
ผมช่วยเอาน้ำมันมาราดกองไฟให้อีก 1 ถัง
บ่ายวันหนึ่งหลายปีมาแล้วประมาณว่าผมยังเรียนมัธยมหรือมหาวิทยาลัยปีแรกๆอยู่เลย จำปีแน่นอนไม่ได้ แต่จำพฤติกรรมได้แม่นยำ
นั่งดูถ่ายทอดกีฬากระโดดน้ำในกีฬาซีเกมส์ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ
เขาถ่ายทอดนักกีฬาไทยก่อนครับ เป็นน้องผู้หญิงยังเป็นเด็กอยู่เลย ตอนนั้นเธอเป็นตัวเก็งว่าจะได้เหรียญทอง
เธอกระโดดได้ดีสวยงามขอรับ
พอถึงตอนนักกีฬามาเลเซียจะกระโดด แม่..มมันโกงกันเป็นขบวนการครับ
ไอ้เจ้าคนคุมกล้องทีวีแทนที่มันจะถ่ายภาพนักกีฬาของมันกระโดดน้ำ มันกลับแพนกล้องไปที่อัฒจันทร์
ถ่ายอัฒจันทร์อยู่นานเป็นนาทีล่ะครับ
ท่านอาจจะสงสัยว่าช่างกล้องมันอาจจะตั้งใจจับภาพอารมณ์ของคนดูเหมือนเราดูกีฬาฟุตบอล หรืออเมริกันฟุตบอล
แต่โอจอร์จ...กีฬากระโดดน้ำมันไม่ค่อยมีคนดู มีแต่อัฒจันทร์ว่างๆมีคนอยู่กระหรอมกระแหรม
ไอ้เจ้าช่างกล้องมันจับภาพอัฒจันทร์เปล่าอยู่นั่นแหละ....จนกระทั่งนักกีฬาของมันกระโดดเสร็จแล้วมันค่อยย้ายมุมกล้องกลับมาที่สปริงบอร์ด...อูยดูแล้วขนลุกครับ
ท่านต้องเดาออกแน่เลยว่า ผลคะแนนคือนักกีฬามาเลเซียได้คะแนนสูงกว่าไทย
โดยไม่มีภาพบันทึกเอาไว้ให้เปรียบเทียบกับภาพการกระโดดของนักกีฬาไทย
โค้ชไทยประท้วงครับ แกโกรธมากพานักกีฬาวอล์คเอาท์ไม่ขึ้นรับเหรียญเงินด้วย
เย็นวันนั้นผมตามข่าว
ผลที่ยิ่งน่าเจ็บใจขึ้นไปอีกคือ ผู้ใหญ่ในโอลิมปิคไทยตำหนิโค้ชกระโดดน้ำท่านนั้น
ตำหนิว่าไม่ควรวอล์คเอาท์เพราะว่าเสียชื่อประเทศ ประมาณว่าไทยไม่ให้เกียรติเจ้าภาพ ไม่รู้จักแพ้รู้จักมีน้ำใจนักกีฬา(ท่านคงเสียหน้ากับพวกกรรมการโอลิมปิคมาเลเซีย) อุแม่เจ้ามันเกี๊ยะเซี๊ยะกันขนาดนี้ ไม่รู้ว่ามาเป็นผู้ใหญ่ในวงการกีฬาได้อย่างไร ถ้าผมอยู่ในทีมกระโดดน้ำคงไหว้คนคนนี้ไม่ลงแน่ หรือถ้าผมเป็นกัปตันการบินไทยเที่ยวที่บินไปรับกลับมาจะไล่ลงจากเครื่องปล่อยให้เดินกลับมาเมืองไทย
ไม่รู้ว่านี่เป็นลักษณะประจำชาติหรือเปล่านะครับ ไม่รู้เขามีปมอะไรนักหนาถึงกล้าทำกันขนาดนี้
เล่นเอาทุกวันนี้เวลาเจอกับคนมาเลเซียในที่ทำงาน
ผมจะเกร็งหน้าท้องเสมอล่ะครับ ไม่เคยไว้ใจเต็มร้อยสักที
กลัวมันลอบแทงข้างหลังอ้ะ
