เจอเพื่อนอีกเว็บเค้าเล่าไว้เลยเอามาให้พี่ๆที่นี่อ่าน ระวังเอาไว้โจรมันมีกลโกงมาใหม่เรื่อยๆครับ
ที่มา
http://www.clubjz.net/forumdisplay.php?f=2&order=desc&page=2ผมมีเรื่องอยากให้เป็นอุธาหรณ์สำหรับประชาชนคนค้าขาย สมัยนี้ ที่นับวันพวกมิชฉาชีพจะมีกลยุทธ์ในการหลอกลวงคนตั้งใ จทำงานหาเลี้ยงชีพ มากมายยิ่งขึ้น
ผมเป็นพนักงานของร้านค้าเล็กๆที่เช่าห้องทำการค้า ซึ่งลักษณะอาคารเป็นชั้นเดียว มีจำนวนร้านประมาณ 10 ห้องตั้งอยู่ริมถนนมีรถสัญจรไปมาตลอด โดยห้องของผมเป็นห้องที่9 โดยมีร้านที่รับตัดเสื้อผ้า เป็นร้านที่1 และร้านทำฟันเป็นร้านที่3
เรื่องเกิดขึ้นเวลาประมาณ 11.52น ของวันที่ 1 มีนาคม 2553 มีโทรศัพท์หมายเลย 0-2427-2140 โทรเข้ามาที่ร้านซึ่งผมเป็นคนรับสาย
ผม: สวัสดีครับ ร้าน..... ครับ
มิชฉาชีพ: สวัสดีค่ะ นี่เป็นคุณหมอจากร้านหมอฟันข้างๆนะ มีเรื่องจะรบกวนค่ะ
ผม: ครับ มีอะไรครับ
มิชฉาชีพ: คุณมีลูกค้าอยู่หรือป่าว
ผม: ไม่มีครับ คุณมีอะไร
มิชฉาชีพ: พอดีมีเรื่องรบกวน จะให้สอบถามเบอร์ของร้านตัดเสื้อให้หน่อย
ผม: อ้าว ร้านข้างๆกัน ทำไมไม่ไปถามเอง
มิชฉาชีพ: วันนี้ร้านหยุด (ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด)
ผม: อ้าวเหรอ คุณจะเอาเบอร์ใช่ไหม รอสักครู่
ผมจึงเดินไปที่ร้านตัดเสื้อผ้า ที่เคยแต่ยิ้มให้กัน แต่ไม่เคยคุยกันแม้แต่ครั้งเดียว เช่นเดียวกับร้านหมอฟัน เนื่องจากเราต่างคนก็ต่างทำงาน เชกเช่นเพื่อนบ้านทั่วไปที่ยิ้มให้กัน แต่ไม่เคยคุยกัน
ผมเคาะประตูร้านเสื้อผ้า ซึ่งถูกล๊อคไว้
ผม: ขอโทษนะครับ คุณหมอร้านทำฟันเค้าโทรมาให้ผมมาขอเบอร์ร้านเสื้อของ พี่ครับ
ร้านเสื้อ: คุณหมอ? (แล้วเค้าก็หยิบนามบัตรของร้านให้ผม)
ผม: ผมก็ไม่ทราบว่าเค้าขอทำไม
ร้านเสื้อ: ไม่เป็นไรน้องเก็บไว้เลยแล้วกัน
ระหว่างที่เดินกลับ ก็คิดว่าทำไมไม่โทรมาเอง แต่ก็ได้แต่สงสัยแบบ งงๆ แล้วผมก็เดินกลับมาที่ร้าน
ผม: ฮัลโหล
มิจชาฉีพ: ได้เบอร์มาไหม?
ผม: เบอร์xx-xxxx-xxxx
มิจชาฉีพ: แล้วบอกเค้าว่าอะไร(ด้วยน้ำเสียงแข็ง)
ผม: คุณจะเอาเบอร์ไม่ใช่เหรอ? (ผมคิดในใจว่า ทำไมหมอคนนี้ไม่มีมารยาทเลย)
มิจชาฉีพ: ตกลงบอกเค้าว่าหมอขอเบอร์หรือป่าว?
