ที่จริงควรจะให้หน่วยหน้าจัดอาวุธและเครื่องป้องกันให้ตามสมควรมากกว่าจะมาพกปืนส่วนตัวครับ เช่นไปตั้งด่านก็เบิกลูกซองของราชการไปด้วยเสร็จงานก็เก็บคืน สน. เป็นต้น และก็ไม่จำเป็นที่ทุกคนต้องพกปืนโดยเฉพาะการเบ่ง ต้องยอมรับอย่างว่า อส. อพปร. ส่วนใหญ่ยังไม่รู้บทบาทตัวเองและมักทำหน้าที่เกินกฎหมาย
ตอบตรงใจครับ... "อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน"...
ตามชื่อคือ "อาสา"เข้ามาทำงาน ทำงาน"ป้องกัน"ภัย... ไม่ใช่ให้ปราบปราม แต่งานหลักเป็นแหล่งข่าว ชี้ช่องชี้เบาะแสมากกว่าลุยครับ...
แปลว่าหากกลัวตายรักชีวิตตนเอง ซึ่งใครๆก็รักชีวิตนั้นถูกต้อง... แต่เมื่ออาสาเข้ามา รู้สึกกลัวเมื่อใดก็สามารถเลิกทำงานได้ครับ... เพราะไม่ใช่หน้าที่บังคับ ไม่เหมือนตำรวจทหารข้าราชการ ลูกจ้างฯ พนักงานราชการ ฯลฯ ที่กินเงินเดือนหลวง ซึ่งหากเลี่ยงหน้าที่จะมีความผิดฐานละเว้นกระทำการครับ... ดังนั้นหากกลัวตายก็ไม่ต้องมาทำงานเสียสละเพื่อสังคมครับ...
ลักษณะงานตามชื่อฯ คือ"ป้องกันภัย"... แปลว่าไม่ใช่หน่วยกำลังหลักเข้าลุยปราบ หากตั้งด่านก็จะมีประโยชน์แก่ราชการในฐานะที่เป็นคนในท้องที่ รู้จักผู้คนและเป็นแหล่งข่าวที่ดีแก่เจ้าหน้าที่ว่าใครไปใครมา มีอาชีพอะไร สัมมาชีพหรือมิจฉาชีพ... แต่ไม่ใช่เข้าตรวจค้นผู้คนเหมือนเป็นเจ้าหน้าที่เสียเอง...
หากราชการเห็นว่าจำเป็นต้องใช้อาวุธฯ ราชการจะเบิกของหลวงมาให้ใช้งานครับ... อาวุธทางราชการของ อส. มีแม้กระทั่งอาวุธสงครามเชียวครับ... ไม่ฮา