ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัว โดย วสิษฐ เดชกุญชร

นำมาฝากครับ......หากเข้าข่ายสถาณการณ์บ้านเมือง ขอความกรุณาวมต. หรือ RO ช่วยย้ายด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ

วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11420 มติชนรายวัน

ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัว โดย วสิษฐ เดชกุญชร

ผมทราบจากคอลัมน์ ปิดไม่ลับ ของหนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 12 มิถุยายนนี้ว่า คุณชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งในการประชุม (ทางวิดีโอ) เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ร่วมมือกับบริษัท คิงเพาเวอร์ ด้วยการรับเหรียญ "เรารักพระเจ้าอยู่หัว" จำนวน 6 แสนเหรียญที่บริษัทสร้าง ไปขายในราคาเหรียญละ 199 บาท เพื่อนำเงินที่ได้ขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยกำหนดให้จังหวัดขนาดใหญ่รับไป 1 หมื่นเหรียญ จังหวัดขนาดกลาง 7,000 เหรียญ และจังหวัดขนาดเล็ก 6,000 เหรียญ และกำชับให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 มิถุนายน รายงานข่าวว่า ผู้สื่อข่าวซัก และคุณชวรัตน์ตอบชี้แจงว่า มิได้สั่งบังคับจังหวัดใด แต่ที่กำหนดให้เสร็จในเดือนมิถุนายนนั้น ก็เพื่อ "ดูปัญหา กำลังซื้อ และหาทางออก" คุณชวรัตน์บอกด้วยว่า "งานนี้ (หมายถึงการจำหน่ายเหรียญ) เป็นงานการกุศล" และ "ไปช่วยเขาขาย" เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นเหมือนการบังคับขายเสื้อของมูลนิธิแห่งหนึ่งหรือไม่ คุณชวรัตน์ก็บอกว่าให้ไปถาม (ผู้ว่าราชการ) แต่ละจังหวัดเอาเอง หากจังหวัดไหนบ่น ก็ฝากให้ส่งเหรียญกลับคืนมาได้ ก่อนอื่น ขอบอก (บอกคุณชวรัตน์ด้วยครับ) ว่า คำว่า "กุศล" นั้น ถ้าเป็นคำนามแปลว่าสิ่งที่ดีที่ชอบ หรือแปลว่าบุญก็ได้ สำหรับคนไทย การถวายเงินแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นไม่ใช่ของแปลก คนไทยทำกันตลอดปีในโอกาสต่างๆ คนละมากบ้างน้อยบ้าง เพราะถือว่าการถวายเงินเพื่อ "โดยเสด็จพระราชกุศล" นั้นคือการทำบุญกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนไทยเต็มใจถวายเพราะรู้ว่าเงินที่ถวายไปนั้น ทุกบาททุกสตางค์ ทรงพระเมตตาพระราชทานแก่โครงการหรือกิจกรรมที่ทรงริเริ่มหรือทรงอนุเคราะห์เพื่อสาธารณประโยชน์ และหากถวายเพื่อ "โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศรัย" ก็หมายความว่า จะทรงใช้ไปในการทำประโยชน์อย่างอื่นใดก็สุดแต่ฝ่าละอองธุลีพระบาท
คุณชวรัตน์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นนายโดยตรงของข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทั้งกระทรวง รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด 75 คนด้วย ไม่ต้องเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอย่างคุณชวรัตน์ดอกครับ เป็นคนไทยธรรมดาๆที่ไม่ปัญญาอ่อนก็คงรู้ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคนกลัวหรือเกรงอำนาจรัฐมนตรีทุกคน โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีบอกบุญ และไม่ใช่บุญธรรมดา แต่เป็นบุญที่จะทำกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ว่าราชการจังหวัดคนไหนที่จะอยากหรือกล้าบอกว่า รับไม่ไหว แล้วคืนบุญกองนั้นมา? ผู้สื่อข่าวซักว่าเงินที่จะถวายเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลนั้นมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเท่าใด คุณชวรัตน์ตอบว่าไม่ทราบ แต่ยืนยันว่า ถ้ายอดขายไม่ถึงตามเกณฑ์ที่วางไว้ ก็จะ "ไม่มีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายระดับสูงแน่นอน" ผู้ว่าราชการจังหวัดคนไหนจะเชื่อหรือไม่ผมไม่รู้ แต่ผมไม่เชื่อครับ

