เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 24, 2025, 03:39:49 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [วันเด็ก] อ่านเล่นๆ ครับ  (อ่าน 2511 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« เมื่อ: มกราคม 09, 2010, 10:37:01 PM »

 Smiley หนูมาจากไหน...

         เย็นวันหนึ่ง พ่อกับแม่คู่หนึ่งขับรถไปรับลูกสาววัย 5 ขวบกลับจากโรงเรียนเช่นทุกวัน ระหว่างทางกลับบ้าน ลูกสาวนั่งนิ่ง..เงียบ..สีหน้าดูเคร่งเครียด ไม่ถามนู้นถามนี้อย่างเช่นทุกวัน ถึงบ้าน ระหว่างทานอาหารเย็น แม่จึงเอ่ยถามลูกน้อยว่า

"วันนี้มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าลูก ที่โรงเรียนมีเรื่องอะไรหรือเปล่า"

"มีค่ะ"...ลูกน้อยตอบ...พร้อมกับพูดต่อว่า..."เพื่อนถามว่าหนูมาจากไหน"

        เมื่อพ่อกับแม่ได้ฟัง กลับยิ่งเครียดหนักกว่าลูกอีก และได้สัญญากับลูกน้อยว่า ระหว่างอาหารเย็นวันพรุ่งนี้ จะให้คำตอบ คืนนั้นทั้งคืน หลังจากลูกหลับแล้ว พ่อกับแม่ได้ปรึกษากันถึงคำตอบ ว่าควรจะอธิบายให้ลูกวัย 5 ขวบฟังอย่างไรจึงจะเข้าใจว่า..เขามาจากไหน...

        วันต่อมา ในระหว่างอาหารเย็นตามปกติ แม่จึงชี้ให้ลูกมองไปที่นอกบ้าน และพูดกับลูกว่า

"ลูกเห็นนกคู่นั้นมั้ย นกมันรักกัน เห็นผีเสื้อคู่นั้นมั้ย...นั้นมันก็รักกัน...ก็เหมือนพ่อกับแม่นี่แหละ...พ่อกับแม่ก็รักกัน...แต่งงานกัน...................(อื่นๆอีกมามายไม่อาจบรรยายหมด).....และหนูก็เกิดจากความรักระหว่างพ่อกับแม่ไงจ๊ะ"

เมื่อลูกได้ฟังคำตอบ จึงพูดกับแม่ว่า..."โห...ทำไมยุ่งยากจังหละคะ ไม่เห็นเหมือนเพื่อนหนูเลย"

แม่จึงเอ่ยขึ้นว่า..."แล้วเพื่อนหนูเค้าบอกหนูว่าเค้ามาจากไหนกันบ้างหละ"

ลูกสาวจึงตอบแม่ว่า....................



"เพื่อนหนูเค้าบอกว่า".........."เค้ามาจากนครนายก"...!!!! 

บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 09, 2010, 10:41:12 PM »

 Smiley ความภาคภูมิใจของพ่อ...

ครอบครัวหนึ่ง มีลูกชายวัยกำลังโตอายุ 13 ขวบ

เมื่อลูกชายวัย 13 ขวบ กลับมาจากโรงเรียน แม่ก็ถามตามปกติ


แม่ : " วันนี้เป็นไงบ้าง "

ลูกชาย : " วันนี้ผมมี SEX กับคุณครูครับ "

แม่ : " Ohh! My God! (OMG!) ลูกกลับไปที่ห้องซะ รอคุณพ่อกลับมาบ้าน " แม่บอกลูกน้อย


เวลาผ่านไปสักพัก คุณพ่อก็กลับมาถึงบ้าน


แม่ : " ขึ้นไปห้องลูกชายคุณแล้วก็คุยกับเขาหน่อย มีสิ่งไม่ดีเกิดกับเขาในวันนี้ "


พ่อขึ้นมาบนห้องลูกชาย และถามถึงสาเหตุที่แม่โวยวาย


ลูกชาย : " ผมบอกแม่ว่า วันนี้ผมมี SEX กับคุณครูครับ " เจ้าหนูตอบ

พ่อ : " ดีแล้ว ~ นี่แหล่ะลูกพ่ออ!! รู้ไว้ซะลูก ผู้หญิงอย่างแม่ไม่คิดอะไรอย่างที่ผู้ชายคิดหรอก

แต่พ่อก็ภูมิใจในตัวลูกนะ ลูกอายุเท่าไหร่หล่ะ สิบสามแล้วใช่มั้ยย ว๊าวว!! ... นี่แหละลูกพ่อ

พ่อภูมิใจในตัวลูกมาก งั้นเราจะออกไปข้างนอก แล้วจะซื้อจักรยานสวย ๆ ที่ลูกอยากได้ ให้ลูก "

.
.
.

