เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 28, 2025, 02:24:13 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 ... 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมต้อง ..เรียบร้อยโรงเรียนจีน  (อ่าน 12710 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2009, 07:18:00 PM »




อาจารย์ล้อม  เพ็งแก้ว   เขียนถึงที่มาของสำนวนนี้ไว้ในหนังสือ “หน้ากระดานเรียง (๑)”  พิมพ์โดยโครงการจัดพิมพ์คบไฟ  ไว้ดังนี้

          “เรียบร้อยโรงเรียนจีน” นั้น เป็นสำนวนที่มีอายุประมาณเสี้ยวศตวรรษ  คือเกิดขึ้นในสมัยที่มี กองโรงเรียนราษฎร์  อันเป็นส่วนราชการในกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ  ส่วน ราชการนี้มีหน้าที่ดูแลและควบคุมสถานศึกษาทั้งปวงที่เป็นของเอกชน บัดนี้ได้ขยายขึ้นเป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน  มีฐานะเท่ากรม  มีเลขาธิการเป็นผู้บังคับบัญชา

          เหตุที่เกิดสำนวนนี้ขึ้น ก็เพราะกองโรงเรียนราษฎร์มีเจ้าหน้าที่ตรวจโรงเรียน  ดูแลเกี่ยวกับการเรียนการสอน  อาคารสถานที่ รวมไปถึงการจัดสวัสดิการให้แก่ครูและนักเรียนให้เป็นไปตามระเบียบและหลัก เกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด  ผลการตรวจโรงเรียนที่เจ้าหน้าที่ของกองโรงเรียนราษฎร์รายงานนั้นเป็นเอกสาร ข้อมูลที่มีผลต่อโรงเรียนราษฎร์เป็นอย่างยิ่ง คืออาจได้งบประมาณช่วยเหลือเพิ่ม หรือ ลด หรือ งด  ไปเลยก็ได้บางทีก็อาจถึงสั่งปิดโรงเรียนเอาเลยทีเดียว  เจ้าหน้าที่ตรวจโรงเรียนจึงเป็นที่เกรงอกเกรงใจ และเจ้าของโรงเรียนจำเป็นต้องเอาใจใส่  ต้อนรับขับสู้เป็นพิเศษทุกครั้งที่มีการไปตรวจโรงเรียน

          แน่นอน  เจ้าของโรงเรียนที่เป็นคนจีนย่อมถนัดในเรื่องเช่นนี้ยิ่งกว่าเจ้าของที่เป็น คนไทย  และเป็นที่รู้จักในบรรดาเจ้าหน้าที่ว่า  ใครได้ไปตรวจโรงเรียนจีน  คนนั้นย่อมเป็นคนของหัวหน้ากอง หรือไม่ก็เป็นที่ชอบพอเป็นพิเศษของผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไป  ผลการตรวจก็จะต้องออกมาว่าเรียบร้อยทุกครั้งไป

          สำนวน  “เรียบร้อยโรงเรียนจีน”  จึงเกิดขึ้นแรก ๆ  ก็ใช้กันเฉพาะในกองโรงเรียนราษฎร์  แต่ต่อมาก็ได้ขยายวงออกไปเรื่อย ๆ  ผู้ที่ใช้รู้ที่มาบ้าง  ไม่รู้บ้าง จึงเป็นเหตุให้สำนวนนี้แตกลูกออกไปต่าง ๆ     ในหนังสือ  “หน้ากระดานเรียง (๑)”  ยังมีเกร็ดคำไทยสำนวนไทย  ที่น่าสนใจอีกมาก  “ซองคำถาม” ขอแนะนำให้ซื้อหามาอ่านกัน

“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”
 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2009, 07:19:45 PM โดย สมิงดำ » บันทึกการเข้า
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2009, 07:18:42 PM »

ที่สงสัยอีก คือ ทำไมต้อง บอกกันว่า ผิดพลาดทางเทคนิค .
อีกอย่าง ตำรวจจับคนร้ายได้  นสพ. มักลงข่าว ว่า จับได้โดยละม่อม . ทำไมเหรอ  Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2009, 07:40:35 PM โดย สมิงดำ » บันทึกการเข้า
krajong
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2875



« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2009, 07:59:46 PM »

ที่สงสัยอีก คือ ทำไมต้อง บอกกันว่า ผิดพลาดทางเทคนิค .
อีกอย่าง ตำรวจจับคนร้ายได้  นสพ. มักลงข่าว ว่า จับได้โดยละม่อม . ทำไมเหรอ  Grin

E ละม่อมเนี่ย มันชอบไปยุ่งกับตำรวจประจำเลย วันหน้าไม่ต้องมีตำรวจแล้ว จ้าง E ละม่อมเนี่ย ก็พอครับ
บันทึกการเข้า

ความจริงไม่มีวันตาย แต่คนพูดความจริงตายไปหลายแล้ว
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2009, 08:01:59 PM »

ที่สงสัยอีก คือ ทำไมต้อง บอกกันว่า ผิดพลาดทางเทคนิค .
อีกอย่าง ตำรวจจับคนร้ายได้  นสพ. มักลงข่าว ว่า จับได้โดยละม่อม . ทำไมเหรอ  Grin

E ละม่อมเนี่ย มันชอบไปยุ่งกับตำรวจประจำเลย วันหน้าไม่ต้องมีตำรวจแล้ว จ้าง E ละม่อมเนี่ย ก็พอครับ

 Grin   Cheesy Grin
บันทึกการเข้า
จินตา <Jinta>
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 89
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2373


« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2009, 09:00:37 PM »

ขอบคุณครับ Grin Grin Grin สำนวนที่เคยได้ยิน แต่ไม่รู้ที่มา...

