คงเป็นเวรกรรมชักนำให้ถีบสามล้อ อนาถจริงหนอต้องถีบสามล้อเลี้ยงกาย
เหนื่อยยากสู้ทนยึดเอาถนนเป็นเรือนตาย รับส่งหญิงชายสร้างความสบายให้กับทุกคน
คนโดยสารดีก็เอื้ออารีเห็นใจ ถามว่าจะเอาเท่าไหร่ เมื่อบอกไปไม่เคยบ่น
บางคนบอกห้าแหมต่อมาเหลือทน ท่าเตียนถึงเจริญผล ต่อเสียจนเหลือบาทเดียว
บางคนขึ้นมาบอกว่าให้ด่วนจี๋ แล้วแรงคนสองขาเท่านี้ ให้ปั่นเต็มที่เต็มเกลียว
ถ้าถีบไม่ทันเขาก็เลยพาลฉุนเฉียว เอะอะ บ๊ะให้บาทเดียว ช่างไม่เหลียวมาเวทนา
ค่าเช่าก็แพง ไอ้ยางก็แห้งบ่อยๆ โซ่หลุดวันหนึ่งครึ่งร้อย เงินก็น้อยได้มา
กลับบ้านเกือบค่ำเล่นต้มยำหัวปลา หัวเดียวเค็มเปรี้ยวอย่างว่าเมียลูกสิบห้ามาล้อมวงกิน
ตกตอนกลางคืนคนอื่นเขาหลับนอน ผมต้องสัญจรเที่ยวเร่ร่อนหากิน
กิ๊งกร่องกิ๊งกร่อง กระดิ่งลั่นก้องได้ยิน ตามตรอกตามซอกทุกถิ่นผมหากินอยู่ทั่วไป
คอยรับหนุ่มสาวที่เขากลับจากดูหนัง เมื่อถีบไปหูไพล่คอยฟัง เขาคุยเรื่องหนังเสียงดังแปลกไป
จู๊บฟอดจู๊บฟอด เอ๊ะหนังมันหยอดอะไร เหลียวไปต๊ายตาย แหมต๊กกะใจคนกัดกัน ....ฯ
บทเพลง สามล้อแค้น (เพลงต้องห้ามในทศวรรษที่ ๒๔๙๐)
คำร้อง ทำนอง ขับร้อง เสน่ห์ โกมารชุน
ขออนุญาตท่านเจ้าของบทเพลงบทนี้ด้วยครับ กราบขอบพระคุณมากนะครับ