ผม: (ด้วยความหงุดหงิดผมเลยตอบไปว่า) ไม่ได้บอก เดี๋ยวผมเดินไปบอกให้
มิจชาฉีพ: (ไม่พูดอะไร วางสายไป)
และแล้วก็ผ่านมาวันที่ 2 มีค 2553 ประมาณเที่ยง
เจ้าของร้านเสื้อเดินมาที่ร้านด้วยสีหน้ากังวล แล้วถามเราว่า
ร้านเสื้อผ้า: เมื่อวานนี้หมอฟันเป็นคนโทรมาใช่ไหม?
ผม: ใช่ เค้าบอกให้ผมเดินไปขอเบอร์ ผมยังพูดเลยว่าหมอฟันให้มาขอเบอร์
ร้านเสื้อผ้า: เค้าบอกว่าไม่มี เค้าไม่ได้โทร
ผม:

ก็เค้าบอกว่าเป็นหมอฟันน่ะ
แล้วผมก็เล่าให้เค้าฟังว่า คำสนทนาเป็นเช่นไร หลังจากนั้นเราก็เดินไปที่ร้านเสื้อผ้า เพื่อพบหมอฟันคนดัวกล่าว
หมอฟัน: ไม่มีนะ ไม่ได้โทร เบอร์ที่ร้านยังไม่มีเลย เบอร์ร้าน(ของผม) ก็ไม่มี
ร้านเสื้อผ้า: ก็เค้าโทรมาบอกว่า
บทสนทนาระหว่าง ร้านเสื้อผ้า กับ มิจฉาชีพ
มิจชาฉีพ: ฮัลโหล นี่หมอฟันน่ะคะ ไม่ทราบว่าเรียนสายกับใคร
ร้านเสื้อผ้า: พี่....เองค่ะ
มิจชาฉีพ: มีเรื่องจะรบกวนคะ พอดีลูกค้าลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่ร้าน แล้วพอดีว่าแม่เค้าล้ม ต้องพาไป รพ ทำให้ต้องรีบใช้เงินด่วน
ร้านเสื้อผ้า: ค่ะ
มิจชาฉีพ: หมออยากจะขอยืมเงินสัก 5000 บาทให้เค้าไปก่อน แล้วพรุ่งนี้หมอเปิดร้านแล้วจะรีบใช้ให้
ร้านเสื้อผ้า: แล้วหมออยู่ที่ไหนค่ะ
มิจฉาชีพ: หมออยู่ข้างนอกค่ะ ไม่สะดวก ตอนนี้เค้ารออยู่ ยังไงจะให้เข้าไปเอาน่ะค่ะ
ร้านเสื้อผ้า: ค่ะ (ตอบด้วยอาการสงสัย แบบ งงๆ)
จากนั้นก็มีคนเดินมารับเงิน โดยร้านเสื้อผ้าก็ยื่นเงินให้ และไม่ได้เซ็นเอกสารอะไร เพราะต่างก็เชื่อใจว่า ร้านข้างๆกัน ไม่น่ามีอะไร
และแล้วมิจชาฉีพก็จากไปพร้อมเงิน 5000 บาท
หลังจากที่ได้พูดคุยกับหมอฟัน เค้าก็บอกว่าตัวเค้าไม่ได้โทรอะไร แล้วปกติ เค้าก็รู้จักชื่อพี่ร้านเสื้อผ้าอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกัน เป็นเพื่อนบ้านกันตามปกติ และเค้าก็ไม่ได้มีเบอร์โทรร้านแสดงด้านหน้าด้วย ซึ่งแตกต่างจากร้านของผมที่มีเบอร์ชัดเจน แสดงให้เห็น พี่ร้านเสื้อผ้า ก็รีบไปแจ้งความและมีหลักฐานเป็นเบอร์โทรศัพท์ซึ่งคิ ดว่าน่าจะเป็นตู้สาธารณะ ที่เป็นหลักฐานเพียงชิ้นเดียว
สรุป มิจชาฉีพ ใช้ความสัมพันธ์แบบยุคสมัยใหม่เป็นเครื่องมือ พร้อมๆกับจิตวิทยาอ่อนๆ ในการพูดคุย ที่อยู่บนพื้นฐานของความเชื่อใจของคนสุจริตที่ทำงานห าเงินเป็นตัวตั้ง และลวงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