เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 26, 2025, 11:05:42 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชวนดูหนังมันส์ๆ อีกแล้วครับ... Body of Lies  (อ่าน 9702 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Enruoblem
Hero Member
*****

คะแนน 84
ออฟไลน์

กระทู้: 1755



« ตอบ #30 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 03:07:12 PM »


เอาใบปลิวปิดหนังมาฝากอีกเรื่องครับ  ดูหนังตัวอย่างแล้ว น้ำลายหกตอนนี้ยังหาโหลดบิทไม่ได้ครับ



ดูหนังตัวอย่างหน่อยไหมครับ

http://www.youtube.com/watch?v=7lup795wNT8&feature=player_embedded
เรื่องนี้หนังดีมากครับ ให้แง่คิดหลายอย่าง ไม่ใช่หนังดูเอามัน ปู่คลิ้นนี่สร้างหนังได้เยี่ยมจริงๆ
บันทึกการเข้า

S76C+,C++
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #31 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 03:40:28 PM »

เรื่อง Body of line... นายสมชายนั่งดูสองรอบครับ สนุกมาก...

มีหลายตอนน่าสนใจ โดยเฉพาะฉากก่อนต่อสู้ว่าตัวละครแต่ละตัวเริ่มจำแนกมิตรหรือศัตรูกันอย่างไร... อย่างน้อยฉากก่อนต่อสู้ที่อีตาพระเอกโดนหมากัดก่อนไปพบนางเอง(ไม่เห็นสวยเลย)...

มีหลายฉากแสดงให้เห็นอีตาชู้รักเรือล่มไปฝึกมาอย่างดีก่อนเล่นหนังเรื่องนี้ครับ... เมื่อไม่กี่ปีมานี้นายสมชายชอบอีตามทอมครูสยิง G19 ในหนังเรื่องนึง(Colateral)ในบทมือปืนรับจ้าง จับแท็กซี่ตระเวณฆ่าพยานก่อนขึ้นศาลฯ... หนังเรื่องนั้นดูเหมือนท่ายิงสุดยอด แต่นั่นเป็นสมัยก่อน นายสมชายยังตื่นตาตื่นใจ...

เมื่อเวลาผ่านไปหลังจากนายสมชายผลาญกระสุนไปหลายฯ... มาหนังเรื่องนี้อยากให้คอยดูอีตาชู้รักเรือล่มใช้ G19 ครับ... บางฉากวิ่งไล่ยิงแบบไม่ได้มาร์กท่า เช่นฉากวิ่งไล่ยิงตามหลังรถยนต์... อีตานี่ฝึกหนักก่อนแสดงหนังครับ...

เรื่อง Collateral ตา Tom Cruise แกให้สัมภาษณ์ว่า ไปเรียนจากทหารเมกันมาโดยตรง และในหนังใช้ลูกกระสุนจริงยิงหลายตอนค่ะ สาเหตุคือคุณ Tom แกขอเองว่า อยากให้สมจริง ถ้าใช้กระสุนจริง แกก็จะได้ระวัง นับว่าทุ่มเททีเดียว จริงถ้าดูดีๆ ไม่ใช่เฉพาะฉากถือปืนยิงหรอกค่ะ การต่อสู้ประเภทประชิตตัว จับคนหักคอหักแขนก็ทำได้สมจริงดี  ก็สมควรอยู่ที่แกได้รับการเสนอชื่อหลายสาขา (ดังนั้น ด้วยเหตุนี้ เมื่อมาเห็นแกเล่น valkyrie แบบไม่ใส่ใจในรายละเอียดเท่าไร เลยเกิดอาการเซ็ง)   Tongue

เรื่อง Body of Lies เท่าที่ดูสัมภาษณ์ Leonardo แกบอกว่า แกใช้ประสบการณ์ที่หัดจากตอน Blood Diamond มาประยุกต์ แต่ก็เล่นออกมาใช้ได้ แตกต่างจากใน Blood Diamond พอควร ทั้งๆ ที่ตัวละคนมีหลายอย่างเหมือนกัน แต่ใน Body of Lies จะเห็นว่า เล่นได้เครียดกว่า ระมัดระวังมากกว่า ดูมีวินัยกว่า เข้ากับบรรยากาศการเมืองในแถบอาหรับ แต่ขอติหน่อยว่า หนังน่าจะให้ Leonardo ใส่ contact เปลี่ยนสีตาให้เข้ม และน่าจะแต่งหน้าให้เกรียม และยับเยินกว่านี้ เพราะดูยังเป็นฝรั่งอยู่ ชวนให้น่าโดนฝ่ายตรงข้ามเก็บในเวลาอันรวดเร็ว ไม่น่ารอดอยู่ได้ แต่เข้าใจว่าเพื่อให้แฟนๆ ยังดูรู้ว่าเป็น leonardo เลยต้องเพลาๆ มือลงไปหน่อย   Grin ส่วนนางเอก ก็อืม หนังเขาคงอยากให้ดูเป็นผู้หญิงฉลาดมากกว่าสวยมั๊งคะ เลยให้พระเอก นางเอกสนทนา ลองภูมิกันเสียยืดยาว แต่นักแสดงนี่เป็นอิหร่านนะคะ เข้าใจว่าการเมืองเมกาตอนนี้กำลังจะค่อยๆ หาทางคืนดีกับอิหร่าน คนทำหนังก็เลยเอนตามไปด้วย ไปหานักแสดงสาวอิหร่านมาเล่น  Wink

ดิฉันก็ว่า Body of Lies สนุกกว่า Spy Games ค่ะ คงเพราะหนังเร็วกว่า เข้มข้น และมันมีหักมุมหักหลังกันเยอะไปหมด ในขณะที่ Spy Games ทำก็ใช้ได้ แต่ค่อนข้างช้า เลยไม่ค่อยประทับใจเท่า (คือออกจากโรงแล้วก็แล้วกันไป) แต่หากชอบหนังแนว body of lies ขอแนะนำ syriana กับ the kingdom ค่ะ สนุกดีเหมือนกันค่ะ Smiley
 
