ได้ครับ..
6.30น.โดยประมาณ..ของเช้าวันที่..30มิ.ย.09
มีตำรวจนอกเครื่องแบบพร้อมหมายค้น..มาเรียกผมที่หน้าบ้าน..
โดยเขาบอกว่า..มีคนแจ้งว่า..บ้านนี้สงสัยน่าจะมีของผิดกฏหมาย..
ผมงงๆ..แต่ก็ยินดีและให้ความร่วมมือให้ค้นภายในบ้าน..
ทันทีที่เขาเดินเข้ามาบ้าน..
ตำรวจคนหนึ่งถามว่า..
มีปืนไหม..
ผมตอบว่า..
มี..
เขาก็ถามว่าอยู่ไหน..
ผมก็บอกว่า..อยู่นั่น..อยู่นั่น..แล้วก็นั่น..
เขาไปตามที่ผมบอก..แล้วรวบรวมปืนทั้งหมดใส่เป้..พร้อมเชิญผมมาโรงพัก..
ผมขออนุญาตเขา..นำเอกสารติดตัวมาด้วย..ซึ่งเขาก็อนุญาต..
หลังจากตรวจสอบเอกสารแล้ว..
มีการแจ้งข้อหา..ว่า..
ปืนลูกโม่สมิธ..m60..ผิดเนื่องจากไปมีใบป.4
(เอกสารที่ผมมีของปืนกระบอกนี้..คือ..สำเนาป.3ที่เป็นชื่อผมกับสำเนาป.4ของเจ้าของเดิม..
ส่วนเอกสารจริง..อยู่ที่อ.บางปะกง เพราะผมไปยื่นเรื่องตัดโอนชื่อเจ้าของเดิมเพื่อนำมาขอป.4ในชื่อผมที่อ.เมือง..)
ผมพยายามชี้แจง..ด้วยเหตุผลข้างต้น..
คำตอบที่ได้คือ..
"ถ้าคุณ..ไม่มีใบป.4..
คุณไม่มีสิทธิ..มีปืนกระบอกนี้..
ถ้ามี..ถือว่าผิด.."
ผมไม่ได้..พูดอะไรต่อ..
ได้แต่นั่งนิ่งๆ..
แล้วโทรศัพท์..ให้อาจารย์มาประกันตัว..
(กรณีนี้..หลักทรัพย์ที่ต้องใช้คือ..หนึ่งแสนบาทถ้วน..(ไม่มีลดหย่อน)
ผมรบกวนอาจารย์ท่านหนึ่งมาเซนต์ค้ำประกัน..เพราะไม่มีหลักทรัพย์มากพอในช่วงเวลานั้น..
แต่เนื่องจาก..เป็นข้าราชการบำนาญ..
ทางกฏหมายตีเป็นค่าหลักทรัพย์เท่ากับ..กำนันผู้ใหญ่บ้าน..
คือ..หกหมื่นบาท..
คดีผมใช้คนค้ำประกันสองคน..คือตัวอาจารย์และภรรยา..ครับ..
กรณีข้าราชการโดยทั่วไป..วิธีคำนวนคือ..เงินเดือนปัจจุบันคูณ10จะได้เป็นมูลค่าหลักทรัพย์..
ส่วนเอกสารที่จะต้องใช้..ก็มี..หนังสือรับรองเงินเดือนจากหน่วยงานในสังกัด..
กรณีโชคร้ายมากมาย..ติดเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดราชการ..
ต้องใช้เงินสดอย่างเดียว..
ถ้าหาไม่ได้..ต้องนอนตะแลงแกง..จนกว่าจะหาหลักทรัพย์มายื่นประกันตัว..
กรณีหาไม่ได้เลย..
ท่านจะต้องถูกควบคุมตัว..จนกว่าจะส่งฟ้องศาล..
ปกติก็จะใช้ระยะเวลา..ในการดำเนินเรืองทั้งหมดเป็นเวลาสามเดือน..ครับ..)
ตอนนี้..สำนวนยังไม่ได้ส่งอัยการ..
วันนี้..ผมไปรับเอกสารตัดโอนมาพร้อมยื่นเรื่องเพื่อทำเอกสารป.4ที่อ.เมือง..
