การใช้ปืนของคนอื่นยิงในขณะป้องกันตัว จะมีความผิดไหม?
ถ้าหมายถึงผิดในเรื่องปืนผิดมือ หรือใช้ปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตอบว่า ไม่ผิดครับ เพราะว่าเราใช้ป้องกันตัวในเหตุเฉพาะหน้ามีภัยแก่ชีวิตของเราหรือผู้อื่นขนาดจวนตัว ไม่ได้มีเจตนาครอบครองหรือเป็นเ้จ้าของ เป็นคนละเรื่องกันครับ (ใบอนุญาตให้มีและใ้ช้ ตามพรบ.อาวุธปืน ความหมายคือ การมีครอบครองเป็นเจ้าของ)
ถ้าจะผิด ก็คงผิดตรงที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่อย่างไรมากกว่าครับ ซึ่งเป็นเรื่องของ ป.อาญา ไม่ใช่ พรบ.
น่าจะผิดน่ะเพราะว่า การครอบครองกับการเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์(เจ้าของ)ต่างกัน ทรัพยสินของใครก็แล้วแต่หากอยู่ที่เราเราได้ใช้ไปถือว่าเราเป็นผู้ครอบครอง กลับกันทรัพย์สินของเราแต่อยู่ที่ผู้อื่นถือว่าผู้อื่นเป็นผู้ครอบครอง แต่เราคือ เจ้าของผู้ถือกรรมสิทธิ์ (ปพพ. ม.1369 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินไว้ ท่านให้สัณนิฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้นยึดถือเพื่อตน ประกอบ ม.1367 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ท่านว่าบุคคลนั้นได้ซึ่งสิทธิครอบครอง) การที่จะเอาปืนกระบอกนั้นมาใช้ยิงนั้นปืนต้องเข้ามาอยู่ที่เราก่อนเมื่อปืนอยู่ที่เราแล้ว กม. ถือว่าเราเป็นผู้ครอบครองแล้ว หากเราเป็นผู้ครอบครองปืนของผู้อื่น ก็น่าจะมีความผิดฐานมี อวป.ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ครับ นี่เป็นคนละประเด็นกับการป้องกันตัวดังที่คุณ 003กล่าว น่ะครับ
ขอบคุณครับที่ช่วยกันตั้งข้อสังเกตต่อกรณีที่ยกมาเป็นคำถาม
แต่ด้วยความเคารพผมยังยืนยันว่า
ตามข้อเท็จจริงที่ยกมา หากเจ้าของกระทู้ใช้ปืน(มีทะเบียน)ของผู้อื่นยิงคนร้ายอันเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จขกท. จะไม่มีความผิด ไม่ว่าจะเป็นฐานความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย หรือความผิดตาม พรบ. อาวุธปืน ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไ่ม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่
ในข้อเท็จจริงที่ยกมา จขกท.ถามว่าใช้ปืนของผู้ยิงป้องกันภยันตรายใกล้ถึงตัว จะผิด(เรื่องครอบครองหรือใช้ปืนโดยไม่มีใบอนุญาต)ไหม ซึ่งผมเห็นว่า "ไ่ม่ผิด"
แต่ถ้าเป็นกรณีจขกท. พาอาวุธปืน(ของผู้อื่น)ติดตัวไปในเมืองแล้วถูกจับกุมดำเนินคดี หรือ ครอบครองอาวุธปืนของผู้อื่นไว้ที่บ้านแล้วบังเอิญถูกเข้าตรวจค้นพบ เช่นนี้
อาจมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ครับ แต่
ถ้าเราตีความว่า การหยิบฉวยปืนของผู้อื่นมาถือหรือใช้เพื่อป้องกันระงับเหตุนั้น ถือเป็นการครอบครอง มี และใช้ อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น?
- ที่บ้านมีปืนของพ่อ มีโจรขึ้นบ้าน ลูกหยิบปืนมาไล่โจร ก็จะผิดฐานนี้ด้วย กระนั้นหรือ?
- เพื่อนเรากำลังอยู่ในภาวะคับขันเป็นตายเท่ากัน เราอยู่ในเหตุการณ์ด้วย จู่ๆ มีคนเอาปืนมาโยนให้เรา ตะโกนบอกว่า "ปืนผมยกให้คุณเลย" ถ้ารับมาครอบครอง ถือ หรือใช้ แล้วมีความผิด จะีมีใครกล้าเอาปืนไปช่วยชีวิตคนบริสุทธิได้ล่ะครับ
ตามที่คุณ s-a-n ยกบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ปพพ. ม.1369 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินไว้ ท่านให้สัณนิฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้นยึดถือเพื่อตน ประกอบ ม.1367 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ท่านว่าบุคคลนั้นได้ซึ่งสิทธิครอบครอง) มาอธิบายนั้น การเทียบเคียงระหว่างประมวลกฎหมายแพ่งกับประมวลกฎหมายอาญาอาจเทียบเคียงเพื่อการตีความได้ในบางเรื่อง แต่ต้องเข้าใจว่าหลักทางแพ่งกับทางอาญานั้นต่างกัน การตีความกฎหมายอาญาต้องตีความอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเจตนานั้นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากในความผิดอาญา ถ้าการกระทำใดขาดเจตนาถือว่าไม่ครบองค์ประกอบความผิดด้วยซ้ำ ดังนั้น จะใช้ข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้น(เจตนา)ยึดถือเพื่อตน คงไม่ได้ อย่าลืมว่าหลักกฎหมาย ปพพ. ที่คุณ s-a-n ยกมาอธิบายประกอบนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายทรัพย์ ในขณะที่เรื่องนี้ มีกฎหมายเฉพาะบัญญัติไว้ชัดเจนอยู่แล้ว คือ พรบ. อาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐
มาตรา ๗ ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ซื้อ
มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่
มาตรา ๔ (๖) “
มี” หมายความว่า มีกรรมสิทธิ์หรือมีไว้ในครอบครองแต่ไม่หมายความถึงการที่อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดที่มีไว้โดยชอบด้วยกฎหมายและตกอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่นซึ่งไม่ต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัตินี้เท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาสิ่งที่ว่านี้มิให้สูญหาย
จากบทบัญญัติที่ยกมาประกอบจะเห็นได้ว่า แม้จะเป็นการครอบครองอาวุูธปืนที่มีทะเบียนของคนอื่นถึงขนาดเก็บรักษาไว้ให้ (เช่น เพื่อนฝาก หรือจำนำ) กฎหมายยังยกเว้นไว้ให้ ดังนั้น ที่คุณ s-a-n กล่าวว่า "การที่จะเอาปืนกระบอกนั้นมาใช้ยิงนั้นปืนต้องเข้ามาอยู่ที่เราก่อนเมื่อปืนอยู่ที่เราแล้ว กม. ถือว่าเราเป็นผู้ครอบครองแล้ว" จึงไม่่น่าจะถูกต้อง
ขนาดครอบครองเก็บรักษา หรือรับจำนำไว้เป็นปีๆ ยังไม่ถือว่าเป็นการครอบครอง ฉะนั้นการที่หยิบปืนมาใส่มือเพื่อใช้ระงับเหตุชั่วประเดี๋ยวประด๋าว จึงยิ่งต้องเป็นเช่นนั้นครับ