
นิทานเรื่อง ชาวนากับงู และหมาจิ้งจอก แปลจากเรื่อง The peasant, the snake and the fox แปลโดย คุณ.ประสาท มีแต้ม
โปรดใช้ดุลยพินิจนะครับว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีควรจะมีผู้ปกครองช่วยแนะนำ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ขณะที่ชาวนาคนหนึ่งกำลังเดินทางกลับบ้าน เขาได้ยินเสียงร้องอย่างอ่อนเพลียว่า
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย!" ชาวนาหันไปมองรอบตัวแล้วค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาต้นเสียงดังกล่าวทีละก้าวสองก้าวจึงรู้ว่า เสียงนั้นมาจากใต้หินก้อนโตก้อนหนึ่งนั่นเอง
"ใครเรียก...ฮะ?" ชาวนาตะโกนถาม มีเสียงตอบออกมาว่า
"ฉัน เอง หินก้อนนี้มันกลิ้งลงมาจากภูเขาแล้วมาทับจนปิดรู ฉันติดอยู่ข้างใน ออกไปไม่ได้ ฉันกำลังจะตายอยู่แล้ว โปรด ช่วยฉันด้วย ช่วยผลักก้อนหินนี้ออกไปหน่อยนะ"
"แล้วคุณเป็นใครล่ะ?" ชาวนาถามกลับไป
"ฉันเป็นงูผู้น่าสงสาร" เสียงตอบ
"งูเหรอ? แต่ถ้าฉันช่วยแกแล้ว แกก็จะออกมากัดฉันน่ะซิ"
"ไม่ ไม่ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน โปรดช่วยฉันออกไปทีเถอะนะ!"
ในที่สุดชาวนาจึงตัดสินใจผลักก้อนหินก้อนนั้นออกไปจากรูที่ถูกปิดทับตามคำ ร้องขอ จากนั้นงูก็เลื้อยออกมาจากรูแล้วก็โผตรง เข้าไปหาตัวชาวนาเพื่อที่จะกัด ชาวนาตกใจกระโดดถอยหลังหนีแล้วร้องเสียงดังว่า
"ทำไมแกทำอย่างนี้ล่ะ?"
"เพราะ ว่าการกระทำในสิ่งที่ดีทุกครั้งจะได้รับสิ่งที่เลวร้ายเป็นการตอบแทนเสมอ คุณไม่รู้ดอกเหรอ?" งูตอบ
"ไม่ ฉันไม่เคยรู้ และฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้น" ชาวนาพูด
"ดีมาก" งูพูด "เรา ลองไปถามพวกอื่นดูซิ เมื่อเราพบใคร ถ้าใครเชื่อเหมือนคุณ เรื่องก็จบ ฉันจะไม่กัดคุณ แต่ถ้าพวก อื่นเชื่อเหมือนฉัน แล้วฉันจะกัดคุณ ตกลงไหม?"
