รบกวนถามเรื่องพัฒนาการของปืนคานเหวี่ยงครับ

[แวบมา]

ขออนุญาตท่านสมาชิกผู้มีประสบการณ์และความรู้เรื่องปืนคานเหวี่ยงทุกท่านครับ

ที่ผมตั้งกระทู้นี้ก็เพราะอยากทราบประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของปืนคานเหวี่ยงโดยเฉพาะ วินเชสเตอร์
แต่ที่สงสัยอยากทราบจริงๆ คือระบบกลไกของโมเดล 94 (1894) ต่างจาก โมเดล 1892 อย่างไร
เนื่องจากผมมีปืนคานเหวี่ยงวินเชสเตอร์อยู่ทั้งสองกระบอก
สังเกตจากปืนที่ผมมีอยู่เมื่อง้างคานเหวี่ยงลง สำหรับโมเดล 94 กลไกชุดลั่นไกบางส่วนจะเคลื่อนลงมา
แต่ โมเดล 1892 นอกจากตัวก้านคานเหวี่ยงและสลักกลไกอื่นจะอยู่กับที่
ผมจึงอยากทราบแนวคิดของการออกแบบปืน 2 รุ่นนี้
ว่ามีพัฒนาการแก้ไขจุดบกพร่องของโมเดลเก่าอย่างไรหรือไม่ครับ
และนอกจากสองโมเดลนี้หากท่านจะกรุณาให้ความรู้เพิ่มเติมก็จะยิ่งเป็นการดี

ขอบคุณครับ

[แวบมา]

สงสัยจะตั้งกระทู้ผิดห้อง

ขออนุญาตไปเปิดกระทู้ถามในห้องไรเฟิลนะครับ

ขอโทษทางเว็บที่ทำให้เปลืองเนื้อที่ครับ

[SA-KE]

เพิ่งเข้ามาเจอครับ..ไม่รู้ จขกท. จะยังวนเวียนอยู่ในนี้หรือเปล่า ?
ถามคำถามกว้าง ตอบยากเหมือนกัน เอาเท่าที่มี เท่าที่พิมพ์ได้
เอาย่อๆเท่าที่ผมอ่านแล้ว เข้าใจเอาเองน่ะครับ..ลองดูครับ


รูปแรก เป็นระบบกลไก ของ WIN 1892



รูปที่ 2 เป็นระบบกลไก ของ WIN 1894



สำหรับแนวคิดการออกแบบของ ตัว 1892 - 1894 ( ดินปืนแบบไร้ควัน) พัฒนามาจาก WIN 1886  ( กระสุนดินดำ มีควัน)โดย John M. Browning 
ซึ่ง  Winchester ซื้อสิทธิบัตรการผลิตปืน Rifle แบบ Single Shot  โดย รุ่น  1886  ถูกพัฒนาต่อมาจาก รุ่น 1876 ซึ่งถูกผลิต มาเฉพาะจุดประสงค์พิเศษ
และมีข้อจำกัดกับขนาดกระสุนที่ใช้ โดยรุ่น 1886 สามารถใช้กระสุนได้แรงกว่า รุ่น 1876 รวมทั้งระบบกลไกที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ส่วนรุ่น 1892 กลไกจะคล้ายกับ รุ่น 1886 แต่จะมีขนาดเบากว่า รูปทรงกะทัดรัด เหมาะสำหรับกระสุนแรงดันต่ำ  ใช้ในการล่าสัตว์ขนาดเล็ก
ถูกผลิตมาในปี 1941 ประมาณ หนึ่งล้านกระบอก   

ส่วนรุ่น 1894   คงเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดท้ายของ Winchester และยังคงมีการผลิต จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ตามข่าวไม่แน่ใจว่าเลิกการผลิตแล้วหรือยัง

ส่วนรุ่นถัดมา คือ  รุ่น 1895 กระสุดขนาด .405 CAL ถือว่าเป็นกำลังกระสุนที่แรงที่สุดในคานเหวี่ยง ที่ Winchester เคยผลิตมา


                                 ------------------------------------------------------------------------------------------

แถมครับ...

ปืนไรเฟิลคานเหวี่ยง ที่โด่งดังรุ่นหนึ่งของ Winchester คือ รุ่น 1866 และ 1873 โดยเฉพาะรุ่น 1873 Special Version ผลิต เพียง  1,000 กระบอก
ซึ่งเป็นปืนเกรดสะสมและหายาก


รูปที่ 3  รุ่น 1873



รูปที่ 4 นักรบแห่ง Texas 1885 กับ WIN รุ่น 1873




ที่มา :  ปืนคลาคสิคตะวันตก โดย Dean K. Boorman ... ไม่รู้แหล่งที่แปล...

[USP40]

+1 Krub Khun SAKE

[chew - รักในหลวง]

พึ่งรู้ว่าท่าน SA-KE เป็นแฟนพันธ์แท้ คานเหวี่ยง  เยี่ยมครับ  +1 ครับ

[visith]

..ขอนุญาตถามเป็นความรู้หน่อยครับ..

..อยากให้เปรียบเทียบปืนคานเหวี่ยงระหว่างยี่ห้อ Winchester กับ Marlin ในภาพรวม ดี/ด้อย/เด่นกว่ากันอย่างไรครับ..

..ขอบคุณครับ..

[Daimyo]

ชอบวินฯ.....แต่ต้องเอามาร์ลิน....เพราะหาไม่ได้ครับ....เศร้า

[แวบมา]

เพิ่งเข้ามาเจอครับ..ไม่รู้ จขกท. จะยังวนเวียนอยู่ในนี้หรือเปล่า ?
ถามคำถามกว้าง ตอบยากเหมือนกัน เอาเท่าที่มี เท่าที่พิมพ์ได้
เอาย่อๆเท่าที่ผมอ่านแล้ว เข้าใจเอาเองน่ะครับ..ลองดูครับ


รูปแรก เป็นระบบกลไก ของ WIN 1892



รูปที่ 2 เป็นระบบกลไก ของ WIN 1894



สำหรับแนวคิดการออกแบบของ ตัว 1892 - 1894 ( ดินปืนแบบไร้ควัน) พัฒนามาจาก WIN 1886  ( กระสุนดินดำ มีควัน)โดย John M. Browning 
ซึ่ง  Winchester ซื้อสิทธิบัตรการผลิตปืน Rifle แบบ Single Shot  โดย รุ่น  1886  ถูกพัฒนาต่อมาจาก รุ่น 1876 ซึ่งถูกผลิต มาเฉพาะจุดประสงค์พิเศษ
และมีข้อจำกัดกับขนาดกระสุนที่ใช้ โดยรุ่น 1886 สามารถใช้กระสุนได้แรงกว่า รุ่น 1876 รวมทั้งระบบกลไกที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ส่วนรุ่น 1892 กลไกจะคล้ายกับ รุ่น 1886 แต่จะมีขนาดเบากว่า รูปทรงกะทัดรัด เหมาะสำหรับกระสุนแรงดันต่ำ  ใช้ในการล่าสัตว์ขนาดเล็ก
ถูกผลิตมาในปี 1941 ประมาณ หนึ่งล้านกระบอก  

ส่วนรุ่น 1894   คงเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดท้ายของ Winchester และยังคงมีการผลิต จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ตามข่าวไม่แน่ใจว่าเลิกการผลิตแล้วหรือยัง

ส่วนรุ่นถัดมา คือ  รุ่น 1895 กระสุดขนาด .405 CAL ถือว่าเป็นกำลังกระสุนที่แรงที่สุดในคานเหวี่ยง ที่ Winchester เคยผลิตมา


                                 ------------------------------------------------------------------------------------------

แถมครับ...

ปืนไรเฟิลคานเหวี่ยง ที่โด่งดังรุ่นหนึ่งของ Winchester คือ รุ่น 1866 และ 1873 โดยเฉพาะรุ่น 1873 Special Version ผลิต เพียง  1,000 กระบอก
ซึ่งเป็นปืนเกรดสะสมและหายาก


รูปที่ 3  รุ่น 1873



รูปที่ 4 นักรบแห่ง Texas 1885 กับ WIN รุ่น 1873




ที่มา :  ปืนคลาคสิคตะวันตก โดย Dean K. Boorman ... ไม่รู้แหล่งที่แปล...

ขอบคุณครับ ยอดเยี่ยม ไม่ผิดหวังเลยที่เข้ามาตั้งกระทู้ถาม

ได้เห็นระบบกลไกความแตกต่างของทั้งสองโมเดลนี้แล้ว
คราวนี้มาถึงประเด็นที่สงสัยว่า
ที่ต้องปรับปรุงทำให้แตกต่างเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องอะไรหรือเปล่าครับ

[chew - รักในหลวง]

ชอบวินฯ.....แต่ต้องเอามาร์ลิน....เพราะหาไม่ได้ครับ....เศร้า

อย่าฝืนใจตัวเองครับ  ไม่ชอบก็ปล่อยซะ  ๆ  

1984 .44 ตัวนี้น่าใช้ครับ  ผมเคยมี  ใช้งานสมบุกสมบันได้ สบม ยห ครับ

[Don Quixote]

