http://news.bluegy.com/14896-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AD-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94-%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81-%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-/ ญาติคุณหญิงแจ่มใส เมียบรรหาร ขณะนั่งกินสุกี้ ถูกลวกตัวพองทั้งครอบครัว ด้าน ด.ต.แทนที่จะห้ามกลับช่วยลูกชายรุมทำร้ายซ้ำ...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ส.ค.) นางสมพร อุดมภักดีพงศ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 736 ม.2 ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เจ้าของร้านขายยากิตติพงศ์ฟามาซี พร้อมด้วยครอบครัวประกอบด้วย นายพัฒนนินท์ อุดมภักดีพงศ์ อายุ 32 ปี บุตรชาย น.ส.ณัฐโสภิต อุดมภักดีพงศ์ อายุ 32 ปี น.ส.สุวัตถิพร อุดมภักดีพงศ์ อายุ 29 ปี ลูกสะไภ้ ด.ญ.พิมพาภรณ์ อุดมภักดีพงศ์ หลานสาว อายุ 1 ขวบ 10 เดือน และ ด.ช.พีระวิทย์ อุดมภักดีพงศ์ หลานชายอายุ 5 เดือน เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวเพราะเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอำเภอสามชุก พร้อมลูกชายทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
นายพัฒนินท์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค. เวลา 19.30 น.ได้พาครอบครัว และมารดาไปนั่งประทานอาหารที่ร้านสุกี้แห่งหนึ่ง ในอำเภอสามชุก ระหว่างที่นั่งอยู่นั้น ด.ช.พีระวิทย์ หรือน้องพิช บุตรชายคนเล็กได้ส่งเสียงร้องตามประสาเด็ก ขณะนั้นมีลูกค้าที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ทราบชื่อภายหลัง คือ ด.ต.ทวี เขียวไสว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามชุก ที่นั่งอยู่กับนายพงศกร สุกรเสพย์ ลูกเลี้ยงของ ด.ต.ทวี กับพวกรวม 5 คน เป็นหญิง 2 คน ชาย 3 คน ตะโกนด่าลอยๆ ผ่านโต๊ะมาตลอดเวลาว่ารำคาญเสียงเด็กร้อง จึงได้เดินเข้าไปขอโทษพร้อมกับเดินออกไป เพื่อไปเอารถเข็นมาเพื่อพาลูกชายหญิงทั้ง 2 คนออกไปรอด้านนอกร้าน
บุตรชายของผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ระหว่างที่เดินไปเอารถเข็นนั้นไม่ทันระวังตัว จึงถูกนายพงศกรเดินปรี่เข้ามาชกที่ใบหน้าจนล้มลง จากนั้น ด.ต.ทวีพร้อมกับพวกอีก 1 คน ได้เดินเข้ามาจับมือไพ่หลังให้นายพงศกรชกหลายครั้ง จน น.ส.ณัฐโสภิต ภรรยาของตนได้เข้ามาห้ามปราม แต่ก็ถูกนายพงศกรชกกลับไปที่ใบหน้า 1 ครั้ง จนเกิดเสียหลักล้มลง ทำให้เหตุการณ์ชุลมุนพักใหญ่ โดยนายพงศกรอาศัยจังหวะที่คู่กรณีเผลอเข้าไปหยิบหม้อสุกี้ยังที่ร้อนอยู่บนโต๊ะ แล้วเดินตรงเข้ามาสาดใส่กลุ่มของนายพัฒนนินท์เป็นเหตุทำให้ถูก ด.ญ.พิมพาภรณ์ ถูกน้ำสุกี้ลวกที่ลำตัวทั้งด้านหน้าด้านหลัง ลำคอและขา นอกจากนี้ภรรยายังถูกลูกหลงจากการเข้าไปกันไม่ให้น้ำสุกี้โดนลูกชาย จึงโดนลวกเข้าที่แขนซ้าย
นายพัฒนินท์กล่าวต่อว่า ขณะที่ นางสมพร มารดา ได้รับลูกหลงจากการทะเลาวิวาทเช่นกัน โดยน้ำสุกี้ลวกที่ต้นแขนด้านซ้าย และถูกหม้อสุกี้กระแทกที่บริเวณเหนือคิ้วซ้าย จนช้ำบวมปูด ส่วนตัวเองถูกชกที่ใบหน้าจนดวงตาเขียวช้ำเช่นกัน หลังจากที่ลูกภรรยาและมารดาถูกน้ำสุกี้ลวก ทุกคนต่างร้องด้วยความเจ็บปวด แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วย แต่ ด.ต.ทวีและยังมีอาการเมินเฉย ไม่สนใจว่าพวกตนถูกน้ำสุกี้ลวก จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 10 นาที ตัวเองจึงได้พาส่งผู้บาดเจ็บทุกคนส่ง รพ.สามชุก
