ภาวะเช่นนั้น หากไม่มีข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นว่า ผู้ขับรถยนต์ที่ขับขี่ไล่คนร้าย เจตนาขับรถเพื่อชนโดยประสงค์ต่อร่างกายหรือชีวิต แต่เพียงเพื่อติดตามคนร้าย
แต่เกิดการเฉี่ยวชนจนคนร้ายได้รับอันตรายแก่กาย หรือขีวิตแล้ว
ตามกฏหมายพนักงานสอบสวนคงต้องตั้งข้อหาฐานประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเบื้องต้นก่อนครับ
ในชั้นพิจารณา ยกเหตุที่ได้กระทำลงเพราะเกิดจากติดตามไล่คนร้ายที่ทุบกระจกรถยนต์ของตน
เป็นเหตุสมควรรอการลงโทษ โดยไม่ต้องบรรเทาความเสียหายใดๆให้แก่ผู้บาดเจ็บหรือผู้ตาย
เพราะผู้ได้รับบาดเจ็บและคนร้ายที่ตายมิใช่ผู้เสียหายในคดีอาญาที่จะร้องทุกข์กับเราได้ตามกฏหมาย
จึงสงผลไปยังความรับผิดส่วนแ่พ่ง ที่ผู้บาดเจ็บหรือญาติคนตาย ไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนได้ตามกฎหมายจากผู้ขับขี่รถยนต์ได้
ถึงญาติผู้ตาย หรือผู้บาดเจ็บมาเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการเรียกค่าเสียหาย หรือนำคดีในส่วนแพ่งมาฟ้อง
เราต่อสู้ยื่นคำให้การแสดงเหตุว่าผู้ตายก่อเหตุทุบกระจกเพื่อชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ และแสดงหลักฐาน (สบายมาก เพราะได้รับความร่วมมือจากพนักงานสอบสวนที่จะให้สำนวนในคดีชิงทรัพย์แก่เรานำมาประกอบการต่อสู้อยู่แล้ว )หากได้ความดังกล่าว ศาลคต้องยกฟ้องและจำหน่ายคดีไป

เพราะคนตายและคนบาดเจ็บ เป็นผู้ก่อให้เกิดเหตุละเมิด จึงไม่มีเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาและคดีแพ่ง ที่จะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนใดๆได้ครับ

แต่ยังไง คดีที่พนักงานสอบสวน สอบสวนกรณีเราขับรถไปเฉี่ยวชนก็ว่ากันไป แต่เราต้องขอให้พนักงานสอบสวน สอบสวนคดีที่ผู้บาดเจ็บและผู้ตาย ทุบกระจกเราคู่กันไปในฐานะเราเป็นผู้เสียหายในคดีชิงทรัพย์ไปด้วยนะครับ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการสู้คดีประมาทของเรา