เจ้าหน้าที่ที่อำเภอบอกว่า..จะเร่งให้..อย่างช้า..ไม่เกินสิ้นเดือนนี้..
มีข้อสังเกตุ..ตรงที่ว่า..
ในใบป.3..มีข้อความว่า...อนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน..
ผมก็คิดเองว่า...ถ้าอนุญาตให้ซื้อ..ผมก็ต้องมีสิทธิ์รับสิ่งที่ผมซื้อ..มาอยู่ในความดูแล..
ในใบป.4...มีข้อความว่า..อนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน..
ผมก็ดูว่า..กรณีผมไม่น่าเข้าข่ายความผิดนี้..
เพราะ..คำว่าให้..."มีและใช้.."
กรณีผมน่าจะเป็น...มีแต่ไม่ได้ใช้(เก็บไว้ในบ้านเพื่อดำเนินการด้านเอกสารให้ถูกต้อง)
ถ้าเป็นคำว่า..มีหรือใช้อาวุธปืน..นี่สิ..ผมถึงจะเข้าข่ายความผิด..เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีหรือใช้..ซะหน่อย..
(ผมคิดเองตามความรู้อันน้อยนิดของผมนะครับ..อาจจะไม่ถูกต้องก็ได้..)
ส่วนเหตุผลในการทำผิดของผมทางฝ่ายเจ้าหน้าที่..อธิบายว่า..
ถึงคุณจะซื้อถูกต้อง..
คุณก็ต้องฝากปืนไว้กับเจ้าของเดิมก่อน..
จนกว่าจะถึงวันไปคัดชื่อของเจ้าของเดิมออกในวันตัดโอนและออกเอกสารป.4เป็นชื่อผม..
(ผมก็คิดต่อไปว่า..มันจะมีช่องว่างของการครอบครองอยู่ตรงที่..
ช่วงตัดโอนชื่อจากเจ้าของเดิม>>>>>>>>>>>>จนถึงช่วงเวลาที่ใบป.4ออก..
ผมก็ไม่ทราบว่า..ช่วงนี้..ปืนจะต้องอยู่ในความดูแลของใครเพื่อจะไม่ให้ผิดกฏหมาย)
ตอนนี้..ผมรอใบป.4...ให้ออกมาก่อน..
แล้วคิดวาจะนำไปยื่นต่อพนักสอบสวนอีกที่..
เผื่อพนักงานสอบสวนท่านจะเห็นใจ..ไม่ส่งฟ้องอัยการ..
หรือถ้าท่านยืนยันที่จะส่งฟ้อง..อัยการ..
ผมก็จะยื่นเรื่อง..เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ..
เผื่ออัยการ..ท่านจะเห็นใจ..ไม่ส่งฟ้องศาล..
หรือถ้าท่านยังยืนยันจะส่งฟ้องศาล..
ผมก็จะขอแถลงต่อศาลถึงเจตนาแห่งความผิดคือเพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมาย..เผื่อศาลท่านอาจยกฟ้อง
ถ้าผิดจากนี้..ผมก็เสียค่าปรับครับผม..

ปล. ไม่ทราบว่า..
ข้อความทั้งหมดของผม..เป็นที่เข้าใจของผู้อ่านหรือปล่าว..?
ผิดพลาดตรงไหน..
ขออภัยผู้อ่านทุกท่านด้วยครับผม..

การที่นายทะเบียนอาวุธปืนออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคคล (แบบ ป.3) ให้แก่ผู้ขออนุญาต
ส่วนการไปซื้อหรือรับโอนอาวุธปืนตามแบบ ป.3 ดังกล่าว แล้วนำไปดำเนินการจดทะเบียนออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) เป็นขั้นตอนต่อเนื่องมาเพื่อควบคุมอาวุธปืนในราชอาณาจักรให้รู้ว่าอาวุธปืนแต่ละกระบอกอยู่ในครอบครองของผู้ใดเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงว่าผู้ขออนุญาตเพิ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนเมื่อนายทะเบียนอาวุธปืนออกใบอนุญาตแบบ ป.4 ให้
?? ตรงตัวแดงแหละครับ ป.๓ ฉบับเดียวก็ศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองปืนที่อยู่กับบ้านได้แล้ว