ภทบ. ๕ เป็นเพียงหลักฐานในการการชำระภาษีบำรุงท้องที่เท่านั้นครับ ไม่ใช่เอกสารสิทธิ แม้ชำระต่อเนื่องกันมา ๒๐ ปี แต่ตัวเองไม่เคยเข้าไปทำประโยชน์ใดๆในที่ดินเลย ก็ไม่ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามกฏหมายที่ดินหรือประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ แถมอาจเสียสิทธิไปโดยไม่รู้ตัว เพราะมีคนอื่นเข้ามาแย่งการครอบครอง และเราไม่ได้ฟ้องขับไล่ ภายใน ๑ ปี นับแต่ถูกแย่ง
มีผู้มีเงินหลายราย ซื้อที่ดินจากชาวบ้านไว้ โดยไม่เข้าไปดูแลแบบซื้อแล้วปล่อยทิ้งไว้ ไม่ไปดูแล
ซึ่งอย่าว่าแต่ ที่ดินที่มีหลักฐาน ภบท. ๕ เลยครับ แม้แต่ซื้อที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก) จดทะเบียนอย่างถูกต้องก็อย่านิ่งนอนใจ
ปรากฏว่าซื้อทิ้งไว้ไม่เคยดูแล ๓ ปีบ้าง ๔ ปีบ้าง เลยคิดเข้าไปดู พบมีชาวบ้านแถวนั้น มาบุกและปลูกต้นยางพาราอายุกว่า ๒ ปีแล้ว
ตกใจ ไปฟ้องคดีขับไล่ รบกวนการครอบครอง สุดท้ายปรากฏข้อเท็จจริงว่า ชาวบ้านเขาเข้าไปแย่งการครอบครองที่ดินเกินกว่า ๑ ปีแล้ว สุดท้ายกลายเป็นว่าศาลต้องยกฟ้องโจทก์เสีย
เสียเงินและเสียที่ดินทันทีครับ
ซึ่งแตกต่างจากที่ดินมีโฉนด ต้องครอบครองให้เกินกว่า ๑๐ ปี
ดังนั้น ที่ดินที่มี ภทบ.๕ เราจะได้กรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือไม่ ต้องดูว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่ต้องห้ามไม่ให้ออกเอกสารสิทธิหรือไม่ครับ
ถ้าที่ดินไม่อยู่ในเขตป่าสงวน หรือไม่เป็นที่สาธรณะ หรือที่หลวง ก็ซื้อได้ไม่เป็นปัญหาครับ เช็คให้ดีก่อนซื้อครับ
