http://www.thairath.co.th/content/region/65007โจ๋กรุงเก่า เพิ่มดีกรีโหด ปาหิน-ยิงปืนใส่ 2 สามี-ภรรยาธนาคารดัง พาครอบครัวทัวร์ไหว้เจ้า ตรุษจีน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนแม่ยาย-น้องเมีย-ลูก หลบทันปลอดภัย
เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 14 ก.พ. พ.ต.ท.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ สารวัตรเวร สภ.พระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณลานจอดรถหน้าวัดใหญ่ชัยมงคล ต.ไผ่ลิง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวส รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผู้กำกับการ สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รอง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.สุรพจน์ รอดบำรุง รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สภ.พระนครศรีอยุธยาและพ.ต.ท.นฤนาท พุทไธสงค์ รองผู้กำกับการกลุ่มงานสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณปากทางเข้าวัดใหญ่ชัยมงคลหน้าป้ายวัดที่พื้นพบปลอกกระสุนปืนจำนวน 17 ปลอกตกเกลื่อนถนนมีเศษกระจกรถยนต์กระจัดกระจายใกล้กันพบก้อนหิน 2 ก้อนห่างไปประมาณ 50 เมตรพบปลอกกระสุนชนิดเดียวกันจำนวน 3 ปลอกตกอยู่บนถนนสายวัดใหญ่ชัยมงคล-วัดพนัญเชิงวรวิหาร เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเดินทางไปที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ชส-8127 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลพบร่องรอยการถูกยิงที่กระจกประตูด้านคนขับจำนวน 3 รู ประตูด้านขวา จำนวน 2 รู ที่หลังคาจำนวน 2 รู ประตูด้านซ้าย 1 รูและด้านหน้าอีก 1 รู รวม 8 รู ที่กระจกด้านหน้าพบรอยถูกหินปาจำนวน 2 รูใหญ่เท่ากำปั้นแต่ไม่ทะลุติดฟิล์ม ภายในรถที่เบาะคนขับและเบาะนั่งคู่หน้าพบกองเลือดจำนวนมาก
สำหรับผู้บาดเจ็บเข้ารักษาตัวในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ทราบชื่อนายไพศาล เชิดวัฒนกิจ อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 1589/78 หมู่2 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ขวาและโหนกแก้มขวา นางสาวสุนีย์ พบหิรัญโสภณ อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 200/25 ถนนคลองด่าน แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ภรรยาถูกยิงเข้าที่บริเวณลำคอ อาการสาหัส และ นางสาวดวงใจ พบหิรัญโสภณ น้องสาวภรรยา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ซอยราชมงคลประสาธน์ 10 แยก 2 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม.
นายไพศาล กล่าวว่าตนและนางสาวสุนีย์ ภรรยาทำงานอยู่ที่ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ย่านสีลม แผนกสินเชื่อ เทศกาลตรุษจีนปีนี้ตนได้พาครอบครัวและญาติออกไหว้เจ้า ออกจาก กทม. ตั้งแต่ 4 ทุ่มไปไหว้เจ้าที่ พระพุทธบาท จ.