"ตกลง" ชาวนาตอบ จากนั้นทั้งสองก็พากันไปด้วยกัน ครู่ต่อมา ชาวนาและงูได้พบกับม้าพิการขี้เรื้อนผอมโซ ตามตัวมีรอยถลอกปอกเปิกตัวหนึ่ง ชาวนาก็โยนคำถามกับม้าตัวนั้นทันทีว่า
"ฟังนะเพื่อน ถ้าใครได้กระทำในสิ่งที่ดีแล้ว อะไรที่เขาจะได้รับเป็นรางวัล?" โดยไม่มีการลังเลใด ๆ ม้าขี้เรื้อนก็ตอบว่า
"จะ ได้รับการกระทำที่เลวร้ายเป็นรางวัล ดูตัวฉันเองซิ ฉันได้รับใช้เจ้านายด้วยความซื่อสัตย์มานานปี แต่เมื่อฉันแก่แล้ว เจ้านายก็ปล่อยทิ้งฉันให้ตายไปด้วยความอดอยาก"
"คุณได้ยินแล้วใช่ไหม?" งูหันมาพูดกับชาวนาด้วยน้ำเสียงฟู่ ๆ แล้วกล่าวต่อว่า "ฉันจะกัดคุณเดี๋ยวนี้นะ"
"ช้าก่อน! นี่เป็นเพียงความเห็นเดียวเท่านั้น ไม่พอเพียงที่จะสรุปหรอก! ต้องถามพวกอื่นด้วย" ชาวนาร้องเสียงดัง
"พี่ ชาย ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็เชิญไปถามพวกอื่นได้เลย แต่คอยดูนะ ถ้าความเชื่อของฉันถูกต้อง ฉันจะต้องกัดคุณนะ" ว่าแล้วพวกเขาทั้งคู่ก็จากม้าขี้เรื้อนมุ่งตามเส้นทางข้างหน้าต่อไป ต่อมาทั้งสองก็ได้พบกับแกะตัวหนึ่ง ด้วยคำถามเหมือนเดิม แกะตัวนั้นก็ตอบว่า
"ใคร กระทำสิ่งที่ดีงามจะได้รับผลที่เลวร้ายเสมอ ดูอย่างฉันซิ ฉันทำตามคำสั่งเจ้านายของฉันอย่างสม่ำเสมอและไม่เคยบ่น ฉันเชื่อเขาตลอดเวลา แล้วเขาได้ทำอะไรกับฉัน เขาตัดขนของฉันในฤดูหนาว ฉันก็หนาวเย็นทั้งฤดู เมื่อถึงหน้าร้อนตัวฉันก็ถูกแดดเผาจนแทบจะละลาย"
"พร้อมแล้วยัง ได้เวลาที่ฉันจะกัดคุณแล้วนะพี่ชาย" งูกล่าวขึ้น
แต่ชาวนาก็ร้องขึ้นว่า
"ได้ โปรดเถิด เราได้ผ่านรอบที่หนึ่งและรอบที่สองไปแล้ว เอาละทีนี้มาเล่นกันในรอบตัดสินนะ ถ้าความเชื่อของฉันผิด เป็นครั้งที่สาม ฉันจะอนุญาตให้แกกัดฉันได้เลย"
ในขณะที่กำลังเดินทาง ชาวนาได้เหลือบไปเห็นหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็เกิดความคิดใหม่ขึ้นทันที เขาจึงขอตัวออกนอกเส้นทางและวิ่งเข้าไปในพงป่าเพื่อคุยอะไรบางอย่างกับหมา จิ้งจอกตัวนั้น
"ฟังนะ หมาจิ้งจอก คุณเชื่อว่าการกระทำในสิ่งที่ดีจะได้รับผลร้ายเป็นรางวัลเสมอหรือ?"
"แน่นอน!" หมาจิ้งจอกตอบด้วยความมั่นใจ
ชาวนาจึงบอกกับหมาจิ้งจอกว่า
"ดีแล้ว ฟังนะ เดี๋ยวฉันจะถามเธอด้วยคำถามเดิมนี้แหละต่อหน้างูตัวหนึ่ง ถ้าแกตอบว่า ใครที่ทำดีแล้วจะได้ผลดีเป็นรางวัล แล้วฉันจะมอบลูกหมูและห่านให้เป็นของขวัญ เป็นไง ตกลงไหม?"
