ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวพี่อภิสิทธิ์ครับ...

ขออภัยนะครับ ไม่ทราบว่าถึงแก่กรรมด้วยสาเหตุใดครับ...

ขอบคุณครับคุณหมอ

ผมจะขอเล่าย้อนแต่ต้นเลยนะครับ

ดึกคืนวันที่ 13 ธค. 52 พ่อผม(81ปี) เดินมาห้องนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จแกคิดอย่างไรไม่ทราบยกเท้าซ้ายขึ้นมาเช็ดแล้วโดยยืนบนเท้าขวาข้างเดียวจึงเกิดเสียหลักหงายหลังล้มเจ็บสะโพกมากจนต้องส่งโรงพยาบาลเชียงใหม่รามในเช้าของอีกวัน คุณหมอที่นั่นพบว่ากระดูกเชิงกรานร้าว พวกเราลูกๆก็โล่งใจที่ไม่เป็นอะไรมาก จึงเตรียมตัวกลับบ้านกัน แต่มี
ผลแล๊ปอยู่ตัวที่มีปัญหาครับคือปริมาณอ๊อกซิเจนในเลือดของอาปามีค่าต่ำครับ คุณหมอเจ้าของไข้จึงสั่งซีทีสแกนทรวงอก ผลซีทีสแกนฉีดสีออกมาพบว่ามี
ก้อนเนื้อเล็กๆบริเวณปอดขวาและที่ไตโตประมาณปลายนิ้วก้อยคุณหมอเจ้าของไข้ว่าน่าจะเป็นมะเร็ง แนะนำว่าควรทำการเก็บชิ้นเนื้อออกมาตรวจดูว่าเป็นประเภทใด..ก้าวร้าวหรือไม่ แต่อาปาผมบอกลูกๆทุกคนว่าให้ลืมๆเรื่องนี้ไปเลยไม่ตัดไม่เจาะให้ใช้ชีวิตต่อไปตามปรกติ แกจะอยู่กับก้อนเนื้อนั้นแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันครับ

แต่อายุของท่านคงจะกำหนดมาแค่นั้นครับ
อาการโรคเก่าคือโรคหัวใจโต(กินยาคุมมาตลอด)ทำให้เกิดน้ำท่วมปอดในคืนนั้นและต้องเข้าห้องไอซียู-ใช้เครื่องช่วยหายใจ อีกสองคืนต่อมาก็เกิดการติดเชื้อในปอดทั้งๆที่ระดมสรรพยาเข้าทางสายไอวี แต่พ่อก็ความดันตกและหัวใจที่เต้นมาตลอด81ปีก็หยุดทำงานครับ
พ่อผมใช้ชีวิตแบบมีสีสันมากครับก่อนแกล้มแกยังขับรถไปโน่นไปนี่(รถแกเป็นรถกึ่งสปอร์ต)พ่อเป็นรองประธานมูลนิธิลำปางสงเคราะห์มาหลายสมัยเหลือเกินแกชอบที่นี่จนไม่ยอมเป็นประธาน(ประธานเป็นได้สองปีแล้วก็จะไม่มีบทบาทใดอีก)...ผมเสียดายท่านจริงๆ
แต่ถ้าพ่อผมพลาดรถเที่ยวนี้ พ่อคงจะเจอความเจ็บปวดทรมาณอย่างมากกับการเป็นมะเร็งและคงจะเสียชีวิตอย่างช้าๆอย่างเจ็บปวดมากๆ