สระบุรี เสร็จแล้วจึงเดินทางมาไหว้เจ้า ซำปอกง ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ไหว้เสร็จจึงเก็บของเดินทางกลับ กทม. ขับรถยนต์เก๋งออกจากวัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยมี นางสาวสุนีย์ ภรรยานั่งเบาะหน้า นางสาวดวงใจ น้องสาวภรรยา นางสุภาวรรณ พบหิรัญโสภณ อายุ 63 ปี แม่ยาย และน้องแบงค์ บุตร อายุ 4 ขวบนั่งเบาะหลัง ขณะนั้น ท้องฟ้ายังมืดไม่มีรถวิ่งและไม่ชินทางจึงวิ่งผิดทางวิ่ง เข้าไปในลานจอดรถหน้าวัดใหญ่ชัยมงคลพบป้ายวัดขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าจึงหยุดรถ จากนั้นมีเสียงดังที่กระจกหน้ารถ คล้ายถูกปาหินและได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จึงรีบกลับรถและวิ่งออกพอถึงปากทางมีรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิครุ่นเก่า จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ขับมาประกบยิงเสียงดังประมาณ10 กว่านัด กระสุนถูกตัวเองและภรรยาได้รับบาดเจ็บตนแข็งใจขับรถหนีแต่คนร้ายตามมายิงซ้ำ บนถนนอีกหลายนัดก่อนหลบหนีไป ตนจึงขับรถไปจอดที่ร้านค้าแล้วให้จักรยานยนต์รับจ้างนำไปโรงพยาบาลก่อนแจ้งตำรวจ ยืนยันว่า ตนไม่เคยมีเรื่องไม่ว่าที่ทำงานหรือที่บ้านหรือเรื่องผู้หญิงคาด ว่าคนร้ายต้องยิงคนผิดหรือเจอวัยรุ่นที่คึกคะนอง
ด้าน นางสุภาวรรณ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันตรุษจีนเป็นวันดีได้เดินทางไหว้เจ้าประจำทุกปี ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายกับครอบครัวขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ขณะเกิดเหตุไม่เห็นคนร้ายครั้งแรกได้ยินเสียงถูกปาหินจึงบอกให้นายไพศาลอย่าจอดรถวิ่งต่อไปเลยจากนั้น ได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัดตนและหลานจึงก้มลงจึงไม่ถูกกระสุน
พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รองผู้กำกับการ สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สันนิษฐานว่าขณะที่นายไพศาลขับรถพาครอบครัวกลับกทม.และไม่ชินทางอาจจะไปปาดหน้ารถวัยรุ่นแล้วไม่พอใจตามมายิงหรือจังหวะที่นายไพศาลขับรถผิดทางวิ่งเข้าไปในลานจอดรถไฟไปส่องพบกลุ่มวัยรุ่นหรือแก๊งยาเสพติด กำลังส่งของอยู่จึงโมโหใช้หินปากระจกรถแล้วขับรถเก๋งตามมายิงถล่ม เนื่องจากคิดว่าเป็นสายตำรวจเพราะคนร้ายไม่รู้ว่าในรถยนต์เก๋งมีกี่คน ทำให้ไม่ได้แตะต้องทรัพย์สิน
เราสุจริตชน พกก็กลัวไม่พกก็กลัว กลัวโจร กลัวประวัติเสีย กลัวปืนถูกยึด เเต่สุดท้ายเเล้วจากความคิดส่วนตัวนะครับผมว่ากฎหมายมีเอาใว้ให้สุจริตชนกลัวเเละปฎิบัติตาม เเต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องการให้กฎหมายมาช่วยกลับมาสายเป็นประจำ ผมไม่ได้ตำหนิใครเป็นพิเศษ เเต่ผมว่าระบบน่าจะช่วยสุจริตชนมากกว่านี้ ลองคิดดูขิครับ ถ้าท่านเป็นสุจริตชนเเล้วท่านบริสุทธิ์ใจ ต้องนำอาวุธไปด้วย เเต่ถูกกฎหมายลงโทษ อย่างเเรกท่านต้องมีเงินประกัน เสียประวัติ เสียเวลา เสียสุขถาพจิต เสียงาน เสียเงิน ท่านว่าระบบควรจะมีอะไรช่วยเราให้มากกว่านี้ใหม หรือถ้าท่านเป็นสุจริตชนเเต่ท่านไม่มีเงิน ไม่มีญาติประกันตัว ท่านจะเป็นยังไงกับระบบ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ผมว่าหลายท่านคงมีทางออกเเต่นั้นก็เป็นทางออกหรือทางเเก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือเฉพาะบุคคล เเต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะลอดไปได้ทุกครั้ง ผมก็ยังหวังว่าระบบที่ดี น่าจะมีอะไรที่ดีกว่านี้ ผมขอให้ครอบครัวที่ประสบถัยครั้งนี้ ขอให้ปลอดถัยทุกท่าน อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาทุกคน
