ผลประโยชน์
การเมือง
ศาสนา
ความเชื่อ
เป็นสิทธิของมนุษยชาติ ย่อมมีแตกต่าง
คนที่เก่งต้องรวมแนวคิดและสิทธิเป็นแนวทางเดียวกัน
จึงจะถือว่าเก่งจริง ลำพังมีทรัพย์มากพอแล้วลงมาให้คนด่าเล่นไม่ถือเป็นวีรบุรุษ
แต่อาจมองได้ว่าเป็นการรักษาผลประโยชน์ส่วนตนและคณะที่มีมูลค่ามหาศาล อีกทั้งการแก้ไข
ปัญหาที่มองเห็นกันอยู่ ไม่ว่าเรื่องการเมือง พวกพ้อง ผลประโยชน์ การครอบงำกิจการ การใช้งบประมาณ
โดยเฉพาะการพนัน และยาเสพติด รวมทั้งการกดขี่ข่มเหง การตัดตอน อุ้มฆ่า เหล่านี้ ยังไม่กระจ่างในสายตาประชาชน
เห็นด้วยกับคุณ PU45...ครับ...ทุกวันนี้สำหรับผม..ประชาชนกลุ่มใหญ่ระดับรากหญ้า ( เป้าหมายของเขา) เหมือนผู้บริโภค...นักการเมือง(พวกของเขา) คือพ่อค้า.. ภาษี (ของเรา) คืองบโฆษณาของพวกพ่อค้า ..เหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน ทำให้ผมหวนไปคิดชาเขียว ยี่ห้อหนึ่งก่อนที่จะมีการแจกโชค เป็นสิบๆล้าน ซึ่งก่อนหน้านั่น โดนกระหน่ำหลายเรื่องในคุณภาพสินค้า ด้วยแคมเปญใต้ฝา ทำให้ยอดขายกลับพุ่งกระฉูด ติดเทอร์โบ ...แต่จะทำเช่นนั่นได้กี่ครั้งครับ..

ความเป็นคนสาธารณะ ที่อาสาเข้ามา ( เท่าที่ทราบไม่มีใครบังคับด้วย) ย่อมหลีกหนีไม่พ้น การโดนวิจารณ์ ที่มีทั้งผู้คนชอบและไม่ชอบ ...บางครั้งคำว่า "
หลักการ ในขอบเขตของกฏหมายที่สามารถกระทำได้" ...มันก็อาจจะไม่ต่างกับคำว่า "
จรรยาบรรณ" หลายครั้งมันแยกไม่ออกระหว่าง พวกพ้องหรือวงศาคณาญาติ อะไร?ควรจะอยู่ก่อน อะไร?ควรจะอยู่หลัง??..
ผมชอบวิธีคิดและวิธีการทำงานของ พตท.ดร ทักษิณ ชินวัตร และค่อนข้างจะชื่นชม แต่ไม่ใช่คนที่เป็น นาย ก คนปัจจุบันนี้ มันมีนัยหลายอย่างกับอมตะวาจาของ นาย ก คนนี้ "...
ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยกับผม ..ครั้งต่อไปก็ไม่ต้องเลือกผม"..

? .. ความมั่นใจกับความอหังกา ..สำหรับผมมันต่างกันครับ..

และผมคนหนึ่งที่เคยเลือก พรรคไทยรักไทย..ครับ...