"ตกลง ดี" หมาจิ้งจอกตอบ แล้วทั้งสองก็เดินตรงไปหางูตัวเดิม
"ฉันพบหมาจิ้งจอกที่ตรงโน้น" ชาวนาพูด "แกก็รู้นี่ว่าหมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ฉลาด แกจงตั้งใจฟังว่าหมาจิ้งจอกคิดอย่างไร"
ครู่เดียวต่อมา หมาจิ้งจอกก็ได้รับคำถามเดิม แล้วก็ตอบตามที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว
"การกระทำที่ดีย่อมจะได้รับการกระทำที่ดีเป็นการตอบแทนที่ดีเสมอ" หมาจิ้งจอกตอบ แล้วก็ตามด้วยคำถามเชิงสงสัยว่า
"แล้วทำไมนายจึงมาถามคำถามนี้กับฉันล่ะ"
"เพราะว่าฉันได้ช่วยงูตัวนี้ขึ้นมาจากรูงูที่ก้อนหินปิดทับไว้ แล้วเจ้างูตัวนี้ก็ต้องการจะกัดฉัน" ชาวนาตอบ
หมาจิ้งจอกจ้องไปที่งูแล้วก็พูดว่า "ฮือ! ข้าคิดว่างูน่าจะสามารถทำให้ตัวเองเลื้อยอยู่ใต้ก้อนหินใหญ่ ๆ ได้นะ"
"แต่ก้อนหินมันโตมากนะ" งูแย้ง "และก้อนหินมันมาปิดทางเข้าออกของฉัน"
"ข้าไม่เชื่อแกหรอก" หมาจิ้งจอกตอบ
"งั้นทำไมเราไม่มาดูกัน" งูตอบพร้อมกับชี้ไปที่ก้อนหินและที่ปากรู
แต่หมาจิ้งจอกก็ส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า "ตัวใหญ่โตมากขนาดแกไม่สามารถจะลงไปอยู่ในรูเล็กๆอย่างนี้ได้หรอก!"
งูรู้สึกโกรธกริ้วมาก "แกไม่เชื่อฉันเหรอ" ตะโกนพร้อมกับเลื้อยลงไปในรูเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นกันเลย
"เร็ว ๆ ช่วยกันปิดรูเลย พี่ชาย" หมาจิ้งจอกตะโกน แล้วชาวนาก็กลิ้งก้อนหินปิดปากรูเสียอีกครั้ง
"ฮา เจ้าหมาจิ้งจอก" ชาวนาพูดอย่างมีความสุข "แก ได้กระทำในสิ่งที่ดีงามแล้ว แกได้ช่วยกำจัดไอ้เจ้างูตัวร้ายกาจให้ข้า!
ขอบใจหลายๆ นะ"
"โฮ้ ไม่ต้องคิดอะไรหรอก" หมาจิ้งจอกตอบ "แต่อย่าลืมเรื่องลูกหมูกับห่านที่คุณได้ให้สัญญากับฉันก็แล้วกัน"
"ไม่ลืมหรอก ไปที่ไร่ของฉันเย็นนี้ซิ แกจะได้รับทุกอย่างตามสัญญา" ชาวนาตอบ
ในเย็นวันเดียวกันนั้น หมาจิ้งจอกก็ไปที่ไร่ แต่ชาวนาก็ได้เตรียมหมาตัวโตเขี้ยวยาว ๆ ไว้หลายตัวพร้อมปืนกระบอกหนึ่ง
แล้วตะโกนออกไปว่า
"ถ้าแกไม่อยากตาย จงไปให้พ้น ไอ้สัตว์เดียรัจฉานที่น่ารังเกียจ ไป!"
หมาจิ้งจอกจึงวิ่งเหยาะ ๆ ออกไปด้วยความเศร้าและรู้สึกผิดหวัง พร้อม ๆ กับบ่นพึมพำกับตัวเองว่า
"หลายคนบอกว่าฉันเป็นสัตว์เจ้าเล่ห์! ผู้ที่เจ้าเล่ห์ตัวจริงคือชาวนาคนนั้น เหอ! บางทีเจ้างูที่น่าสงสารตัวนั้นน่าจะพูดถูกต้องแล้ว คือทำดีได้ชั่ว"
แล้วหมาจิ้งจอกตัวนั้นก็เดินหางม้วนกลับเข้าไปในราวป่าตามเดิม