อ้าว...ไหงไม่มีใครตอบเลยครับ

ต้องขอโทษด้วยครับที่มาถามในบอร์ดนี้แต่ผมเชื่อว่าน่าเป็นบอร์ดที่มีผู้มีประสบการณ์จริงครับ
ผมได้ โกลด์คัพ ๘๐ มาและตั้งใจไว้ใช้งาน เริ่มต้นผมใช้
๑. สปริงรีคอย ที่๑๗.๕ ปอนด์ เมนสปริง ๒๑ ปอนด์ ยิงแล้วใช้งานได้ดีแต่รู้สึกรีคอย มาก (ลูกจริง ๒๓๐ เกรน ความเร็วประมาณ ๘๕๐ ฟตว) แล้วเปลี่ยนมาลอง
๒.สปริงรีคอย ที่๑๔ ปอนด์ เมนสปริง ๑๖ ปอนด์ ปรากฏว่ารู้สึกรีคอย มากกว่าเดิมอีก (๑)
ถ้าผมจะลอง
๓. สปริงรีคอย ที่๑๗.๕ ปอนด์ เมนสปริง ๑๖ ปอนด์ รีคอย จะน้อยกว่าเดิมหรือไม่ และออปชั่นใดจะเกิดผลเสียต่อปืนมากที่สุดถ้ายิงสักห้าพันนัดขึ้นไป และออปชั่นใดจะช่วยให้ยิงดับเบิลแทบได้เร็วที่สุด(ไม่เอาการซ้อมมาวัด)
ทั้ง ๑และ ๒ ยิงลูกได้ตั้งแต่ซ้อมยันหัวรู ได้ไม่ติดข้ด ส่วน ๓ ยังไม่ได้ลอง
ขอความกรุณาช่วยตอบด้วยครับ
ผมมาช่วยตอบเท่าที่ตัวผมเข้าใจก็แล้วกันครับ...ถ้าผิดก็รบกวนผู้รู้แก้ไขให้ด้วยก็แล้วกันครับ
วัตถุประสงค์คือ...ใช้งานหรือป้องกันตัว
ปัญหาคือ...รีคอยล์มากไปในแต่ละ น.น ของสปริง อยากได้รีคอยล์ต่ำลงเพื่อยิงนัด 2 เร็วขึ้น
คำถามว่าแบบไหนทำให้ปืนเสียเร็วใน 3 ข้อ
หลักๆคือที่ผมสรุปประเด็นมา แต่เรามาเข้าใจกับวงจรของรีคอยล์ปืนก่อนดีกว่าเพื่อที่คุณจะได้เข้าใจให้ชัดเจน
รีคอยล์ของปืนแบ่งได้เป็น เตะและถีบ ครับ...อย่าถามต่อว่าแบบไหนดีนะครับ

ในปืนทั่วไปรีคอยล์จะเป็นเตะครับ สาเหตุเกิดจาก
เมื่อกระสุนยิงออกไป สไลด์เริ่มถอยหลังก็จะเจอกับแรงต้านของรีคอยล์สปริงและนกสับซึ่งมีเมนสปริงอีกตัวต้านไว้ เมื่อเราจับปืนเวลายิงก็จะเกิดแรงต้านเพราะสไลด์พยายามถอยแต่สปริงทั้ง 2 จะต้านเอาไว้ เมื่อเกิดแรงต้านกันโดยที่เราจับด้ามปืนต่ำกว่าจุดหมุนคือแนวลำกล้อง มันจึงได้เกิดอาการที่ลำกล้องปืนสบัดขึ้น มากน้อยก็แล้วแต่การกริปปืนของแต่ละคน
เมื่อสไลด์ถอยสุดแล้ว นกง้างขึ้นเมนสปริงก็เลยไม่เกี่ยวต่อไป สไลด์ก็กลับไปด้วยแรงของรีคอยล์สปริงล้วนๆ
ทีนี้เมื่อเข้าใจกับรีคอยล์แล้วว่ามันทำงานอย่างไรมีอะไรมาต้านและปิดสไลด์กลับ ก็มาดูสปริงที่ถามถึงบ้างครับ
1. สปริงรีคอยล์ lb17.5 และ เมนสปริง lb21 สมมุติแบบง่ายๆนะครับรวมกันเกิดแรงต้าน lb38.5
2. สปริงรีคอยล์ lb14 และ เมนสปริง lb16 สมมุติแบบง่ายๆนะครับรวมกันเกิดแรงต้าน lb30
3. สปริงรีคอยล์ lb17.5 และ เมนสปริง lb16 สมมุติแบบง่ายๆนะครับรวมกันเกิดแรงต้าน lb33.55
ถ้าเราคิดแบบสมมุติง่ายๆแบบนี้จะพบว่าแรงต้านของสปริงสูงสุดตามลำดับคือ 1,3และ2
ดังนั้นผมเข้าใจว่าแรงต้านของสปริงจะมากที่สุดคือ 1, 3 และ 2 ตามลำดับครับ ดังนั้นน่าจะบอกว่าการเตะของปืนก็จะเรียงตามนั้น...อ๊ะ..อ๊ะ ยังครับนั่นไม่ใช่บทสรุปครับเพราะเรายังไม่ได้พูดถึงเวลาสไลด์ปิดซึ่งก็นับเป็นส่วนหนึ่งของแรงที่กระทำหรือเรียกรวมในรีคอยล์ด้วย
