จากเว็ป bhuddawax ครับ
"พระพุทธรูปปางห้ามพระแก่นจันทร์ เป็นพระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถยืน ห้อยพระหัตถ์ขวาลงข้างพระวรกาย ฝ่าพระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นเสมออก และยื่นออกไปข้างหน้า เป็นกิริยาทรงห้าม
สำหรับประวัติความเป็นมานั้น ความว่า ตามคัมภีร์อรรถกถา หรือคัมภีร์ชั้นหลังพระไตรปิฎก กล่าวว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้า เสด็จจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น มีตำนานกล่าวว่า พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์แห่งนครสาวัตถี ทรงรำลึกถึงพระพุทธองค์มาก ด้วยความเคารพรักและศรัทธา จึงสั่งให้ช่างหลวง ทำพระพุทธรูปลักษณะ คล้ายองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยไม้แก่นจันทร์หอมอย่างดี ประดิษฐานไว้ในพระราชนิเวศน์ เพื่อสักการะบูชา
พระไม้แก่นจันทร์องค์นี้ ถือว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรกในพระพุทธศาสนา เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จกลับมา ได้ทราบความดังกล่าว จึงทรงตรัสห้าม รับสั่งให้ทำลายพระพุทธรูปองค์นั้น ซึ่งเป็นที่มาของ พระพุทธรูปปางห้ามแก่นจันทร์ ในปัจจุบัน"
หมายเหตุ : ชื่อไม้หอม ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิต สะกด จันทน์
ผมเคยอ่านข้อเขียนของท่านราชบัณฑิต เสฐียรพงษ์ วรรณปก ว่าตามตำนานเมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาถึง รูปสลักไม้นั้นลุกจากแท่นจะก้มลงกราบ พระพุทธองค์จึงทรงยกพระหัตถ์ซ้ายห้ามไว้ และรับสั่งว่า "ถ้าคิดถึงเรา อย่าสร้างรูปเคารพ จงปฏิบัติธรรมที่เราสอน"
คนที่ประกาศตัวว่าเป็นชาวพุทธห้อยพระ ปฏิบัติธรรมหรือไม่
เรื่องเครื่องรางของขลัง ตะกรุด ผ้ายันต์ เป็นเรื่องของกำลังใจ อาจจะใช้ได้ผลเหมือน GT200
แต่ "พระเครื่อง" ทั้งหลายนี้ ผู้สร้างทำผิดคำสอนของพระพุทธองค์

เพราะเหตุนี้แหละครับผมจึงไม่แขวนพระ ตะกรุด หรือเครื่องรางของขลังอะไรเลย เพราะผมเชื่อว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ไหว้พระพุทธรูป แต่สอนให้ปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์
(อันนี้ขออภัยหลายๆท่านนะครับ) เวลาผมเห็นคนไปกราบไหว้พระพรหมณ์ (เป็นต้น) ผมมันจะบ่นกับแม่ผมเสมอว่า คนไทยเดี๋ยวนี้งมงาย มีอะไรก็กราบไหว้ไปหมด มีแต่ขอนู่นขอนี่ให้ตัวเองประสบความสำเร็จบ้างล่ะ รวยบ้างล่ะ โดยที่มือเท้าไม่กระดิก (ชาตินี้คงรวย) และพระพรหมณ์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนาพุทธเลย ... และแล้วผมก็โดนแม่ผมดุให้ซะ
ถ้าไม่เหมาะสมผมน้อมรับคำติเตียน และพร้อมที่จะแก้ไขครับ