ในชีวิตราชการประจำและราชการการเมืองของผม ผมเคยเห็นรัฐมนตรีบอกบุญมาแล้วหลายรายและหลายคน รัฐมนตรี (ซึ่งเผอิญเป็นอธิบดีกรมตำรวจด้วย) คนหนึ่งทอดกฐิน บอกบุญตำรวจทุกจังหวัดแบบเดียวกับคุณชวรัตน์ คือกำหนดวงเงินไปให้ผู้กำกับการตำรวจจังหวัด จังหวัดละเป็น (หลาย) หมื่น ไม่มีปัญหาครับ ผู้กำกับการก็ไปบอกบุญต่อเอากับพ่อค้าในจังหวัดของตน ผมถามผู้กำกับการที่ชอบพอกันคนหนึ่งว่า อย่างนั้นถ้าจะบอกบุญเกินวงเงิน แล้วเอาเงินส่วนเกินใส่กระเป๋าตัวเองก็ได้ใช่ไหม ได้รับคำตอบว่า สบายมาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอีกคนหนึ่ง ทอดกฐินเหมือนกัน บอกบุญอธิบดีกรมในสังกัด โดยกำหนดวงเงินเหมือนกัน รายนี้บุญหนักหน่อย บางกรมโดนเป็นล้าน แต่ก็ไม่มีปัญหาเหมือนกัน เพราะอธิบดีไปบอกบุญต่อเอากับ "ผู้ประกอบการ" (แปลว่านักธุรกิจที่ต้องอาศัยการอนุมัติหรือกำกับดูแลของกรม)
เงินที่ได้มาด้วยการบอกบุญเชิงบังคับเช่นนี้มีตำหนิ เขาไม่เรียกว่าบุญกุศล แต่เรียกว่าบาปอกุศลครับ และหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบว่า เงินที่ถวายได้มาจากการ "บอกบุญ" แบบนั้น ก็คงไม่ต้องพระราชอัธยาศรัย และคงไม่ทรงรับ เวลานี้ พระมหากษัตริย์กำลังถูกคนเนรคุณแผ่นดินบางคนลบหลู่ จาบจ้วง หมิ่นประมาท และดูหมิ่น ด้วยเจตนาที่จะล้มระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ผู้ปกครองบริหารบ้านเมืองทุกคนจึงควรระมัดระวัง ไม่ทำอะไรที่อาจเป็นการซ้ำเติม และทำให้พระบารมีได้รับความกระทบกระเทือนหรือเสียหาย นอกจากจะแอบจงใจสนับสนุนคนเนรคุณแผ่นดินด้วย การโดยเสด็จพระราชกุศลนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอาจทำได้โดยไม่ต้องบอกบุญเป็นเงินแม้แต่บาทเดียว ถ้านึกไม่ออกผมจะบอกให้ยกเลิกคำสั่งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดใหม่ แล้วบอกทุกคนว่า เหรียญที่บริษัท คิงเพาเวอร์ขายนั้น ใครมีศรัทธาอยากได้ก็ให้ซื้อเอาเอง ซื้อเท่าไหร่รัฐมนตรีขออนุโมทนาด้วย แต่ไม่ต้องรายงาน เพราะเป็นเรื่องของบริษัท คิงเพาเวอร์ รัฐมนตรีไม่เกี่ยว แล้วบอกบุญผู้ว่าราชการจังหวัดว่า พรรษาที่จะถึงนี้ รัฐมนตรีจะถือศีล 8 ตลอดทั้งพรรษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ และข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยคนไหน จะร่วมถือศีลถวายพระราชกุศลด้วย และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรวบรวมรายชื่อผู้ที่จะร่วมถือศีลถวายพระราชกุศลเหล่านั้นเสนอก่อนวันเข้าพรรษา พุธที่ 8 กรกฎาคม 2552 ผมไม่ใช่หมอดูดอกครับ แต่ขอทายว่า ถ้ารัฐมนตรีทำอย่างนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทุกคน เว้นผู้ที่ถือศาสนาอื่น จะร่วมกับรัฐมนตรีถือศีลถวายพระราชกุศลด้วย และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคราวหน้านี้ พรรคภูมิใจไทยจะได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงเหนือพรรคอื่น จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ผมจะไม่ทายละครับว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัว โดย วสิษฐ เดชกุญชร (อ่าน 2209 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้