เห็นราคาอุปกรณ์ + ปืนแล้ว

ผมขออนุญาตแนะนำครับลูกกรด .22 ปืนกระบอกละ สาม-สี่ หมื่นก็ได้ปืนดีแล้วลูกกล่องละ 200 กว่าๆ 50 นัด ติดกล้องยิงมัน ยิงแข่งได้ครับ ใช้เฝ้าบ้าน เฝ้าสวน ได้ยิงได้ตั้งแต่ 50 เมตรถึงประมาณ 200 เมตร ครับ
แข่งระบบชาวบ้านได้ แต่แข่งระบบสากล ไม่ได้ครับ
ถ้าหากว่าอยากใช้เป็นโอกาสทางการศึกษา เช่น เข้ามหาวิทยาลัยในโครงการช้างเผือกของมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ต้องเป็นระบบสากลครับ
มหาวิทยาลัยให้โอกาสในการศึกษาอยู่หลายแห่งทั้งรัฐและเอกชน มหาวิทยาลัยของรัฐอย่างจุฬาลงกรณ์, ธรรมศาสตร์, มหิดล, เกษตรศาสตร์, เชียงใหม่ ฯลฯ มีโควตาให้ มหาวิทยาลัยเอกชน เช่น ม.กรุงเทพ ม.เกษมบัณฑิต ม.ศรีปทุม ก็มีทีมยิงปืนเช่นกัน ทุกมหาวิทยาลัยที่กล่าวมาให้โอกาสในการเข้าเรียนแต่สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ตัวนักกีฬาเองว่าจะสามารถเรียนจบได้หรือไม่ เพราะที่เห็นมา ก็มีทั้งที่เรียนจบประสบความสำเร็จ และ ที่เรียนไม่จบต้องโดนรีไทร์ไป
ผมว่าน้องเค้ายังมีเวลาอีกมากครับ ให้จบคอร์สแรกนี้ไปก่อน แล้วถ้ามีความสุข สนุกกับกีฬาชนิดนี้จริงๆ สามารถเล่นจนจบการศึกษาระดับอุดมศึกษาได้แน่นอน แต่หลังจากนั้นก็แล้วแต่ตัวบุคคลครับ
ผมเองยิงปืนระบบสากล เพราะคุณพ่อเป็นนักกีฬายิงปืน มีโอกาสตามคุณพ่อไปสนามยิงปืนตั้งแต่เล็กๆ ยิงตั้งแต่เก้าขวบเหมือนกันครบ จนเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ยิงอยู่หนึ่งปี หลังจากนั้นข้ามฟากมาเป็นนักเรียนแพทย์ทหารที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าแล้ว แทบจะไม่ได้ลงแข่งขันอีกเลย ได้แต่คอยเป็นโค้ชดูแลน้องชายซึ่งยิงให้ทีมจุฬา แล้วก็ได้ดูแลน้องๆนักกีฬาของจุฬาลงกรณ์ต่อมาอีกหลายต่อหลายคน ตอนนี้ก็ยิงบ้าง แข่งขันบ้างเป็นครั้งคราว
กีฬายิงปืนไม่ได้ผลตอบแทนทางการเงิน แต่ว่ามีส่วนช่วยในเรื่องการฝึกสมาธิ และการตัดสินใจได้อย่างดีครับ
ข้อเสียอย่างเดียวคงเป็นอุปกรณ์ที่ราคาแพงมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวปืน หรือค่ากระสุนผึกซ้อม
หากยิงจริงจังจนมีโอกาสได้ติดทีมชาติ อาจมีงบประมาณช่วยเหลือเรื่องค่าฝึกซ้อมให้กับนักกีฬาบ้าง แต่ว่าเงินรางวัลหรือเงินอัดฉีดที่ได้จากเหรียญรางวัลต่างๆ เมื่อหักลบกับค่าอุปกรณ์และค่าฝึกซ้อมแล้ว อย่างมากก็แค่ไม่ขาดทุนครับ