และแล้วพ่อกับลูกก็ออกมาจากร้านขายจักรยาน

พร้อมกับจักรยานที่ดีที่สุด! ใหม่ที่สุด! สีแดงที่สุด!

เปล่งปลั่งที่สุดในเมือง!


แล้วพ่อก็ถามลูกว่า


พ่อ : " จะขี่กลับบ้านเลยมั้ยลูก "


ลูกชาย : " ไม่หล่ะครับ ผมยังเจ็บตูด...อยู่เลย "


พ่อ : " !!! "
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
cobra-รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 86
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 557


36003


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 09, 2010, 10:50:53 PM »

ขอบคุณครับ ฮาดีครับ  ขำก๊าก ขำก๊าก เยี่ยม
บันทึกการเข้า



Uploaded with ImageShack.us
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 09, 2010, 10:52:07 PM »

 Smiley เก็บมาจาก สีลม พันทิป ครับ
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B8700117/B8700117.html


นึกถึงวันที่เอาเงิน 1 แสนบาท ไปคืน... ขอบคุณมากครับคุณลุง..อย่าเสียใจไปเลยครับ....


.....................ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หลายปี เพื่อนบ้านก็ดี มีน้ำใจ ข้างบ้านรั้วติดกัน มีคุณลุงคนหนึ่ง
เป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณมาหลายปีแล้ว ภรรยาเสีย ตั้งแต่เรายังไม่ย้ายเข้ามา ลูกๆทั้ง 3 คน
ต่างก็แต่งงาน มีครอบครับ ไปอยู่ที่จังหวัดอื่นๆ กันหมด ..ลุงแกก็อยู่บ้านคนเดียว มาเกือบ 10 ปี

เราได้รู้จักลุง ก็ได้เห็นในน้ำใจไมตรี เป็นคนใจดี อบอุ่น น่ารัก ..มีโรคประจำตัวตามประสาคนแก่
คือเบาหวาน ความดัน และเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไปตามปกติ...

ด้วยความที่อยู่บ้านคนเดียว บางครั้งเจ็บป่วย ก็ลำบากหน่อย เพราะไม่มีลูกหลาน คอยช่วยเหลือ
ช่วงเวลาหลายปี ที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือ พาไปหาหมอ พาไปทำธุรต่างๆ และถ้า
ป่วยหนัก ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะช่วยโทรตามลูกๆ ของแกให้..
..............................ลูกๆ ก็จะมาเยี่ยมบ้าง ไม่มาบ้าง แล้วแต่โอกาส เรารู้ว่า คุณลุงเหงา.....

.......บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเราไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะท่านเสียไป
หลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่...

.. ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่นๆ เขามีลูกๆ มาเยี่ยม เราเห็นคุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพัง
เราก็ซื้อของขวัญ ของกิน ของใช้ บางครั้งก็เป็นพวก ผลไม้บ้าง เครื่องดื่มบ้าง ไปไหว้ ...ลุงก็ดีใจ
ให้ศิลให้พร กันยกใหญ่ ...แล้วก็บ่น รำพึง รำพัน ถึงลูกๆ ......น้ำตาไหล นั่งมองแต่ประตูหน้าบ้าน
รอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูกๆ กลับมาเยี่ยมบ้าง ...
................................หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอ...เราก็ได้แค่ปลอบ ว่าลูกๆ เขาคงติดธุระ
วันไหนเขาว่าง ก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก เสียสุขภาพไปเปล่าๆ...

............ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อยเป็นพิเศษ
เราไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ และคุณลุงก็จะแบ่งมาให้ทุกครั้ง.......ลุงจะคัดลูกสวยๆ เก็บใส่กล่อง
ดูแลเป็นพิเศษ...เก็บไว้รอลูกๆ อยากให้ลูกได้กินของดีๆ .......หลายครั้งหลายหน เราเห็นคุณลุง
รอลูกๆ จนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน ...
..............................หลายปีมานี้ ก็ไม่เคยเห็นลูกๆ กลับมากินมะม่วงที่พ่อบ่มไว้ แม้แต่ครั้งเดียว

........มีที่แปลงหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขาย ให้เราช่วยดำเนินการให้หน่อย
เราก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ ...5 เดือน เศษๆ หลังจากประกาศขาย ในที่สุดก็มีผู้สนใจ
และก็ขายได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท ...

เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือ...คิดถึงลูกๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขายที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่าจะแบ่งเงิน
ให้ลูกทั้ง 3 คน เท่าๆ กัน ...

.วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเราแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไปโอนเงินให้ลูก
เราก็พาไป วันนั้นเป็นลูกค้ารายแรกของธนาคาร...คุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท ...

..........เมื่อกลับมา...จอดรถส่งลุง หน้าบ้าน...ก่อนลงจากรถ คุณลุงหยิบเงิน ในกระเป๋า 1 แสนบาท
ยื่นส่งให้ บอกว่า..เอานี่ ลุงให้...............เรารีบปฏิเสธ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องให้ผม
ลุงเก็บไว้ใช้เถอะ ให้ลูกๆ ไปเกือบหมดแล้ว ...
.......................................ลุงบอกว่า เอาไปเถอะ ลุงได้รับบำนาญทุกเดือน ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
ที่แปลงนี้ที่ขายได้ ก็เพราะเรา ต้องรับโทรศัพท์ และพาคนไปดูที่ หลายเดือนมานี้ ไม่รู้ขับรถไป-กลับ
กี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไร ตอบแทนบ้างเลย
พ่อหนุ่ม ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์ เสียเวลา เป็นธุระจัดการเรื่องราวให้ สารพัด............
.....................รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริงๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะ......เราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง

..........กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึกๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบ...แต่ลุงไม่รับคืน
และยืนยันว่า ตั้งใจจะให้เราจริงๆ....

.......................อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์ มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็ก และคนกลางมาเยี่ยม
และทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่า...เราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรารีบเข้าไปในบ้าน
หยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง...

....ลุงปฏิเสธ และพยายามอธิบายให้ลูกๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้ แล้วเดินออกมา
ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป .....
..........................สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว

คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด ..ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูกๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้...
ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือน มาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท...
...........................................................เราบอกว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น..

.............................................อีก 3 วัน เกือบๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับลูกชายคนโต
เมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯไปเล่าเรื่องให้ฟัง พี่ก็ไม่สบายใจ.. พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนา หลายวัน
ออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มาถึงซะดึก..
....พี่ต้องขอโทษ แทนน้องๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริงๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง
อายุก็มากแล้ว แต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริงๆ...เอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหม เดี๋ยวกลับไป
พี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้.............. ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร ...เราปฏิเสธไป...

....วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ เจ้าใหญ่มันบอกว่า วางแผนไว้แล้ว
อีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่...เราสังเกตุเห็นแววตาอันสดใส ของคุณลุง
บ่งบอกถึงความ ปิติ ยินดี อย่างที่สุด.......ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว...

................ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปี แล้วซินะ ที่ลุงนับวันรอ ว่าจะมีลูกๆ กลับมาอยู่ด้วย
เราเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงขีดฆ่า วันแล้ววันเล่า ...เดือนแล้วเดือนเล่า..ปีแล้วปีเล่า...และสุดท้าย........
........................................................... ... ลุงน่าจะอดทนรออีกนิด ..อีกนิดเดียวเองครับลุง..

............ในห้อง ไอซียู เรากับพี่ใหญ่ นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้.......ช่วงเวลา สุดท้ายของชีวิต
คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง ...ดวงตาค่อยๆ ปิดลงช้าๆ
........................................................... ...........................คุณลุงจากไปด้วยอาการสงบ..

*** หลังงานศพ เสร็จสิ้น...
...........................ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้ บอกว่า -- พ่อฝากไว้ให้
พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตาย ว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ...
เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง...
............................................. จ่าหน้าว่า... คืนเงินเดือนที่ 1-2-3...ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10
ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ.....................ซองสุดท้าย มีข้อความ...ว่า

ถึง...
......หลานที่ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ...ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญา .....
...ขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ ในทุกๆเรื่อง และเป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด...
........................................................... .........................ป้ามารอลุงแล้ว...ลุงต้องไปก่อน.

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

.....อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาด...เราสังเกตุเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงใช้ขีดฆ่า
เพื่อนับวันรอลูกๆ ...ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน ....

-------- เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้.....ขายบ้าน ด่วน ! --------

........................เราไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด ..นึกถึงภาพคนแก่ ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลข
บนปฏิทิน ด้วยอาการมือสั่นเทา ...
..........................ลูกๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่าๆ ไร้ค่าใบนี้ ..มันซ่อนความห่วงหาอาลัย
ซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ..ซ่อนความเจ็บปวด ร้าวลึก ของคนแก่คนหนึ่ง ที่ต้องใช้ชีวิต อยู่อย่าง
โดดเดียว เพียงลำพัง มานานกว่า 10 ปี ...
.......................................................เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก...ตลอดไป...

*** .............ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดี ทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต
จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติ..ในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น .....................
... ชั่วนิรันดร์.......


.......รักคุณลุงครับ



บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 09, 2010, 10:58:28 PM »

วินทร์ เลียววาริณ
20 กันยายน 2551

(พิมพ์ครั้งแรก : เปรียว 2551)



แผนที่โลกกลับหัว...

หากคุณไปเยือนประเทศออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ซึ่งตั้งอยู่ทางซีกโลกใต้ คุณอาจพบบางร้านที่ขายแผนที่โลกกลับหัว นั่นคือขั้วโลกเหนืออยู่ข้างล่าง ขั้วโลกใต้อยู่ข้างบน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในแผนที่นี้จึงอยู่ที่ ซีกโลกเหนือ

แผนที่ดังกล่าวอาจเป็นความเพี้ยนหรือความคิดสร้างสรรค์ของคนจัดทำ แต่มันให้มุมมองที่น่าสนใจสำหรับมนุษย์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับความเคยชินมาทั้ง ชีวิต

เราถูกฝังหัวมาแต่เล็กให้มองแผนที่แบบที่เรามองกัน : ทิศเหนืออยู่ข้างบน ทิศใต้อยู่ข้างล่าง มนุษย์เรายังมีความเคยชินอีกหลายอย่าง :

สวมถุงเท้า/รองเท้าทั้งสองข้างสีเดียวกัน หากใครคนหนึ่งสวมรองเท้าข้างละสี หรือถุงเท้าข้างละลวดลาย อาจถูกมองว่าเป็นคนเพี้ยน

เวลายืนในลิฟท์ เรามักยืนหันหน้าไปทางประตูลิฟท์ หากยืนหันหลังให้ประตูลิฟท์ จะถูกมองว่าเป็นคนบ้า

เวลาขึ้นรถเมล์ เรายืนหันหน้าไปทางหัวรถเสมอ หากใครสักคนยืนหันหลังไปหน้ารถ คงดูสายตาหลายคู่ชำเลืองมองด้วยความประหลาดใจ

เวลาถ่ายรูปจะยิ้มเสมอ คนส่วนใหญ่ยิ้มโดยอัตโนมัติ เมื่อช่างถ่ายรูปหมู่คนที่ไปในงานศพ กว่าจะนึกได้ว่านี่เป็นงานแห่งความโศกเศร้า ภาพก็ถูกบันทึกแล้ว ฯลฯ



ในปี พ.ศ. 2510 นักคิดที่มีชื่อเสียงของโลกคนหนึ่งนาม เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน ได้เสนอหลักการคิดที่เรียกว่า Lateral Thinking (การคิดแนวข้าง) ตีพิมพ์ในหนังสือชื่อ The Use of Lateral Thinking

หลักการคิดแนวข้างคือการคิดนอกกรอบ โดยเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมอง

วิธีมองแบบเก่าคือ เรามักมองว่า "นี่คือปัญหา และนี่คือทางแก้ปัญหา" การคิดแนวข้างจะไปไกลกว่านั้นคือ อาจคิดทางออกทั้งที่ไม่มีปัญหา!

บ่อยครั้งการคิดแนวข้างต้องอาศัยอารมณ์ขัน บางครั้งก็มองด้วยมุมที่คนทั่วไปบอกว่า บ้า เช่น เส้นผมบนศีรษะคน ถ้ามองแบบเดิมคือ "เส้นผมอยู่บนศีรษะ" ถ้ามองแบบบ้าคือ "เส้นผมลอยตัวอยู่ในอากาศและรั้งร่างกายคนขึ้นมา"

การมองโลกด้วยสายตาแปลกพิกลอย่างนี้อาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหา แต่มันมักสร้างทางสายใหม่ให้เราเดินไปสู่การแก้ปัญหาและ/หรือการสร้างสรรค์ นวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก ที่สำคัญคือมันประยุกต์ได้กับทุกวงการ

แต่การเปลี่ยนมุมมองที่วางบนรากฐานของความเคยชินที่ถูกปลูกฝังแต่เด็กไม่ใช่เรื่องง่าย เราต้องทลายค่านิยม ความเคยชินก่อน

เมื่อเปลี่ยนมุมมอง เราจะพบว่าเห็นอะไรหลายอย่างต่างไป เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่เราไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่าทำได้ และไม่มีทางทำได้เมื่อมองโลกด้วยมุมมองเดิม



คมคำคนคม

The only way to discover the limits of the possible is to go beyond them into the impossible.


ทางเดียวที่จะค้นพบขีดจำกัดของความเป็นไปได้ก็ คือ การก้าวข้ามมันไปในความเป็นไปไม่ได้


Arthur C. Clarke
(1917 -2008)
Technology and the Future
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 09, 2010, 11:06:23 PM »

สำหรับเด็กโต...


 หลงรัก เธอคนนี้ชื่อ เหวียนถิหญาเล (Nguyen Thi Nha Le)  เซ็กบอมบ์ ชาวเวียดนาม












































บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 09, 2010, 11:14:44 PM »



ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์

เธอมีดวงตา ที่ชวนฝันครับ



คืนนี้ จะฝันถึงเธอหรือเปล่า ไม่รู้ครับ.......
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
som36
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 29
ออฟไลน์

กระทู้: 404


« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 09, 2010, 11:28:40 PM »

ขอบคุณครับ น้าวัฒน์
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 09, 2010, 11:45:26 PM »

ขอบคุณครับ น้าวัฒน์  โฟร์โมสต์เธอสวยมากครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 386
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9425


« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 12:25:32 AM »

แฮ่ๆ คืนนี้คงนอนไม่ค่อยหลับเป็นแน่ ขอบคุณครับพี่วัฒน์
บันทึกการเข้า
SOAP47 รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 333
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5792



« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 04:58:40 AM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

THIS IS MY STEYR.
THERE ARE MANY LIKE IT, BUT THIS ONE IS MINE.
WITHOUT MY STEYR,I AM NOTHING.
WITHOUT ME, MY STEYR IS NOTHING.
NatthaphoN_
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13071

https://lh5.googleusercontent.com/-3fxkffwgtBc/AAA


« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 07:13:55 AM »


เนี้ยอะนะ...เด็ก น้ำลายหก
บันทึกการเข้า
Choro - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 214
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3853



« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 11:23:35 AM »

ตอนที่สักตรงนั้น ช่างมันคง. .  .  น้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหก   มีฟามสุขน่าดูเลยครับ


   เนื้อ นม ไข่  หลงรัก หลงรัก
บันทึกการเข้า

สุดท้ายชีวิตไม่ขอรวย ขอแค่ไม่ป่วยก็พอแล้ว
เจ็บ
^_^ ไม่รุกรานใคร ^_^
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 162
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952


ไม่พอใจใครจะเตะให้โด่งเลย


« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 11:31:31 AM »

สาวเวียดนามทำบุญด้วยอะไรน้อ  ตู้มต้ามจังครับ..อิอิ   น้ำลายหก น้ำลายหก

บันทึกการเข้า

"  ในปัจจุบันประสบการณ์มีค่ามากกว่าใบปริญญามากมายนัก  "
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 10, 2010, 11:52:05 AM »


                ผู้ใหญ่คิดลึก .... ชอบทุกบทความเลยครับอา ขอบคุณครับ

บันทึกการเข้า

                
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.141 วินาที กับ 20 คำสั่ง