ว่าแต่ละม่อมหละครับ... มาจากไหน... Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2009, 09:47:17 PM »

ความจริงต้องว่า"จับได้โดยละมุนกับละม่อม"
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
ป้อมทอง พรานชุมไพร
ดับบาป ด้วยบุญปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 780
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6885


นรชาติวางวาย สถิตย์ไว้ แต่ความดีประดับไว้โลกา


« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2009, 11:35:27 PM »

ความจริงต้องว่า"จับได้โดยละมุนกับละม่อม"

อ้าว   เลี้ยงละม่อมแล้ว   ต้องมาเลี้ยงละมุนอีก
บันทึกการเข้า

รักกันไว้เถอะ  เราเกิดร่วมแดนไทย   จะเกิดภาคไหนๆ    ก็ไทยด้วยกัน      
เชื้อสายประเพณีไม่มีขีดคั่น        เกิดเป็นไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย
engagement_รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 121
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1211


"เกิดมาในดินแดน_จักต้องแทนคุณแผ่นดิน"


« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2009, 12:27:58 AM »

ตกลงละม่อมนี่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานใช่มั๊ยครับ หรือเป็นร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา คิก คิก  Grin

แต่ผู้ร้ายส่วนมากจะหนีไปตามระเบียบ  เยาะเย้ย  คิก คิก

คริ คริ
บันทึกการเข้า

.....ประชาธิปไตยจะประสบผลสำเร็จได้ จะต้องประกอบไปด้วยปัจจัยเหล่านี้อยู่ในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51%ขึ้นไป คือ 1.ความรู้หนังสือ 2.ความตื่นตัวทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และที่สำคัญที่สุดคือ 3.ศีลธรรม มิฉะนั้นแล้วประชาธิปไตยจะเป็นเพียงเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชนเท่านั้น จาก Prabhat Ranjan Sarka.....
คมขวาน รักในหลวง
"จากดินแดนที่ราบสูงแห่งใบขวาน ข้ามแม่น้ำ ข้ามทะเล(ถ้านั่งเครื่อง) ข้ามภูเขา สู่ดินแดนแห่งด้ามขวาน "
Hero Member
*****

คะแนน 1830
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19896


ดนตรี คืออาภรณ์ของปราชญ์


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2009, 12:58:05 PM »

        ขอบคุณครับ
ได้ความรู้อีกแล้ว
อาจารย์ท่านเป็นคน พัตตะลุง
แต่ไปอยู่เมืองเพชร  จนคนนึกว่าเป็นคนเมืองเพชร
บันทึกการเข้า

คลิ๊ก ทริปจักรยาน   "บินเดี่ยว ทางไกล ตามใจฝัน"     ลูกอิสาน พลัดถิ่น  จากแดนดิน  "ไหปลาแดก"  เร่ร่อน รอนแรม เดินทางดั้นด้น  มาสู่  "โคนต้นสะตอ"
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2009, 03:17:49 PM »

ละม่อม มาจากภาษาเขมร ลมม (อ่านว่า ละ-มอม)
แปลว่า สมควร, ครบครัน, ไม่ขาดไม่เกิน, ไม่มากไม่น้อย



ละม่อม เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง สุภาพ, อ่อนโยน,
(ใช้แก่กิริยาอาการที่เรียบร้อย งดงาม ไม่ขัดเขิน ไม่กระด้าง),
มักใช้เข้าคู่กับคํา ละมุน เป็น ละมุน

ละม่อม หมายความว่า อ่อนโยน นิ่มนวล;
โดยไม่มีการขัดขืน (ใช้แก่การจับกุม) เช่น ตำรวจจับผู้ร้ายได้โดยละม่อม


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 06, 2009, 03:24:55 PM โดย แมลงวันหัวเขียวตัวน้อย ๆ ลอยตุ๊บป่อง ๆ ในหม้อแกงเขียวหวานไก่ » บันทึกการเข้า
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2009, 03:27:55 PM »

แล้ว ปีมะโว้.ละครับ มีที่มายังไง  จูบบบบ Grin Grin
บันทึกการเข้า
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2009, 03:30:36 PM »

กาญจนาคพันธุ์ ให้คำอธิบายไว้ในหนังสือ “สำนวนไทย” 