ขอบคุณมากรับพี่สาเก

เรียนคุณแวบมา

เท่าที่ผมดูตามภาพ ขนาดกระสุนของ 1894 ยาวกว่า รุ่น 1892 มาก ชิ้นกลไกยื่นลงมาเพื่อยืดระยะจากจุดหมุนของคานส่งกระสุนที่ต้องยาวขึ้นตามความยาวกระสุนครับ

[SA-KE]

+1 Krub Khun SAKE

ขอบคุณมากครับ " พี่เจษ" ..      ผมเข้าเวปนี้มาครั้งแรก  โดยไม่รู้อะไรเลย?
กระทู้แรกๆ ถามเรื่อง " ซองแฝด มิดแลนด์ " .. " พี่เจษ"  เป็นท่านแรก ที่หาข้อมูลให้ผม..ยังจำได้ไม่ลืมครับ..
ขอคืน +1 น่ะครับ

พึ่งรู้ว่าท่าน SA-KE เป็นแฟนพันธ์แท้ คานเหวี่ยง  เยี่ยมครับ  +1 ครับ

ขอไม่รับน่ะครับ..   
ถ้าให้เลือกคุยเรื่อง "การเมือง"  กับ " ปืน"   ผมขอเลือกคุย เรื่อง "การเมือง" ดีกว่า ครับ " คุณ chew " ...
สงสัยคงลืมอีกแล้วแน่เลย..       ผมเคยบอกแล้วว่า ผมขอเลือก เป็น "เป็ด " ครับ คือ... เอาดี  เอารู้จริง ไม่ได้สักเรื่อง ...
ขอคืนน่ะ +1
     


จริงๆในเวปนี้ เท่าที่ผมทราบ คนที่จะตอบความต่าง ของปืนคานเหวี่ยง ระหว่าง " Win กับ Marlin " ได้ดี
เท่าที่เข้าเวปและอ่านผ่านๆ เท่าที่จำได้ ขอโยนลูกแล้วกัน  ไม่ขออนุญาตน่ะครับ เพราะเอ่ยชื่อ ก็คือผมยอมรับความรู้ครับ
มี " พี่เจษ " , "พี่มะขิ่น" และ " ครูดำ " นอกนั่น จำไม่ได้จริงๆครับ... 

[SA-KE]

...................................
คราวนี้มาถึงประเด็นที่สงสัยว่า
ที่ต้องปรับปรุงทำให้แตกต่างเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องอะไรหรือเปล่าครับ

สำหรับเหตุที่มีความต่างของกลไกระหว่าง รุ่น 1892 และ 1894  โดยส่วนตัวจริงๆ ผมยังไม่มีข้อมูลในกรณีนี้
แต่รูปที่ผม สแกนมาให้ เป็นภาพต้นแบบ จากหนังสือดังกล่าวที่ผมอ้างอิงข้างต้นครับ

แต่ถ้าเรามานั่ง วิเคราะห์กันเอง อย่างที่ " คุณ LE " ( ขอโทษทีผมติดชื่อเดิมมากกว่า" ท่านดอนฯ "  เขียน "ท่านดอน" ทีไร? ชอบนึกถึงผู้ชายอ้วน เสียงดัง.. )
ผมว่าโดยหลักของ แมคคานิกส์ ก็มีความเป็นไปได้สูง  เพราะหลักการการออกแบบ ปืนระบบนี้
ผมเข้าใจเองว่า  เน้นการออกแบบความคล่องตัวของการทำงานของคานเหวี่ยงและการออกแบบให้รางเลื่อนรับแรงได้ดี คือ จุดสำคัญ 
ซึ่งถ้าไปดูภาพก่อน รุ่น 1886 จะเห็นได้ชัดว่า กลไกภายในจะดูบอบบางมากกว่า รุ่น 1886 ค่อนข้างมาก

แต่ถ้าถามว่า ทำไม? 1892 ต้องปรับปรุงเป้น 1894 แล้วจุดบกพร่องคืออะไร?  ยอมรับว่าได้แต่ " เดา "
โดยใช้หลักการเช่นข้างต้นครับ  ..คงต้องรอผู้รู้จริงมาเสริมในประเด็นนี้ครับ

                                           ...........................................................

ชอบแถม.. (  ไม่ได้อวดรู้น่ะครับ...   )   เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้งครับ...

เฉพาะ โมเดล 94  ที่ผลิตขายในช่วงที่ผ่านมา  มีทั้งหมดประมาณ  8 รู่น แบ่งเป็นหมวดหลักๆ 2 หมวด มีประมาณ  6 คาลิเบอร์
คือ  .30-30 win , .44 Rem.Mag , .357 Mag. , .45 Colt , .22 Rimfire  และ .22 WMR

ส่วน Win 1892 ผมไม่มีข้อมูลเพิ่มครับ..