อย่างที่บอกคือเวลาสไลด์ปิดนั้นเกิดจากแรงของรีคอยล์สปริงอย่างเดียว ดังนั้นถ้าตามข้างบนผมจะบอกว่า 1 และ 3 จะมีแรงดีด(ถีบ)ของสปริงสูงกว่าข้อ 2 ครับ
เดี๋ยวค่อยมาตอบต่อครับ มีธุระเล็กน้อยครับ
ทีนี้แรงถีบกลับของรีคอยล์สปริงทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
แรงถีบกลับเวลาสไลด์ปิดจะทำให้กระสุนนัดต่อไปตกลงต่ำกว่านัดแรกครับ ดังนั้นการกริปปืนก็ต้องดีขึ้น จังหวะการยิงก็ต้องดีขึ้นเช่นกัน
อ้าวถ้างั้นใช้รีคอยล์สปริงต่ำๆไม่ดีหรือเช่น lb8-10 ปัญหาคือการป้อนลูกจะมีปัญหาหรือไม่ สไลด์ชนกับโครงปืนแรงขึ้นด้วย
ดังนั้นปืนแต่ละกระบอกเจ้าของปืนต้องรู้ครับว่าจะไว้ทำอะไรแล้วจึงใส่สิ่งที่ต้องการเข้าไป
ทีนี้มาตอบคำถามนะครับ
ปืนเพื่อการใช้งานนั้นสิ่งที่ต้องการสูงสุดคือ ความไว้วางใจได้ ปืนต้องไม่ขัดและต้องยิงได้แบบแน่นอน ไม่จำเป็นต้องเป็นปืนที่ฟิตแน่นจนฝุ่นผงเข้าแล้วสไลด์ติดขัด ดังนั้นปืนใช้งานโดยทั่วไปจึงได้ทำหลวมกว่าปืนแข่งขัน กลุ่มก็แน่นน้อยกว่าครับเพราะไม่จำเป็นต้องร้อยรูครับ
แบบที่ 1...ใส่รีคอยล์สปริงหนักและเมนสปริงแรง....จริงๆแล้วผมอาจจะเขียนขัดกับคนถามก็ได้นะครับ
สิ่งที่ได้จากสปริงชุดนี้ ได้ความแน่นอนในการป้อนกระสุนกว่าแบบ 2
ได้ความแน่นอนว่านกสับๆแล้วกระสุนจะลั่นได้(ถ้ากระสุนดีแต่แก๊ปแข็ง) ดีกว่าแบบ 2 และ 3
ปืนเตะมากกว่าและสไลด์จะปิดแรงกว่าต้องกริปปืนแน่นขึ้นเพื่อบังคับนัดที่ 2 ไม่ให้ลงต่ำ
แบบที่ 2....รีคอยล์เตะเบาลงกว่าแบบที่ 1 สไลด์ป้อนลูกมั่นใจน้อยกว่าแบบที่ 1
นกสับถ้าเจอกกระสุนแก๊ปแข็งการสับอาจจะไม่แตกทุกนัด ไว้วางใจได้น้อยกว่าแบบ 1
การคุมปืนง่ายกว่าแบบที่ 1
แบบที่ 3.....รีคอยล์อยู่กลางระหว่าง 1 กับ 2 การปิดสไลด์เหมือนแบบที่ 1 กริปปืนเหมือนแบบที่ 1
นกสับเหมือนแบบที่ 2
ดังนั้นทั้ง 3 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันครับ
ส่วนสปริงขนาด lb14-17.5 คิดว่าไม่ทำให้เกิดผลเสียกับปืนตามอายุที่ควรจะเป็นครับ
ปืนแข่งผมยิงลูกจริงยังใช้สปริงแค่ lb12 ยิงมานานแล้วยังไม่มีปัญหาอะไรกับปืนเลยครับ แต่ปัญหากลับมาอยู่ที่เงินในกระเป๋ามากกว่าครับ
ผมว่าสิ่งที่คุณควรทำคือ ลองเปลี่ยนสปริงหลายๆแบบ(อย่าตัดสปริงนะครับ) แล้วลองยิงดูด้วยกระสุนหลากหลายชนิด สุดท้ายแล้วค่อยเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณ เพราะถ้าคุณใช้แบบปืนผม มันก็รู้สึกดีสำหรับผมแต่อาจจะไม่ดีสำหรับคุณครับ
อย่ากลัวที่จะทดลองครับ เพราะถ้าลองแล้วคุณจะรู้ว่ามันต่างกันมากเลย....จบแค่นี้นะครับ เมื่อลองแล้วได้ผลยังไงก็แวะมาบอกเล่าสู่กันฟังครับ