ด้าน น.ส.สุวัตถิพร อาของ ด.ช.พีระวิทย์ กล่าวว่าช่วงที่โต๊ะของ ด.ต.ทวีพูดจาไม่ดี ว่ารำคาญเด็กร้องเสียงดังรำคาญ ตัวเองยังบอกว่าอะไรกันหนักหนาแค่เด็กร้องขอโทษด้วย แต่ก็ยังถูกตะโกนด่าเป็นระยะ จนกระทั่งมีเรื่องมีราวกันดังกล่าว แต่ที่ไม่เข้าใจ คือ ช่วงที่ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน โดยต้องการแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะได้รับบาดเจ็บเด็กถูกน้ำร้อนสาดได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล และมีบาดแผลชัดเจน แต่พนักงานสอบสวนไม่ยอมรับแจ้งความ กลับแจ้งข้อหาทะเลาะวิวาททั้งสองฝ่ายและจะปรับคนละ 500 บาท
อาของ ด.ช.พีระวิทย์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากทางครอบครัว ยืนกรานไม่ยอม พนักงานสอบสวน จึงให้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายแก่ ด.ต.ทวีและบุตร แต่ที่ต้องสงสัยมากไปกว่านั้น ฝ่าย ด.ต.ทวี กลับแจ้งกลับพวกตนว่าถูกทำร้ายร่างกายเช่นกัน เรื่องนี้ต้องขอความเป็นธรรมด้วยเพราะครอบครัวพวกตนเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่เป็นคนกระทำ
ส่วน นายสุทัศน์ เวทยานนท์ อายุ 35 ปี พลเมืองดีที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุนั่งรับประทานอยู่โต๊ะข้างๆ ได้ยินเสียงเด็กร้องตามปกติ แล้วมีเสียงจากโต๊ะของ ด.ต.ทวี ตะโกนด่าว่าทนไม่ไหวแล้วโว้ย หมดความอดทนแล้วโว้ย จากนั้นก็เห็นนายพงศ์กรและ ด.ต.ทวี เดินเข้าไปรุมทำร้ายนายพัฒนินท์ ตนจึงเข้าไปห้ามแต่ก็ยังชุลมุนจนตนโดนลูกหลงถูกชกเข้าที่ตาขวา
พลเมืองดีผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นนายพงศกร ได้ยกหม้อสุกี้ทั้งหม้อโยนไปที่กลุ่มของนายพัฒนินท์ ที่ยังมี ด.ญ.พิมพาภรณ์ นั่งอยู่ในรถเข็นเด็กที่โต๊ะ จนน้ำสุกี้กระเซ็นไปโดนอีกหลายคน ซ้ำร้ายช่วงที่ทุกคนโดนน้ำสุกี้จากฝีมือของ นายพงศกร ด.ต.ทวี ยังทำไม่รู้ไม่ชี้แทนที่จะรีบแจ้งเจ้าหน้าตำรวจ หรือ ช่วยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลแต่คนเจ็บต้องช่วยตัวเองไปโรงพยาบาล ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ ด.ต.ทวี และลูกชายทำไม่ถูก แค่เด็กร้องไห้ ไม่น่าจะโมโหกันถึงขนาดนี้
ขณะที่ พ.ต.ท.วัฒนา แก้วเจริญ สารวัตรเวร สภ.สามชุก กล่าวว่า จากสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มของนายพัฒนินท์ นั่งรับประทานสุกี้อยู่ใกล้กับโต๊ะของนายพงศ์กร ระหว่างนั้นนายพงศกรได้ทะเลาะกับแฟนสาวจึงตะโกนเสียงดังเอะอะโวยวาย ทำให้นายพัฒนินท์ เข้าใจว่านายพงศกรไม่พอใจที่ลูกนายพัฒนินท์ร้องเสียงดัง จึงมีการต่อว่าและชกต่อยกันขึ้น อย่างไรก็ตามทางนายพัฒนินท์ได้แจ้งหาหาทำร้ายร่างกายกับ ด.ต.ทวี และ นายพงศกร ส่วนนายพงศกร ก็ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับนายพันนินท์เช่นกัน
สารวัตรเวร สภ.สามชุก กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้สรุปว่า เรื่องดังกล่าวนี้ ใครเป็นฝ่ายผิด หรือ ใครเป็นฝ่ายถูก เพราะต้องรอสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้ครบก่อน รวมทั้งต้องดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านสุกี้ เพื่อมาประกอบการสอบสวนด้วย ส่วนกรณีของ ด.ญ.พิมภาภรณ์ ที่ถูกนายพงศกร โยนหม้อสุกี้ใส่นั้นได้แจ้งข้อหาต่างหากแล้วว่า ทำร้ายร่างกาย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางสมพร อุมดมภักดีพงศ์ แม่ของนายพัฒนินท์ ที่อยู่ในเหตุการณ์และโดนน้ำสุกี้ลวก เป็นน้องสาวนายสุพล จันทร์สว่าง ซึ่งเป็นหลานเขยของคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ภรรยานายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยอีกด้วย
ที่มา ไทยรัฐ