ปีมะโว้ เป็นสำนวนหมายความว่า เป็นเวลานานนักหนามาแล้ว
คำ “มะโว้” มุ่งถึงเมืองละโว้ คือเมืองลพบุรี  ซึ่งเป็นเมืองโบราณเก่าแก่

ปีของไทยมีคำ “มะ” นำหน้าอยู่ 4 ปี คือ  มะโรง  มะเส็ง  มะเมีย  มะแม 
เมื่อต้องการจะพูดว่า  นานนักหนาหลายปีมาแล้ว  ตั้งแต่สมัยเมืองละโว้ 

จึงเอาคำ  “มะ” มาใช้แทน  “ละ” พูดเป็น “ปีมะโว้


“ครั้งพระเจ้าเหา” เป็นสำนวนดึกดำบรรพ์
กล่าวท้าวความกันว่า  มีมาเนิ่นนาน

พระเจ้าเหากล่าวกันว่าเป็นปฐมกษัตริย์ของจีน
ซึ่งจีนอ้างว่า เริ่มมีกษัตริย์เมื่อ 2410 ปี ก่อนพุทธศักราช  หรือเมื่อ 4954 ปีมาแล้ว
ปฐมบรมกษัตริย์จีนนั้นทรงพระนามว่า ไตเฮา
แต่คนไทยเรียกสั้น ๆ แต่เพียงว่า พระเจ้าเหา

เวลาจะพูดถึงเรื่องอะไรที่มันผ่านมาเนิ่นนานหรือหาหลักฐานกาลเวลาไม่ได้
ก็ยกเอาพระเจ้าไตเฮามาตั้ง

พูดปัดเรื่องไปว่า “มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหา”
อีกสำนวนหนึ่งก็นิยมพูดว่า “มีมาแต่ปีมะโว้” บ้าง



หวังว่า  คงไม่มีคำอื่นอีกนะครับ  ท่านสมิงดำ  คริ คริ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 06, 2009, 03:33:31 PM โดย แมลงวันหัวเขียวตัวน้อย ๆ ลอยตุ๊บป่อง ๆ ในหม้อแกงเขียวหวานไก่ » บันทึกการเข้า
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2009, 03:33:59 PM »

กาญจนาคพันธุ์ ให้คำอธิบายไว้ในหนังสือ “สำนวนไทย” 

ปีมะโว้ เป็นสำนวนหมายความว่า เป็นเวลานานนักหนามาแล้ว
คำ “มะโว้” มุ่งถึงเมืองละโว้ คือเมืองลพบุรี  ซึ่งเป็นเมืองโบราณเก่าแก่

ปีของไทยมีคำ “มะ” นำหน้าอยู่ 4 ปี คือ  มะโรง  มะเส็ง  มะเมีย  มะแม 
เมื่อต้องการจะพูดว่า  นานนักหนาหลายปีมาแล้ว  ตั้งแต่สมัยเมืองละโว้ 

จึงเอาคำ  “มะ” มาใช้แทน  “ละ” พูดเป็น “ปีมะโว้


“ครั้งพระเจ้าเหา” เป็นสำนวนดึกดำบรรพ์
กล่าวท้าวความกันว่า  มีมาเนิ่นนาน

พระเจ้าเหากล่าวกันว่าเป็นปฐมกษัตริย์ของจีน
ซึ่งจีนอ้างว่า เริ่มมีกษัตริย์เมื่อ 2410 ปี ก่อนพุทธศักราช  หรือเมื่อ 4954 ปีมาแล้ว
ปฐมบรมกษัตริย์จีนนั้นทรงพระนามว่า ไตเฮา
แต่คนไทยเรียกสั้น ๆ แต่เพียงว่า พระเจ้าเหา

เวลาจะพูดถึงเรื่องอะไรที่มันผ่านมาเนิ่นนานหรือหาหลักฐานกาลเวลาไม่ได้
ก็ยกเอาพระเจ้าไตเฮามาตั้ง

พูดปัดเรื่องไปว่า “มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหา”
อีกสำนวนหนึ่งก็นิยมพูดว่า “มีมาแต่ปีมะโว้” บ้าง



หวังว่า  คงไม่มีคำอื่นอีกนะครับ  ท่านสมิงดำ  คริ คริ

แหม ขอบคุณครับ  ไหว้  มีอีกหลายคำครับแต่เดี๋ยวคงจะตามมา ครับ  Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2009, 03:35:20 PM »

ส่วน "กาญจนาคพันธุ์" นั้น  
เป็นนามปากกาหนึ่ง ของ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)

ผู้สืบค้นและค้นคว้า เรื่อง "สำนวนไทย" ครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2009, 03:37:58 PM »

              ถามไรตอบได้ .... ได้

              ถามไรรู้หมด .......  รู้

              ..................  แมงวันหัวเขียวตัวน่อยๆ   ...............   คิก คิก คิก คิก

บันทึกการเข้า

                
หน้า: [1] 2 3 4 ... 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.077 วินาที กับ 21 คำสั่ง