สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี เป็นพันธุ์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Queen กลุ่มเดียวกับพันธุ์ภูเก็ต สวีหรือตราดสีทอง
โฉมใหม่ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรเตรียมจัดงานเปิดตัวยิ่งใหญ่ ฉลองครบ 36 ปี

แปลกดี นะ!! ....เมื่อสับปะรดกินได้ไม่ต้องปอกเปลือก โดยกรมวิชาการเกษตรวิจัยสับปะรด
"พันธุ์เพชรบุรี" หรือที่รู้จักกันว่า "สับปะรดไต้หวัน" มีลักษณะเด่น บริเวณปลายคอดเล็ก ตาค่อน
ข้างใหญ่และนูนเล็กน้อย ทำให้สามารถแกะผลย่อยออกรับประทานได้ทันทีไม่ต้องปอก รสหวาน
หอมแรง และเนื้อกรอบ กำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
เรื่องนี้ นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 36 ปี กรมวิชาการเกษตรทำการวิจัยและพัฒนาพืชผลทางการเกษตร
อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ศูนย์วิจัยพืชสวนเพชรบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 ได้ให้มี
การพัฒนาพันธุ์สับปะรดกว่า 10 ปี จนกระทั่งได้สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี หรือที่เรียกกันว่า สับปะรดไต้หวัน
ที่รับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องมานั่งปอกเปลือกเหมือนเช่นสับปะรดทั่วไป ซึ่งกำลังได้รับความสนใจ
จากตลาดอย่างมาก


ลักษณะพิเศษของสับปะรดพันธุ์เพชรบุรีดังกล่าว คือสามารถแกะผลย่อย หรือตา (fruitlet)
ออกจากกันได้ง่าย ทำให้สามารถแกะผลย่อยออกมารับประทานได้โดยไม่ต้องปอกเปลือก
อีกทั้งแกนผลยังสามารถรับประทานได้ รสหวานอมเปรี้ยว มีปริมาณกรดต่ำ กลิ่นหอมแรง
เนื้อกรอบ สีเนื้อเหลืองอมส้มสม่ำเสมอ ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ภูเก็ต และสวี 17.7% และ
23.2% ตามลำดับ สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย
สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี เป็นพันธุ์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Queen เช่นเดียวกับพันธุ์ภูเก็ต
สวีหรือตราดสีทอง มีทรงพุ่มปานกลาง ใบค่อนข้างสั้น หนามลักษณะเป็นตะขอม้วนขึ้น
ไปหาปลายใบ มีช่อดอกแบบรวม (Spike) ดอกเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน
กลีบดอกสีน้ำเงินปนม่วง มีลักษณะผลรวม ทรงเจดีย์ คือด้านล่างของผลใหญ่ บริเวณ
ปลายจะคอดเล็ก ตาบริเวณปลายผลติดกับจุกไม่พัฒนา2 - 3 รอบ ผลขนาดปานกลาง
น้ำหนักเฉลี่ย 1.00 กก. ผลกว้างเฉลี่ย 11.9 ซม. ผลยาวเฉลี่ย 19.0 ซม. ตาค่อนข้าง
ใหญ่และนูนเล็กน้อย โดยมีอายุการเก็บเกี่ยวราว 126 วัน มีสีเปลือกผลแก่สีเขียว
ผลสุกสีเหลืองอมส้ม (Yog 17 A-B) สีเหลืองอมส้ม (Yog 16 A-B)
สับปะรดพันธุ์เพชรบุรีเดิมเป็นพันธุ์ของประเทศไต้หวันในชื่อพันธุ์ Tainan 41
ในปี 2530 โดยนายสณทรรศน์ นันทะไชย เป็นผู้นำพันธุ์มาจากบริษัทส่งออกสับปะรด
ในรูปของ สับปะรดพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่ได้มาจากการคัดเลือกสายต้น ( clone ) หรือการ
ผสมพันธุ์ หลังจากได้รับจุกมาแล้วส่วนหนึ่งนำไปเพิ่มปริมาณหน่อโดยการเพาะเลี้ยง
เนื้อเยื่อ
นายสมชาย ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มตลาดสับปะรดว่า สับปะรดเป็นพืชที่
มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเกษตร นอกจากจะนิยมบริโภคสดแล้ว ยังสามารถแปรรูป
เป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น สับปะรดกระป๋อง น้ำสับปะรด สับปะรดแช่แข็ง
สับปะรดกวน สับปะรดอบแห้ง และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋อง
เปลือกใช้เป็นอาหารสัตว์ ใบใช้ทำเส้นใยและกระดาษ ซึ่งแต่ละปีจะทำรายได้ให้เกษตรกร
อย่างมาก
ทางกรมวิชาการเกษตร มุ่งสร้างการรับรู้สับปะรดพันธุ์ใหม่ดังกล่าวผ่านรูปแบบการ
ทำกิจกรรมด้าน ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจัดนิทรรศการผลงานวิชาการของหน่วยงานภายใน
กรมวิชาการเกษตร นิทรรศการของภาคเอกชนและกลุ่มเกษตรกร มีศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจ
พอเพียงตามแนวทฤษฎีใหม่ เทคโนโลยีการผลิต และการแปรรูปสับปะรดครบวงจร รวมถึง
การสาธิตเครื่องจักรกลการเกษตร
ในโอกาสที่กรมวิชาการเกษตรได้รับการสถาปนาครบรอบ 36 ปีเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง
โอกาสนี้ศูนย์วิจัยพืชสวนเพชรบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขต 5 จึงได้จัดงานมหัศจรรย์
พันธุ์สับปะรดเพชรบุรี 36 ปีกรมวิชาการเกษตรในวันที่ 9 มิถุนายน 2552 ณ ศูนย์วิจัยพืชสวน
เพชรบุรีถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อประชา
สัมพันธ์สับปะรดพันธุ์ เพชรบุรี
เวบไซด์อ้างอิง