เคยได้ร่วมฟังอุทธรณ์คดีหนึ่งโดยบังเอิญนานมาแล้วพอสมควร เพราะนั่งรอขึ้นว่าความคดีต่อจากคดีนี้
คดีนี้จำเลยถูกโจทก์ฟ้องว่ามีอาวุธปืนมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนและ เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ได้จับกุมจำเลยพร้อมของกลางได้ที่ อำเภอเมือง จังหวัด......
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานมีอาวุธปืนมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนและ เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
และความผิดฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นความผิดต่างกรรมต่างกรรมต่างวาระลงโทษทุกกรรม
ความผิดฐานมีอาวุธปืนมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนและ เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ลงโทษจำคุก ๑ ปี และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ลงโทษจำคุก ๑ ปี รวมจำคุก ๒ ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือรวม ๑ ปี ไม่รอลงอาญาริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ในลักษณะว่า การกระทำของจำเลย ถือว่าเป็นการกระทำความผิดครั้งเดียว (กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ขอให้ลงโทษบทที่หนักสุด เพียงบทเดียว) และขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ รอการลงโทษด้วย
ปรากฎว่าศาลอุทธรณ์ยืนคามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น คงจำคุก ๑ ปี และไม่รอลงอาญาเหมือนเดิม
คดีนี้ถึงที่สุดเพราะต้องห้ามฎีกา
ตอนนั้นก็สงสัยว่าการที่จำเลยถูกจับกุมพร้อมของกลางในคราวเดียวกัน น่าจะถือว่าเป็นการกระทำความผิดฐานครอบครองและพกพาในคราวเดียว (เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท)
จึงลองค้นข้อมูลจึงมาพบฎีกา ซึ่งเดินมาโดยตลอดว่า การครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน และพกพา เป็นความผิดต่างกรรมกัน ศาลจะต้องลงโทษจำเลยทุกรรม
คำพิพากษาที่ ๖๐๐/๒๕๓๒ แม้ในคำฟ้องโจทก์จะบรรยายการกระทำของจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง และฐานพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนนั้นไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะเป็นวันเวลาเดียวกันก็ตาม แต่การกระทำความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวสามารถแยกต่างหากจากกันได้ จึงมิใช่ความผิดกรรมเดียวแต่เป็นความผิดสองกรรม
จำเลยกระทำความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งอาวุธปืนที่จำเลยพกพาไปก็ยังเป็นอาวุธปืนชนิดทำเองและไม่มีหมายเลขทะเบียนประจำอาวุธปืนอีกด้วย แม้จะไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน กับได้ให้การรับสารภาพมาโดยตลอด และหากจะฟังตามข้ออ้างของจำเลยว่าจำเลยเป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อยได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจนได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการพัฒนาหมู่บ้าน กรรมการวัด และผู้สื่อข่าวสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน กับต้องมีภาระเลี้ยงดูครอบครัว ถ้าจำเลยถูกจำคุก ครอบครัวของจำเลยจะได้รับความลำบากเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง ก็ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษให้จำเลย
เรื่องที่ผมเล่ามานี้ ศาลลงโทษปรับด้วยครับแต่จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่ สรุปโดนทั้งจำและปรับไม่รอลงอาญาครับ
