ผมอยากจะพูดให้ดูดี...ว่าทำใจแล้ว.. แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ทำใจไม่ได้ซักที.. พยายามใช้เวลาคิดมาหลายวัน.. ก็ยังอดคิดถึงความผิดหวังนี้ไม่ได้... ก็ได้แต่อ่านข้อความของคุณ Ruger ที่ถ่ายทอดออกมา...
ตอนนี้ผมเลยต้องพยายามหนักกว่าเดิมอีก 2-3 เท่า เพื่อนำรายได้มาชดเชยสิ่งที่สูญเสียไป.. ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในบ้านต้องคงเดิม เพื่อไม่ให้ทุกคนในบ้านรู้สึก...(อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ไม่อยากให้ที่บ้าน... จะอธิบายยังอธิบายไม่ออกอีก..)
ก็จากหลายๆเหตุการณ์ ผมจะไม่ลดเวลาในการได้กอดลูก... และก็พยายามผ่านเหตุการณ์นี้ไปให้ได้ครับ...
+1 สำหรับกำลังใจครับ....
ขออนุญาตเล่าให้ฟังครับพี่ .... ไม่รู้จะเป็นการทับถมปัญหาให้พี่หรือเปล่า
เรื่องราวของผมคือ ... ผมลงมาทำกิจการเย็บผ้ายีนส์ เนื่องจากแฟนถูกจ้างออกจากบริษัท
อยากหารายได้เข้ามาเพิ่ม ตอนนั้นประมาณปี 2543 เพิ่งคลอดลูกคนที่ 2 ไม่นาน
รวบรวมเงินกันทั้งหมดที่มีทองเก็บจากแต่งงาน รถของแฟน ทุกอย่างขายหมดเพื่อเอาเงินมาลงทุน
กิจการก็พอไปได้ แต่ภาระหนี้เยอะจริง ๆ เพราะผมเริ่มจากเงินทุนน้อย กู้บัตรเครดิตบ้าง
หยิบยืมจากญาติ ๆบ้าง จนเมื่อ2ปีก่อน เหตุการณ์มันก็บังคับให้ผมต้องซื้อบ้านหลังนึง
ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักผม ผมทุ่มทุกอย่างที่มีลงไปกับบ้านหลังนี้ แต่ระแวกบ้านจะมีคู่กรณีของผม
ซึ่งไม่ถูกกัน เคยมีปัญหาทะเลาะกันมาก่อน พอซื้อบ้านจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อย
เริ่มปรับปรุง ผมก็โดยเลย
- ทั้งเทศกิจ ( เกี่ยวกับต่อเติมอาคารเศษปูน ทราย )
- โยธาเขต ( แจ้งให้ทุบ ตึกทิ้ง ในส่วนที่เจ้าของเก่าทำไป)
- สำนักงานเขต (เรื่องการประกอบการ )
- สน.ท้องที่ / กองปราบ (เรื่องแรงงานต่างด้าว และงานลิขสิทธิ์ )
- ตม. แรงงานต่างด้าว ( เรื่องแรงงานต่างด้าว )
- กรมอุตสาหกรรม ( เรื่องการประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต )
- สิ่งแวดล้อมเขต ( เรื่องการประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต ) ฯลฯ
จุดมุ่งหมายหลักของคู่กรณีผม ที่เขาประกาศไว้คือจะปิดกิจการผมให้ได้
ถึงขนาดออกล่ารายชื่อเพื่อนบ้าน เพื่อให้ปิดกิจการผม ยังโชคดีอยู่บ้างที่เพื่อนบ้านอื่น ๆ
ล้วนดีและเข้าใจถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ว่าต้นสายปลายเหตุมันเป็นเพราะอะไร
อีกทั้งอันนี้ ต้องชมแฟนผม เธอเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีมาก .... อิอิอิ (คือถ้ามาถามหาผม
บางบ้านอาจไม่รุ้จักแต่ถ้าถามหาแฟนผม เพื่อนบ้านในหมู่บ้านชี้ได้ตรงตัว ....

)
ปัญหาต่างๆมันประดังมาพร้อม ๆ กันหมด งานที่ทำต้องสะดุด ค่าผ่อนบ้านมา
ค่าแรงคนงานมา ฯลฯ แต่งานทำไม่ได้ แม้หลาย ๆ เรื่องผมจะป้องกันตัวเองบ้างแล้ว
เช่นเรื่องแรงงานต่างด้าว ผมจะดำเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้องทุกคน
เรื่องงาน ผมกับแฟนตั้งธงไว้เลยตั้งแต่ตอนเริ่มทำผ้าว่าไม่รับงานก๊อป ลิขสิทธิ์
พอปัญหาต่าง ๆมันประดังเข้ามา ผมมีแต่วิ่งตามปัญหา แก้เรื่องนึงเจออีกเรื่อง
แก้อีกเรื่องก็เจออีก น้อยใจแง่กฎหมายที่บ้างครั้ง เราแม้จะพยายามทำให้ถูกกฎหมาย
มันก็ไม่เอื้อต่อเราผู้ประกอบการอยุ่ดี สุดท้ายความคิดชั่วแล่นมันก็เกิดขึ้น
ถ้าไม่มีตัวปัญหา ปัญหามันก็จะไม่มี ผมกับแฟนคุยกัน ว่าจะแก้ปัญหายังไง
อยู่ ๆน้ำตามันก็ล่วง เพราะจนปัญญาจริง ๆ ทำอะไรไม่ถูก ลูก ๆ 2 คนโต
( 10 ขวบกับ 7 ขวบ ) เขารู้และเห็นปัญหาต่าง ๆ ดี พอเห็นพ่อแม่คุยกันแล้วร้องเด็กก็ร้อง
เจ้าตัวเล็ก ตอนนั้น 2 ขวบเศษ เห็นทุกคนร้องมันก็ร้องตาม.... แต่พอผ่านพ้นคืนอันแสนยาวนานนั้นไปได้
ผมเริ่มคิดใหม่ ผมค้นคว้าเรื่องข้อกฎหมายระเบียบบังคับต่าง ๆ เริ่มทำหนังสืออุทธรณ์
ส่งกลับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ผมได้รับหมาย เริ่มมองว่าอะไรที่ยังเป็นช่องโหว่ ให้เขาเล่นงานได้
ผมก็ปิดช่องนั้น สุดท้ายเหตุการณ์ มันเดินไปตามเรื่องของมัน ปัญหาค่อย ๆ แก้ได้ที่ละเปาะ
จนทุกวันนี้ ตัวคู่กรณีผมเอง ก็แพ้ภัยตัวเอง รับในสิ่งที่เขา่ทำ .....

*********************
ปล. + เป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