ส่วนตัวเคยลองแค่  .44 Rem Mag  ( Trapper )  , .357 Mag ( Trapper & Legacy )  และ .22 LR  ( 9422 Tradition)
ไม่ชอบที่สุดก็  .22LR  ครับ   ขี้เกียจใส่ลูก...

[chew - รักในหลวง]

ไม่ชอบที่สุดก็  .22LR  ครับ   ขี้เกียจใส่ลูก.

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

หาท่ออลูมินั่มหรือทองเหลืองมาใส่ลูก 15 นัดไว้ก่อนเลยครับ  เอาแบบมีที่ปิดหัวปิดท้าย  ยิงหมด  ดึงหลอดออก  เปิดจุก  เทใส่ได้เลย

ท่าน SA-KE เป็นเป็ด  ผมเป็นแมว.  ...เข้ากันได้ ๆ 

[แวบมา]

ขอบคุณมากรับพี่สาเก

เรียนคุณแวบมา

เท่าที่ผมดูตามภาพ ขนาดกระสุนของ 1894 ยาวกว่า รุ่น 1892 มาก ชิ้นกลไกยื่นลงมาเพื่อยืดระยะจากจุดหมุนของคานส่งกระสุนที่ต้องยาวขึ้นตามความยาวกระสุนครับ

...................................
คราวนี้มาถึงประเด็นที่สงสัยว่า
ที่ต้องปรับปรุงทำให้แตกต่างเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องอะไรหรือเปล่าครับ

สำหรับเหตุที่มีความต่างของกลไกระหว่าง รุ่น 1892 และ 1894  โดยส่วนตัวจริงๆ ผมยังไม่มีข้อมูลในกรณีนี้
แต่รูปที่ผม สแกนมาให้ เป็นภาพต้นแบบ จากหนังสือดังกล่าวที่ผมอ้างอิงข้างต้นครับ

แต่ถ้าเรามานั่ง วิเคราะห์กันเอง อย่างที่ " คุณ LE " ( ขอโทษทีผมติดชื่อเดิมมากกว่า" ท่านดอนฯ "  เขียน "ท่านดอน" ทีไร? ชอบนึกถึงผู้ชายอ้วน เสียงดัง.. )
ผมว่าโดยหลักของ แมคคานิกส์ ก็มีความเป็นไปได้สูง  เพราะหลักการการออกแบบ ปืนระบบนี้
ผมเข้าใจเองว่า  เน้นการออกแบบความคล่องตัวของการทำงานของคานเหวี่ยงและการออกแบบให้รางเลื่อนรับแรงได้ดี คือ จุดสำคัญ 
ซึ่งถ้าไปดูภาพก่อน รุ่น 1886 จะเห็นได้ชัดว่า กลไกภายในจะดูบอบบางมากกว่า รุ่น 1886 ค่อนข้างมาก

แต่ถ้าถามว่า ทำไม? 1892 ต้องปรับปรุงเป้น 1894 แล้วจุดบกพร่องคืออะไร?  ยอมรับว่าได้แต่ " เดา "
โดยใช้หลักการเช่นข้างต้นครับ  ..คงต้องรอผู้รู้จริงมาเสริมในประเด็นนี้ครับ

                                           ...........................................................

ชอบแถม.. (  ไม่ได้อวดรู้น่ะครับ...   )   เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้งครับ...

เฉพาะ โมเดล 94  ที่ผลิตขายในช่วงที่ผ่านมา  มีทั้งหมดประมาณ  8 รู่น แบ่งเป็นหมวดหลักๆ 2 หมวด มีประมาณ  6 คาลิเบอร์
คือ  .30-30 win , .44 Rem.Mag , .357 Mag. , .45 Colt , .22 Rimfire  และ .22 WMR

ส่วน Win 1892 ผมไม่มีข้อมูลเพิ่มครับ..

ส่วนตัวเคยลองแค่  .44 Rem Mag  ( Trapper )  , .357 Mag ( Trapper & Legacy )  และ .22 LR  ( 9422 Tradition)
ไม่ชอบที่สุดก็  .22LR  ครับ   ขี้เกียจใส่ลูก...

ขอบคุณทั้งสองท่านมากครับ

ผมกับพี่ๆ ก็ได้แต่นั่งเดากัน
ซึ่งพี่ผมเขาก็เดาได้ใกล้เคียงว่าน่าจะปรับปรุงเรื่องการป้อนกระสุน
ครั้นไปถามคัมภีร์ปืนที่ปรึกษาประจำตระกูล
ท่านก็บอกว่าไม่กล้าตอบเพราะไม่เคยอ่านบันทึกของฝรั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่เมื่อมาที่นี้ ผมสบายใจเพราะเริ่มได้ความชัดเจนแล้ว

ขอบคุณอีกครั้งครับ