั่นไฟ
เราจะมีส่วนช่วยอย่างไรได้บ้าง
บันทึกการเข้า
pitsanukorn
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #64 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 02:04:07 PM »

คุณฅนปั่นไฟ
เราจะมีส่วนช่วยอย่างไรได้บ้าง
ได้ความคืบหน้าอย่างไร และ สร.กฟผ. มีทิศทางอย่างไร จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ
เพราะนี่เป็นเรื่องของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เรื่องของ นาย ก กับพวก

ดูนี่ซิครับ
นายบุญชู  ดิเรกสถาพร  ผู้บริหารใหญ่ด้านการเงิน บมจ.กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.มีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า  40%  ของกำไรสุทธิ หลังจากหักทุนสำรองต่างๆ แล้ว และเมื่อวันที่ 16 ก.ย. คณะกรรมการ  กฟผ.มีมติจ่ายปันผลประจำปีสำหรับผลประกอบการปี  2548  จำนวน 0.75 บาท/หุ้น โดยจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีอนุมัติประมาณเดือน  เม.ย.2549  ซึ่งการจ่ายปันผลนำมาจากกำไรสุทธิ  หรือกำไรสะสม แม้ปีนี้หาก กฟผ.ขาดทุนสุทธิก็ยังจ่ายปันผลได้ เพราะมีกำไรสะสมกว่า 80,000 ล้านบาท

ลูกหม้อ กฟผ. แท้ๆ ยังออกมาให้ข่าวอย่างไม่มียางอาย ยังไม่ได้กระจายหุ้นก็สามารถจ่ายเงินปันผลได้ แล้วระดมทุนทำแป๊ะทำไม เอากำไรสะสมที่มีอยู่ไปสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ก็ได้นี่นา เห็นบอกต้องการระดมทุน ออกหุ้นมาระดมทุนประมาณ 2 พันล้านหุ้น X 28  บาท = 5.6 หมื่นล้าน กำไรที่มีอยู่เหลือเฟือ ไม่ใช่ตลกคุณเหลือเฟือนะครับ ขอโทษด้วยครับคำบางคำพี่ๆ เพื่อนๆ อาจรับไม่ได้ แต่ผมจำเป็นต้องใช้ครับกับคนแบบนี้ครับ ขนาดผมเป็นคน กฟผ. นะครับยังคิดแบบนี้เลย แล้วพี่น้องประชาชนทั้งประเทศล่ะครับ   Sad


บันทึกการเข้า
NPD
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #65 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 02:13:11 PM »

ตะหงิด ๆ ตั้งแต่ขาย ปตท. แล้วครับ กำไรที่ได้ก็คือเงินของประชาชนเรา ๆ ท่าน ๆ ถามว่าไม่ใช้ได้มั๊ย ไอ้ไฟฟ้าเนี่ย.. อย่างนี้มันมัดมือชกชัด ๆ
บันทึกการเข้า
Machine_1
เรา รัก ใน หลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1224



« ตอบ #66 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2005, 02:20:48 PM »

 Grin..มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้น..เพียงบางกลุ่ม..บางพวก...สุดท้าย..ประชาชนนั้นแหล่ะที่จะต้องรับกรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.078 วินาที กับ 21 คำสั่ง