บันทึกการเข้า

For King & For Country!
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 04:14:40 PM »

 เยี่ยม +1 คะแนนให้คุณ.bluebunny ครับ
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
นายขม รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 99
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1377


ที่ว่างปลายปากกระบอกปืน


« ตอบ #33 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 04:49:22 PM »


เอาใบปลิวปิดหนังมาฝากอีกเรื่องครับ  ดูหนังตัวอย่างแล้ว น้ำลายหกตอนนี้ยังหาโหลดบิทไม่ได้ครับ



ดูหนังตัวอย่างหน่อยไหมครับ

http://www.youtube.com/watch?v=7lup795wNT8&feature=player_embedded
เรื่องนี้หนังดีมากครับ ให้แง่คิดหลายอย่าง ไม่ใช่หนังดูเอามัน ปู่คลิ้นนี่สร้างหนังได้เยี่ยมจริงๆ


เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจ ว่าแต่คิดว่าน่าจะมี VERSION เต็มกว่านี้ เพราะดูจากแผ่นปกหนังมีหลายภาพที่ไม่เห็นในตัวหนัง   Huh

แต่ตอนจบเศร้าจริงๆครับ  เศร้า  แต่ก็สมวัยปู่คลิ้นแก เพราะถ้าจบแบบที่ผมเดา ปู่แกคงแตะปี๊บดังอีกหลายปี  คิก คิก  คิก คิก
บันทึกการเข้า

ผมจ่ายภาษีให้มาดูแลรักษาบ้านเมือง ไม่ใช่ให้มายืนดูคนเผาบ้านเผาเมือง
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #34 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 05:02:30 PM »

เรื่องนี้หมายตาไว้นานแล้ว เพราะติดใจบทคลุกฝุ่นของลีโอนาโดจาก ไดอะม่อน บลัด

แต่พลาดไปได้ยังไงไม่ทราบ...
เดี๋ยว วันพรุ่งนี้ จะหาดูครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #35 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 05:03:58 PM »

ขอบคุณอาวัฒน์ค่ะ ชอบลีโอนาร์โดอยู่แล้วเรื่องนี้ดูสองรอบ

ลีโอนาร์โดตอนเน่าๆหล่อกว่าตอนเล่นไททานิค  Grin

พี่ก็ชอบลีโอนาโดตอนเน่าๆอ่ะ  ดูหล่อน้อยลงหน่อย  เหลือความหล่อเท่าพี่เลย

ไม่เน่า พี่หล่อสู้ไม่ได้อ่ะ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #36 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 05:07:58 PM »

สวัสดีครับพี่ดาวพี่บุญ ไม่ได้คุยกันตั้งนานครับ
ก็น้องเอ๋เค้าเป็นนางพยาบาลซึ่ง lookต้องดูพิถีพิถันสะอาดเป็นระเบียบนี่ครับ Cheesy


เหอะๆๆๆๆ ส่วนมากคนทั่วไปค่ะพี่ขวัญที่ชอบคิดว่าพยาบาลจะต้องอนามัยจัดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่จริงๆแล้วก็ปกติทั่วไปเลยค่ะพี่

กางเกงยีนส์ใส่อาทิตย์หนึ่งก็มี หยิบจับของกินไม่ได้ล้างมือบ้างก็บ่อยแต่พอเวลางานแล้วก็ต้องให้สะอาดอยู่ในระเบียบที่ต้องรับผิดชอบมาก

เพราะงานเน้นความรับผิดชอบต่อชีวิตคนเป็นส่วนใหญ่  Grin  Grin

มีเพื่อนเป็นพยาบาล  วันหนึ่งนัดเจอกัน หลังจากไม่ได้เจอมาหลายปี
นัดกินข้าวกัน เธออยากกินกุ้งเต้น  เพราะไม่เคยกิน  โอกาสพิเศษเจอเพื่อนลองซะหน่อย

พอเอามาเสริฟ เปิดฝาถ้วยเห็นกุ้งเด้งดึ๋งๆ
ร้องโวยวาย..."ทำไม ไม่ทำให้สุกก่อน  พี่กินไม่ได้หรอก"

เด็กเสริฟงง  ผมเลยสั่งเบียร์มาขวด แล้วเอากุ้งเต้นมา

กินเองก็ได้อ่ะ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 05:12:08 PM »

ท่านซับยักษ์ใจร้าย ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเล็กๆ ด้วยฟันในปาก อ๋อย ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #38 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 05:21:46 PM »

ตอนแรกว่าจะสั่งซื้อเหมือนกันครับ แต่ว่าอ่าน บางบทวิจารณ์แล้วลังเลครับลุงวัฒน์  Cool Cool Cool

http://www.nangdee.com/webboard/viewtopic.php?t=5701

ที่มา คมชัดลึก โดย "นันทขว้าง สิรสุนทร"

ไม่มีข้อสงสัยนานแล้วว่า ริดลีย์ สกอตต์ ทำหนังแอ็กชั่นเป็นหรือไม่ ประวัติการทำงานที่ยื่นต่อคนดูเท่าที่ผ่านมา

ตั้งแต่ Alien, Blade Runner, Thelma & Louise, Gladiator, Black Hawk Down มาจนถึง Kingdom of Heaven
และงานที่พยายามคลี่คลายอย่าง American Gangster นั้น น่าจะถือว่าเป็นโปรไฟล์ที่ดีในระดับสูงมากพอสมควร

ผมชอบ Blade Runner กับ Thelma Louise เรื่องแรกมีวัฒนธรรมผสมผสานมากมายให้วิเคราะห์
(ในชั้นเรียนภาพยนตร์ของยุโรป ถึงขนาดเอามาวิเคราะห์ในชั้นเรียน ในระดับน้องๆ James Bond 007
ซึ่งถูกศึกษาเป็นวิชาที่การตลาดซ่อนเร้นเยอะแยะ)

 

ขณะที่สองสาว เทลมา แอนด์ หลุยส์ นั้น แม้จะมีอิทธิพลเด่นชัดมาจาก Butch Cassidy and the Sundance Kid (1969)
ของ จอร์จ รอย ฮิลล์ แต่ก็มีแง่มุมแบบสมัยใหม่ที่คนดูได้กลับไปคิด พูดก็พูดเถอะ หนังแอ็กชั่นแบบ ริดลีย์ สกอตต์
ก็ไปได้ระดับหนึ่ง มันไม่ได้โดดเด่นมากมาย แต่ขณะเดียวกัน คนดูก็ไม่ค่อยผิดหวัง เพราะความเป็นหนังแอ็กชั่นของเขา
มันสนุกพอสมควร

ดูจากโปรไฟล์ตรงนี้ เมื่อบวกกับชื่อ รัสเซลล์ โครว์ และ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ แล้ว คนดูคงอยากชม Body of Lies มากพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่จะเน้นหนักไปที่เนื้อหา อันวนเวียนอยู่กับความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ หรือการดึงเอาประเด็นร่วมสมัย
ระหว่างตะวันตกกับตะวันออกกลาง มาเป็นพล็อตนั้น สร้างปัญหาไม่น้อยให้แก่คนดูทั่วไป โดยเฉพาะความสนุกและความเข้าใจ

 

ผมไม่แปลกใจที่มีหลายๆ คนบ่นว่า ดูหนังเรื่องนี้ไม่เข้าใจและไม่สนุก ผู้กำกับ ริดลีย์ สกอตต์ อาจจะไม่ทิ้งจังหวะแอ็กชั่นที่เคยใช้ใน
Black Hawk Down แต่พอมองในส่วนของเนื้อหา มันขาดความพอดี ทั้งการเล่าเรื่องที่เร็วเกินเหตุ แง่มุมที่น่าสนใจซึ่งทิ้งไป
และบทซึ่งขาดรายละเอียด ที่จะเชื่อมพล็อตกับคาแรกเตอร์ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

โรเจอร์ เฟอร์ริส (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) อาจจะเป็นยอดฝีมือภาคสนามของหน่วยข่าวกรองสหรัฐอเมริกา และสนใจแต่ผลของการ
เข้าทำที่พร้อมจะฆ่าใคร แต่การที่ เฟอร์ริส ต้องออกปฏิบัติการที่จอร์แดน และคอยฟังคำสั่งจากสายโทรศัพท์ที่ป้องกันการดักฟังของ
เอ็ด ฮอฟฟ์แมน แต่พล็อตและทางเดินแบบนี้ เป็นหนังขายสถานการณ์ที่ปลายทาง ขุนกับเบี้ยต้องมาหักโค่นกัน ใครจะเป็นขุน
ใครจะเป็นเบี้ยเท่านั้นเอง มันคือหนังขายสถานการณ์ที่มีแอ็กชั่นรองรับในแบบของ ริดลีย์ สกอตต์ ที่มีมานาน

การเน้นหนักไปที่แอ็กชั่น แต่เล่าเรื่องอย่างรวดเร็วเกินเหตุในหลายช่วงตอน คำถามที่ตามมาก็คือ คนดูอาจจะไม่สนุก เพราะไม่เคลียร์
กับรายละเอียดต่างๆ ที่พวกเขาอยากได้ แง่มุมนี้หมายความว่า ขณะที่แอ็กชั่นทำงานไป แต่เรื่องราวต่างๆ คนดูไม่ได้อินไปกับหนัง
หรือเข้าใจมันอย่างถ่องแท้

สิ่งที่ตามมาก็คือ พวกเขาอาจจะไม่สนุกกับการดู Body of Lies เท่าที่ควรจะเป็น แถมบางส่วนของเนื้อหาก็มีเรื่องสงสัยอยู่ในหัว
แทนที่ลื่นไหลไปกับตัวหนัง สนุกไปกับแอ็กชั่น ก็ไม่ได้ทั้งสองด้านและกร่อยไป

มันเหมือนจะไปดูมวยชิงแชมป์ถูกคู่ที่หมัดหนัก แต่พอเริ่มต่อย แพทย์ข้างสนามก็เรียกตรวจนั่นตรวจนี่ ต่อมาไฟดับ และเดี๋ยวก็ต้องหยุด
เพื่อเช็ดเวทีเพราะมีเหงื่อ พอจะต่อยต่อ ก็เชือกหลุดกระจับหลุด คนดูก็ไม่ลื่นไหลไปกับมวยแอ็กชั่น

จุดขายที่มีอยู่ในสินค้าพอสมควร จึงมีประโยชน์แค่ตีพิมพ์ในตั๋วผ่านประตู 
 
--------------------------------------------------------------------------------
 
ที่มา ข่าสด โดย กฤษดา
 
ทั้งชื่อเรื่องและเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ "7 ตุลาฯ" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ชื่อของหนังนำไปสู่การตั้งคำถามสำคัญว่ากลุ่มคนหรือหน่วยงานใดที่เป็น "body of lies"

โดย body ในที่นี้คงไม่ได้หมายถึง โครงสร้างทางกายภาพ หรือลำตัว (ของคนหรือสัตว์) แต่น่าจะหมายถึง
"กลุ่มบุคคลผู้ร่วมกันทำงานเพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง"

Body of Lies จึงน่าจะหมายถึง "กลุ่มบุคคลผู้หลอกลวง" หรือ "กลุ่มคนแห่งการโกหก"

เมื่อนำไปพิจารณาเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ ก็น่าจะสามารถมองเห็นคำตอบและความเป็นไปได้ว่าพวก ไหนกลุ่มใดที่โกหกหลอกลวง

 

ใน ส่วนของเนื้อหาเรื่องราว หนังนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับการวางแผนและเล่ห์กลทางการเมืองอันซับซ้อน และยังมีสงคราม
แย่งชิงข้อมูลข่าวสารเป็นองค์ประกอบสำคัญ

ด้วยเนื้อหาดังกล่าว ทำให้มองเห็นภาพและสามารถจินตนาการได้ว่าการเล่นเกมทางการเมืองเบื้องหลังเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ
ก็อาจจะไม่แตกต่างกัน

ย้อนกลับมาที่ชื่อของหนัง เมื่อพิจารณาจากเรื่องราวแล้วตั้งคำถามแบบเดียวกับที่นำเสนอข้างต้น
ผมคิดว่าพวกโกหกหลอกลวงมีอยู่หลายกลุ่ม

กลุ่มแรกเลยก็คือ ซีไอเอ (Central Intelligence Agency) ทั้งในความหมายของหน่วยงานและผู้ทำงานให้
ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นซีไอเอด้วย

โดย หนังนำเสนอให้เห็นอย่างไม่ปิดบังเลยว่า ซีไอเอ (ทั้งที่เป็นองค์กรและเจ้าหน้าที่) คือ พวกที่ใช้ข้อมูลข่าวสาร
และการโกหกหลอกลวงเป็นอาวุธ (หรืออาจเป็นยุทธศาสตร์?)

อีกกลุ่มก็คือ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของบางประเทศในตะวันออกกลาง (รวมถึงกลุ่มก่อการร้ายด้วย)
อย่างไรก็ตาม หนังค่อนข้างให้น้ำหนักการเป็น "body of lies" ของซีไอเอมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

นอก จากนั้น หนังยังทำให้คิดไปได้ การที่กลุ่มอื่นต้อง "body of lies" ก็เพราะต้องปรับตัวไปตามยุทธวิธีของซีไอเอ
ถ้าหากจะยืนหยัดเป็นเฉพาะ "body of truth" ก็คงจะเสียทีซีไอเอตลอด

 

พ้น จากเรื่องของโกหกหลอกลวง Body of Lies ตีแผ่เกมการเมืองและการต่อสู้ในโลกข่าวสารได้อย่างถึงแก่น
ตลอดจนนำเสนอการวางแผนซ้อนแผน และซ้อนแผนที่ดูแล้วทำให้เห็นโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น และแน่นอน
ได้เห็นว่าโลกที่เห็นจากด้านนี้นั้นมันชั่วร้าย

เมื่อมองที่เนื้อหา Body of Lies เป็นหนังที่มีเนื้อหาหนักแน่น จริงจังและช่วยขยายมุมมองทางการเมืองได้อย่างดียิ่ง

และเมื่อมองที่การนำเสนอและงานฝีมือ หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานระดับเยี่ยม

มีหลายฉากหลายตอนที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ขยันขันแข็งและแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานทางด้านกล้อง

 

มี การเคลื่อนไหวกล้อง การใช้มุมกล้องและปรับเปลี่ยนทิศทางของกล้องที่มีส่วนทำให้หนังตื่นเต้นน่า ติดตาม
รวมทั้งนำคนดูเข้าไปใกล้เหตุการณ์ในลักษณะเหมือนจริง

มีอยู่ ฉากหนึ่ง มีการใช้กล้องมุมสูงถ่ายทอดภาพรถเคลื่อนที่ในทะเลทรายอันกว้างใหญ่ และทำให้รู้สึกว่า รถตกอยู่ในสายตา
ของการติดตามผ่านดาวเทียม และมีการใช้ภาพมุมสูงทำให้เห็นว่าจะสามารถหลบหนีจากการติดตาม (และสอดแนม)
ได้อย่างไร (รายละเอียดคงต้องดูเอาเอง)

อาจจะกล่าวได้ว่า Body of Lies เป็นอีกตัวอย่างที่ช่วยยืนยันว่า ริดลีย์ สก็อตต์ คือสุดยอดของช่างฝีมือคนหนึ่งของวงการหนัง

นอก เหนือจากเนื้อหาและงานการกำกับ Body of Lies ยังมีจุดเด่นที่พลังดาราและฝีมือการแสดงของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ
และรัสเซลล์ โครว์ โดยเฉพาะ โครว์ นั้นได้ข้อมูลมาว่าเขาเพิ่มน้ำหนักหลายสิบปอนด์เพื่อให้ดูเป็นซีไอเอรุ่น ใหญ่

สำหรับคนดูที่ชอบดูพลังดารา ผมว่าแค่ 2 คนนี้ ก็คุ้ม
 
--------------------------------------------------------------------------------
 
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ โดย : อภินันท์ บุญเรืองพะเนา

ถึงนาทีนี้ ผมเชื่อว่า คอหนังแอ็กชั่นคงจะรู้แจ้งกันไปแล้วว่า ผลงานเรื่องใหม่ล่าสุดของผู้กำกับริดลี่ย์ สก็อต ไม่ใช่หนังบู๊ที่จะดูเอามัน
สะบั้นหั่นแหลก และแน่นอนที่สุด อาการที่เกิดตามมาก็คงไม่พ้น “ผิดหวัง”...มากหรือน้อย แตกต่างกันไปในแต่ละคน อย่างไรก็ดี
ผมคิดว่า นี่ก็น่าจะเป็นบทเรียนอีกหนึ่งบทที่คนดูหนังพึงสังวรไว้เช่นกัน

เพราะอะไรน่ะหรือ?

สั้นๆ เลยครับ Body of Lies ทำให้ผมนึกไปถึงหนังอีกหลายๆ เรื่องที่ได้เข้ามาฉายในบ้านเรา ยกตัวอย่างเมื่อปีที่แล้ว กับผลงานของ
โรเบิร์ต เรดฟอร์ด เรื่อง Lions For Lamp ที่คำโฆษณาตลอดจนตัวทีเซอร์ที่ใช้สำหรับการโปรโมท ทำให้คนดูรู้สึกหรือคาดหวังไปว่า
มันคงเป็นหนังแอ็กชั่นสงครามที่รบกันสนั่นจอ แต่ตัวหนังที่ออกมาจริงๆ กลับเข้มข้นหนักหน่วงด้วยเนื้อหาความคิดที่ตัวละครงัดออกมา
รัวใส่กันจนฟัง (และคิดตาม) แทบไม่ทัน แน่นอนว่า Lions For Lamp มีฉากแอ็กชั่นอย่างโต้แย้งไม่ได้ แต่ก็มีอยู่แค่ 4-5 ฉากเท่าๆ กับ
ที่เห็นในทีเซอร์เท่านั้นนั่นแหละ!!

ครับ ที่พูดแบบนี้ ผมไม่ได้จะบอกว่า เนื้อหาของ Body of Lies ดีงามเข้มข้นเทียบเท่ากับผลงานของเรดฟอร์ด
(และถ้าเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ ผมยังคงชอบ Lions For Lamp มากกว่า Body of Lies) ผมเพียงแต่ต้องการชักชวนให้ “ฉุกคิด”
ครับว่า พลานุภาพของการโปรโมทหนังนั้นมันมีพลังดึงดูดเรียกคนดูได้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศที่คนส่วนใหญ่
ชื่นชอบหนังแนวบู๊ๆ กันอยู่ด้วยแล้ว จะมีอะไรอีกล่ะท่านที่เยี่ยมยอดไปกว่าการโปะฉากแอ็กชั่นเข้าไปในตัวทีเซอร์โฆษณา
แม้เมื่อดูกันจริงๆ ฉากแอ็กชั่นที่ว่านั้นจะเป็นเพียงส่วนประกอบที่จิ๊บจ๊อยมากๆ ของหนังเรื่องนั้นๆ ก็ตามที
(Lions For Lamp ก็คือ case study ที่ชัดที่สุดในประเด็นนี้)

กล่าวอย่างรวบรัดที่สุด Body of Lies เป็นหนังที่จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ว่าจะมองในมุมของเนื้อหาเรื่องราวหรือวิธีการเล่าเรื่อง
แต่ความดีงามของหนังก็อาจลดทอนลงไป เพราะคำโฆษณาที่ไป “สร้างความคาดหวัง” ไว้ให้กับคนดูล่วงหน้าก่อนแล้ว ซึ่งสิ่งนี้
ผมมองว่าคนที่คิดโฆษณาหนังต้องระมัดระวังด้วยเช่นกัน เพราะก็อย่างที่เรารู้ครับว่า หลายๆ คน เมื่อได้ดูแล้วรู้ว่าหนังมันไม่ได้
แอ็กชั่นอย่างที่โฆษณา ก็พาลหาว่าหนังไม่ดีไปเลยก็มี และสิ่งนี้มันก็ส่งผลต่อตัวหนังโดยตรง เพราะอย่าลืมนะครับว่า เดี๋ยวนี้
เรามีโลกไซเบอร์ที่แพร่กระจายเรื่องแบบนี้ได้เร็วมาก

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น มันมีคนที่พร้อมจะคล้อยตามคนอื่นแบบนี้เยอะมากอย่างไม่น่าเชื่อ คือให้คนอื่นตัดสินใจแทนว่าหนังเรื่องไหนดี
หรือไม่ดี ควรดูหรือไม่ควรดู ซึ่งก็อยากฝากบอกครับว่า ถึงที่สุดแล้ว ความเห็นทั้งหลายทั้งปวงที่เราๆ ท่านๆ ได้อ่านตามเว็บบอร์ดต่างๆ
หรือแม้กระทั่งในบทความชิ้นนี้ ก็เป็นแค่เพียง “มุมมอง” และ “ความคิดเห็น” ส่วนบุคคลซึ่งเราอาจจะหยิบมาใช้เป็นไกด์ไลน์
ที่ได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้าง แต่ที่แน่ๆ มันไม่ใช่ “คำตอบสุดท้าย” อย่างแน่นอน

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า...

ว่ากันโดยข้อมูลพื้นฐานที่สุด นี่คือผลงานของผู้กำกับริดลี่ย์ สก็อต หนึ่งในคนทำหนังที่สร้างผลงานออกสู่ผู้ชมอย่างต่อเนื่องจนแทบ
จะพูดได้ว่า ริดลี่ย์ สก็อต ดูเหมือนจะเป็นผู้กำกับพลังเหลือ จากผลงานที่มีให้ดูแทบไม่เว้นแต่ละปี และที่สำคัญ หนังทุกเรื่องของเขา
ก็ทำได้ในระดับที่ดีเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าจะเป็น Black Hawk Down, Thelma & Louise, Blade Runner, American Gangster
รวมไปจนถึงหนังออสการ์อย่าง Gladiator ฯลฯ
(ขณะที่หลายๆ คนอาจเคยได้เห็นเขาในมาดคนทำหนังสั้นที่มีผลงานรวมอยู่ใน All the Invisible Children)

ด้วยบทภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของ “เดวิด อิเนเทียส” Body of Lies เล่าถึงปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ซีไอเอ 2 คน คือ
“โรเจอร์ เฟอร์ริส” กับ “เอ็ด ฮอฟฟ์แมน” ที่เปิดศึกตามล่าหาตัว “อัล-ซาลีม” ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์การก่อการร้ายทั้งหลายทั้งปวง
หนังเรื่องนี้พาเราเดินทางไปในหลายๆ ประเทศ ไล่ตั้งแต่อิรัก เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ ก่อนจะไปจบลงที่จอร์แดนซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่
หลบซ่อนตัวของอัล-ซาลีม ซึ่งแน่นอนครับ การที่เรื่องราวในหนังกระโดดข้ามไปประเทศโน้นที ประเทศนี้ที คงไม่ใช่เพราะผู้กำกับ
อยากจะทำเท่ห์ แต่มันมีนัยยะสำคัญที่โยงใยไปถึงเครือข่ายกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่กระจายอยู่ในแทบจะทุกพื้นที่ทั่วโลกด้วยในขณะเดียวกัน

ทิศทางของสองตัวละครหลักมีลักษณะใกล้เคียงกับตัวละครในหนังคู่หูแนวๆ Rush Hour เพียงแต่คู่หูในหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีรูปแบบ
“ไปไหนไปกัน” เพราะในขณะที่เฟอร์ริสต้องรับบทสายลับลงปฏิบัติงานในพื้นที่ เอ็ด ฮอฟฟ์แมน กลับนั่งบัญชาการอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ
ของสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตันดีซี

ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ รับบทบาทสายลับขาลุยได้ดูสมจริงสมจัง เนี้ยบ และดูเข้ม ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อหนุ่มลีโอฉีกมาดผู้ชายหล่อ
เหลาเจ้าสำอางมารับบทเข้มๆ เพราะอย่างน้อยๆ เราก็เคยได้เห็นเขาในบทบาทแบบนี้มาแล้วใน Blood Diamond และ Body of Lies
ก็คือพัฒนาการอีกขั้นของพ่อหนุ่มคนนี้อย่างไม่อาจปฏิเสธ ส่วนรัสเซล โครว์ ที่เพิ่มน้ำหนักจนพุงพลุ้ยเพื่อรับบท “เอ็ด ฮอฟฟ์แมน”
กลับทำให้ดูตุ้ยนุ้ยอืดอาดเกินไป รวมทั้งลักษณะคาแรกเตอร์ก็ดูเหลาะแหละเหมือนคนไม่เอาจริงเอาจัง และในที่สุด มันก็ส่งผลให้
ตัวละครตัวนี้ดูไม่สมบทบาทของซีไอเอที่รับผิดชอบความเป็นความตายของผู้คน

ในส่วนของเนื้อหา ถือได้ว่า Body of Lies มีความแปลกใหม่ในตัวเองพอสมควร เพราะถึงแม้มันจะเป็นหนังที่พูดถึงการก่อการร้าย
แต่ก็ไม่ได้มุ่งเน้นจะตีแผ่หรือประณามความเลวร้ายของเหล่า Terrorist แต่อย่างใด แต่หันมาโฟกัสที่ฝ่ายปราบปรามแทน
ซึ่งหนังก็ทำให้เราได้เห็นว่า มองในบางมุม คนเหล่านี้ บางที ก็ไม่ได้แตกต่างไปจาก “ผู้ก่อการร้าย” สักเท่าไหร่ เพราะในขณะที่โลก
กำลังลุกไหม้เป็นไฟ มันก็ยังมีคนบางที่กำลังเล่นเกมปราบปรามการก่อการร้ายอย่างสกปรก ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็คือ การกุเรื่องโกหกลวง
หลอกศัตรูที่กลับนำมาซึ่งผลลัพธ์อันไม่พึงประสงค์ ส่วนชื่อของหนังที่มีคำว่า Body รวมอยู่ด้วย ก็ไม่ได้หมายถึง “ร่างกาย” หรือ
 “ศพ” แต่หมายถึง กลุ่มคนซึ่งสมรู้ร่วมคิดกันในปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพียงแต่ปฏิบัติการใน Body of Lies ไม่ใช่ปฏิบัติการ
ที่สวยหรูเท่าไรนัก เพราะมันข้นคลั่กไปด้วยการโกหกหลอกลวง (นั่นก็คือคำว่า Lies ในชื่อหนัง)

อย่างไรก็ตาม ประเมินโดยภาพรวมทั้งหมด ผมเห็นว่า Body of Lies ดูจะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับผลงานที่ผ่านๆ มาของ
ริดลี่ย์ สก็อต ในแง่ของ “ความน่าประทับใจ” เพราะใครก็ตามที่เคยดู Black Hawk Down, The Gladiator หรือแม้กระทั่ง
 Thelma & Louise จะเห็นว่า หนังเหล่านั้น อย่างน้อยที่สุด มันได้ทิ้ง “บางสิ่งบางอย่าง” ติดค้างและตราตรึงอยู่ในใจเรา
หลังจากดูจบ แต่ Body of Lies กลับดูเหมือนหนังประเภทสายลับพื้นๆ ทั่วๆ ไปที่เปิดฉากไล่ล่าผู้ร้ายตั้งแต่ต้นจนจบ

พูดแบบพื้นๆ ก็คือ หนังไม่มี “ประเด็น” ที่เด่นชัดและหนักแน่นเพียงพอที่จะตราตรึงอยู่ในใจเราเหมือนหนังหลายๆ
เรื่องที่ผ่านมาของริดลี่ย์ สก็อต (ในศิลปะวรรณกรรมอาจจะเรียกอะไรแบบนี้ว่า “ความสะเทือนใจ” ซึ่งความสะเทือนใจที่ว่านี้
ก็ไม่จำเป็นต้องเกิดจากการสูญเสียหรือเจ็บปวดเสมอไป แต่เป็นอะไรก็ได้ที่มันสามารถ “กระทบ” ต่อความรู้สึกของเรา
ไม่ว่าจะในทางบวกหรือลบก็ตามที)

สรุปก็คือ จากหนังที่ดูเหมือนจะมีอะไรบ้างในตอนแรกๆ ซึ่งอย่างน้อยที่สุด เนื้อหาของหนังก็ดูเหมือนจะพยายามเข้าไปแตะ
“ด้านมืด” บางด้านของซีไอเอที่แม้จะมีความตั้งใจดีในการปราบปรามการก่อการร้ายจนแต่บางทีก็ไม่ได้สนใจวิธีการจนเกือบจะนำมา
ซึ่งความสูญเสียและเจ็บปวดโดยไม่จำเป็น แต่หนังก็ไม่ได้เน้นย้ำเท่าที่ควร เท่าๆ กับที่บางขณะ เนื้อหาบางส่วนของหนังก็เหมือน
จะทำให้คนดูเกิดคำถามในใจว่าซีไอเอมี “วาระซ่อนเร้น” อะไรอยู่ในปฏิบัติการนี้หรือเปล่า แต่หนังก็พูดแบบอ้อมๆ แอ้มๆ ไม่ชัดถ้อยชัดคำ

นั่นจึงทำให้ Body of Lies ที่ออกสตาร์ทด้วยท่วงท่าลีลาของความเป็นดราม่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ลงท้าย ผู้กำกับริดลี่ย์ สก็อต กลับดู
เหมือนจะพอใจที่จะหยุดมันไว้แค่การเป็นหนังที่ดูสนุกตอบสนองความบันเทิงอันว่าด้วยเรื่องราวของตัวละครที่พาตัวเองเดินเข้าสู่
มุมอับและประสบการณ์เฉียดตาย...เท่านั้นเอง...

แต่เอาล่ะ สิ่งหนึ่งซึ่งขอชมว่าเป็นความโดดเด่นยิ่งสำหรับ Body of Lies ก็คือ บทภาพยนตร์ซึ่งผูกพล็อตวางสถานการณ์ในหนังให้
พลิกกลับไปกลับมาอยู่ตลอด (แน่นอน มันเป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆ สำหรับคนดูเมื่อหนังคลี่คลายความจริง) โดยเฉพาะในช่วงพีคท้ายๆ
เรื่องที่ต้องบอกว่า ห้ามเผลองีบเป็นเด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้คุณ “ต่อไม่ติด” กับเรื่องราวในหนังไปเลยก็เป็นได้

และเพราะความเป็นหนังที่มี “เนื้อหา” เป็นตัวนำหน้า ฉากแอ็กชั่นในงานชิ้นนี้จึงทำหน้าที่เป็นเพียง “ส่วนประกอบย่อยๆ” หรือ
“น้ำจิ้ม” พอให้ได้ตื่นเต้นกันบ้างเป็นระยะๆ ซึ่งจริงๆ ผมเห็นว่า นอกจากฉากระเบิดตึกตูมตามนั้นแล้ว ฉากแอ็กชั่นที่เหลือก็ไม่ใช่สิ่ง
จำเป็นของหนังที่ขาดไม่ได้ เพราะถึงแม้เราจะตัดฉากแอ็กชั่นเหล่านี้ออกไป มันก็ไม่ส่งผลกระทบต่อความสมบูรณ์ของหนังแต่อย่างใด
 

บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 05:57:00 PM »

 Cool ครับ ลุงแพะ...
บางครั้งการตั้งความหวังกับหนังบางเรื่องมากเกินไป อาจทำให้ชมไม่สนุกเท่าที่ควร...

บางครั้งหนังบางแนวอาจไม่ตรงกับรสนิยมของเราดูก็ไม่สนุก...

บางครั้งการโปรโมทหนังมากเกินพอดี ทำให้ดูแล้วไม่สนุกได้เช่นกัน...

หนังหลายเรื่องที่บางคนบอกว่าดี แต่ดูแล้วชวนหลับ เสียดายตังส์ก็เยอะ...

 Cheesy ผมแค่เห็นว่าเรื่องนี้ดูแล้วสนุก แต่ไม่ใช่สนุกที่สุดนะครับ... ส่วนใครดูแล้วไม่สนุก หรือไม่ชอบ ก็ไม่ว่ากัน....   
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #40 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 07:45:40 PM »

ขอบคุณครับพี่ สั่งซื้อไปแล้วครับ

หนังลุงคลินท์ของคุณต๊ะผมหาไม่เจอ สงสัยยังใหม่จัด แผ่นก็อปยังไม่ออก  Grin
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #41 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 09:15:25 PM »

"นันทขว้าง สิรสุนทร" ดู Body of lies แล้วไม่รู้เรื่อง... ไม่อยากบอกว่าเป็นเพราะไม่ได้อ่าน Sub ภาษาอังกฤษครับ...

นายสมชายนักเรียนนอก แปลหนังสือตำหรับตำราภาษาอังกฤษหากินกับสำนักพิมพ์มาตรฐานของประเทศไทยมาแล้วร่วมสิบเล่มหนาเตอะ... นายสมชายว่าภาษาอังกฤษของนายสมชายอยู่ในระดับดีมาก เข้าใจว่าในเว็บนี้นายสมชายสู้ไม่ได้อยู่แค่คุณต๊อกและท่านอื่นที่มีนิวาสถานอยู่ในถิ่นที่ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน...

นายสมชายดู BOL สองรอบ ครั้งแรกปิด Subtitle ภาษาอังกฤษเพราะชะล่าใจว่าตัวข้านี่เจ๋ง... แต่เข้าใจเนื้อหาได้ไม่ชัดเจนครับ ทำให้ผูกเรื่องไม่ได้...

ครั้งที่สองต้องเปิด Sub ภาษาอังกฤษ คราวนี้แจ่มแจ้งแดงแจ๋... และนายสมชายไม่ได้ดูในโรง จึงไม่ทราบว่ามีการให้คำบรรยายไทยได้ดีแค่ไหน...

"นันทขว้าง สิรสุนทร" ตีบุคคลิกของ รัสเซลล์ โครว์ ในหนังเรื่องนี้ไม่แตก... แต่ถ้าใครผ่านโลกผ่านชีวิตมาแยะ โดยเฉพาะพวกที่เคยเล่นไฟ่โป๊กเกอร์จะทราบว่าบุคคลิกแบบนี้แหละคือพวกชอบทำลายสมาธิคนอื่น ในขณะที่ตนเองสมาธิดีมาก (ในหนังในขณะที่รับส่งลูกไปโรงเรียนยังอุตส่าห์มีสมาธิ สั่งการให้อีตาเดอคาปริโอฆ่าคน)... บุคลิกคนที่"ลอยตัว"ได้เมื่อถึงเวลา(ลูกน้อง เดอคาปริโอตาย อีตานี่บอกไม่รู้จัก)...

รัสเซลล์ โครว์ นิ่งมากถึงขนาดถูกถีบตกเก้าอี้... ยังมีหน้าทำหน้าไร้อารมณ์ ชวนถกประเด็นเรื่อง Operation กับคนที่เพิ่งถีบหน้าตัวเองได้อีกด้วยแน่ะ... ฮา
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #42 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 09:29:19 PM »

"อภินันท์ บุญเรืองพะเนา"... ท่าทางอายุน้อย หรือไม่ก็อายุมากแต่ประสบการณ์ชีวิตน้อยครับ...

ที่จริงมีหลายประเด็นแต่ขีเกียจเขียนอ่ะ... แฮ่ๆ...

เรื่องแรก ฉากแอกชั่นเรื่อง BOL ในฐานะคนเล่นปืน นายสมชายว่าเนี๊ยบที่สุดตั้งแต่ดูหนังบู๊... โดยเฉพาะการจำแนกมิตรหรือศัตรูก่อนเอาปืนขึ้นมาอยู่ในมือ, การเลือกมุมยิง แม้แต่กำลังวิ่งไล่ยิงใส่หลังรถ 4WD ก็ยังมีการชะงักไม่ยิงเมื่อฉากหลังมีผู้บริสุทธิ์(คนวิจารณ์หนังไม่ได้เล่นปืน)... การกำด้ามปืน การเบี่ยงตัว+สลับเท้าเข้ามุมตึก(ฉากยิงกันที่หมู่บ้านกลางทะเลทราย)... ฯลฯ

เรื่องสอง บุคลิกรัสเซล โครว์... เหมือนที่วิจารณ์ไปแล้วครับ...

เรื่องสาม เรื่องแง่คิดที่หนังทิ้งไว้... เป็นเรื่องของการโกหกหลอกลวงครับ สายลับทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษาขึ้นหลังเสือแล้วต้องลงเมื่อมีโอกาศ... ม่ายงั้นจะสูญเสียหมดทุกอย่าง ครอบครัว อวัยวะ(เดอคาปริโอ นิ้วด้วน เมียเลิก) แล้วหากลงไม่ได้ก็จะกลายเป็นโรนิน ในที่สุด... ในเรื่องนี้ตัวเอกก็ต้องทำงานแบบนี้ต่อไป โดยไม่มีจุดมุ่งหมายอื่นใดในชีวิต เพราะไม่รู้จะทำอะไรดี ไม่กล้ามีเมีย มีครอบครัว...

ที่จริงมีอีกแยะครับ... แต่ยิ่งพิมพ์มากก็จะเหมือนลงหลังเสือ(การตอบกระทู้)ไม่ได้แหละ... ฮา
บันทึกการเข้า
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #43 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 10:33:39 PM »

Cool ครับ ลุงแพะ...
บางครั้งการตั้งความหวังกับหนังบางเรื่องมากเกินไป อาจทำให้ชมไม่สนุกเท่าที่ควร...

บางครั้งหนังบางแนวอาจไม่ตรงกับรสนิยมของเราดูก็ไม่สนุก...

บางครั้งการโปรโมทหนังมากเกินพอดี ทำให้ดูแล้วไม่สนุกได้เช่นกัน...

หนังหลายเรื่องที่บางคนบอกว่าดี แต่ดูแล้วชวนหลับ เสียดายตังส์ก็เยอะ...

 Cheesy ผมแค่เห็นว่าเรื่องนี้ดูแล้วสนุก แต่ไม่ใช่สนุกที่สุดนะครับ... ส่วนใครดูแล้วไม่สนุก หรือไม่ชอบ ก็ไม่ว่ากัน....   

ครับลุงวัฒน์ ผมตกลงสั่งซื้อไปแล้วครับ ... ตอนนั้นที่ลังเลเพราะมันครบ 10 แผ่นพอดี ที่จะได้แถม 3 แผ่นครับ

สั่งไปแล้วครับเรื่องนี้ เพราะผมเองก็ดูหนังหลายเรื่องที่คาดว่าไม่ชอบ แต่กับชอบมากครับ ขอบคุณครับ ...  ไหว้

บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #44 เมื่อ: มีนาคม 30, 2009, 10:57:19 PM »

นันทขว้าง สิรสุนทร" ตีบุคคลิกของ รัสเซลล์ โครว์ ในหนังเรื่องนี้ไม่แตก... แต่ถ้าใครผ่านโลกผ่านชีวิตมาแยะ โดยเฉพาะพวกที่เคยเล่นไฟ่โป๊กเกอร์จะทราบว่าบุคคลิกแบบนี้แหละคือพวกชอบทำลายสมาธิคนอื่น ในขณะที่ตนเองสมาธิดีมาก (ในหนังในขณะที่รับส่งลูกไปโรงเรียนยังอุตส่าห์มีสมาธิ สั่งการให้อีตาเดอคาปริโอฆ่าคน)... บุคลิกคนที่"ลอยตัว"ได้เมื่อถึงเวลา(ลูกน้อง เดอคาปริโอตาย อีตานี่บอกไม่รู้จัก)...

รัสเซลล์ โครว์ นิ่งมากถึงขนาดถูกถีบตกเก้าอี้... ยังมีหน้าทำหน้าไร้อารมณ์ ชวนถกประเด็นเรื่อง Operation กับคนที่เพิ่งถีบหน้าตัวเองได้อีกด้วยแน่ะ... ฮา

ผมชอบบุคลิกของหัวหน้าหน่วยข่าวกรองจอร์แดนครับพี่ ชอบมากที่สุดตอนที่เขาจับคนของกลุ่มก่อการร้ายมา แล้วก็โทรหาไปหาแม่นายคนนั้น แล้วก็ให้คุยโทรศัพท์กับแม่แม่ก็บอก terorist คนนั้นว่า  แกซื้อของให้แม่หรือแม่ดีใจมาก เป็น undecent proposal จริงๆ ในชีวิตจริงหหาร สายลับ มาเฟีย ก็ดูแลคนแบบนี้ประเภทตัวตายแต่คนข้างหลังก็มีคนดูแล คนที่ทำงานด้วยก็จะทำงานบุกน้ำลุยไฟได้ แต่บุลิกแบบรัสเซล โครว์ นี่นิ่งจริง แต่ดูก็รู้ว่าหลอกใช้ เห็นแก่ตัวปล่อยลูกน้องไปตาย ผมคนหนึ่งล่ะไม่ขอทำงานหรือไม่ตายเพื่อคนแบบนี้ครับ และก็คงไม่มีใครยอมตายเพื่อคนแบบนี้เช่นกันครับ Cheesy
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.126 วินาที กับ 22 คำสั่ง