เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 18, 2025, 09:53:28 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มหิดลวิทยานุสรณ์ หรือ เตรียมอุดม ถ้าเลือกได้ท่านเลือกที่ไหน  (อ่าน 53981 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #30 เมื่อ: มีนาคม 14, 2010, 10:10:23 AM »

เตรียมฯมีเฉพาะมัธยมปลาย และมีเด็กจำนวนมาก บรรยากาศการเรียนเป็นการแข่งขันสูง เด็กต้องพึ่งพาตัวเองมาก
การศึกษาร่วมกันก็เป็นการรวมกลุ่ม เด็กแข่งในกลุ่มกันเอง กลุ่มก็แข่งระหว่างกลุ่ม
เด็กมัธยมต้นจากโรงเรียนเดิมที่เคยได้เกรด4เต็มทุกวิชามาตลอด ก็อาจเจอเกรดตก ทำให้เครียด
เด็กจะต้องปรับตัวรับกับสภาวะการแข่งขัน

ขณะที่เด็กที่เรียนโรงเรียนมัธยมปกติ บางโรงเรียนอาจมีการจัดห้องกลุ่มเป้าหมาย อาจมีห้องGifted
ซึ่งจะได้รับการดูแลแบบ"ป้อนให้" เป็นบรรยากาศที่ต่างไปจากการเรียนที่เตรียมฯ

พอเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าเป็นคณะที่เรียนแบบแข่งขัน เช่นวิศว
เด็กเตรียมฯ (และโรงเรียนดัง) จะมีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง การจับกลุ่มศึกษาร่วมกัน เพราะคุ้น ปรับตัวมาก่อน
ขณะที่เด็กสร้าง อาจเอ๋อไปเลย ในเทอมแรก ปีแรก ต้องมาเครียดในการปรับตัวในช่วงนี้

แต่ถ้าเป็นคณะที่เรียนแบบผลสัมฤทธิ์ เช่นแพทย์
อาจต้องมีกิจกรรมละลายพฤติกรรม ให้เด็กที่เรียนแบบไม่เอาใคร กั๊กความรู้ ไม่แบ่งปัน ให้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการศึกษาร่วมกัน
เด็กเตรียมฯอาจกลับต้องปรับตัวบ้าง

มุมมองในเรื่องเหล่านี้ ขึ้นกับพื้นฐานที่มา ไม่อาจชี้ถูกชี้ผิด
เด็กบางคนมีโอกาสเข้าค่าย"เคี่ยว" เพื่อคัดไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ หรืออื่นๆ  ยิ่งต้องทุ่มเท
ผู้ปกครองบางคนให้ลูกเข้าร่วมค่าย แต่ไม่ผลักกดดันว่าต้องไปถึงขั้นใด
เด็กเพียงได้สัมพันธภาพกับกลุ่มหัวกระทิด้วยกัน หวังว่าเด็กเหล่านี้จะเกื้อกูลกันในระดับ"นำ" ในชีวิตข้างหน้าก็พอแล้ว
แต่ผู้ปกครองบางรายก็เครียด ตามการถืออัตตาของ"เกียรติภูมิ"

ถือเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมอง คนมีลูกวัยรุ่นวัยเรียน นะครับ  ไหว้
 
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #31 เมื่อ: มีนาคม 14, 2010, 09:14:29 PM »

เรื่องนี้ยังไม่จบอีกหรือครับเฮีย Grin
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #32 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 11:10:15 AM »

เรื่องนี้ยังไม่จบอีกหรือครับเฮีย Grin

ยังไม่จบครับพี่  ขออนุญาตขอบคุณพี่ ๆ และเพื่อนสมาชิกก่อนนะครับ..แล้วค่อยจบ

อีกอย่างคือผมไม่เคยไปคุยในเวปอื่นเลย  นอกจากเวปนี้เท่านั้น  ซึ่งก็ได้รับการแนะนำที่ดีตลอดมา

ขอต่ออีกหน่อยนะครับ  เผอิญไม่ได้เข้าเวปมา 2 วัน  ไหว้
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #33 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 11:14:12 AM »

ถ้าเป็นสายวิทย์  ขณะนี้  ผมเลือก มหิดลฯ ครับ


ยินดีด้วยครับพี่ น้องเก่งจัง

ยินดีล่วงหน้าครับพี่...

ยินดีด้วยค่ะเฮียไซ...ลูกชายเฮียเยี่ยมมาก... เยี่ยม

ขอบคุณน้องโอม น้องซับ น้องโอ๊ค และ หนูเปิ้ล ด้วยนะครับ   ไหว้

ความเก่งไม่สำคัญ  ที่สำคัญต้องเป็นคนดี มีคุณธรรม ตอบแทนสังคม และ แผ่นดิน
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #34 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 11:21:36 AM »

ถ้าเลือกได้... ผมขอเลือกมหิดลฯ ให้ลูกครับ... ถ้าลูกชอบสายวิทย์นะครับ... เพราะมีเส้นทางต่อเนื่องไปไกลครับ...



ยินดีด้วยนะครับ  แต่อยากถามพี่นิดหนึ่งครับว่า  ช่วง ม.ต้น เรียนที่ไหนครับ

_/|\_ ขอบคุณมากครับ
ผมยังไม่มีลูกเลยยังไม่มีปัญหาแบบนี้

คุณพ่อคุณแม่ กับคุณลูก ไปดูทั้ง 2 โรงเรียนด้วยกัน
สุดท้าย ชอบที่ไหน ก็ไปที่นั่นครับ

ถ้าเด็ก ม.ต้น สมัยผมก็มีเป้าหมาย ม.ปลาย อยู่ที่ เตรียมอุดม ครับ สมัยนี้คงมีโรงเรียนดีๆเยอะขึ้น
ทางเลือกก็คงมากขึ้นไปด้วย เด็กเดี๋ยวนี้ โชคดี นะครับ มีทางให้เลือกเยอะดีครับ

ยินดีด้วยครับผม

ขอบคุณ..คุณjungle คุณ11mmman (ตอบไปแล้วนะครับ ) คุณcybernop ครับ
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #35 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 11:28:39 AM »

...ยินดีกับคุณไพโรจน์ด้วยครับ  ปัญหาแบบนี้ถือว่าเป็นที่อิจฉาของผู้ปกครองหลายพันหลายหมื่่นคน  คิก คิก

...โรงเรียนมหิดลฯ เคยพาลูกชายไปพักที่หอพักโรงเรียนตอนสอบเข้า MUIC (ใช้สิทธิของหลานที่เป็นนักเรียน)  อาคารสถานที่ครบครันสมบูรณ์มากครับ เด็กได้รับการอบรมดีมาก มารยาทดี  โรงอาหารสะอาดมาก  อาหารราคาไม่แพง+คุณภาพดี  หาที่เรียนดีกว่านี้ยากแล้วครับ  ถ้าจะเรียนที่นี่ก็น่าสนับสนุน  อยู่ประจำก็ไม่เป็นไร  เพราะได้กลับบ้านทุกสุดสัปดาห์  (บ้านก็ถือว่าอยู่ไม่ไกลโรงเรียน)

...ผมจบเตรียมอุดมฯ นะครับ  แต่ไม่มีข้อมูลว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร

...หาข้อมูลเยอะๆ และควรให้เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างผู้ปกครองและเด็กครับ  หลงรัก

                ขอบคุณครับพี่แก้ว   ไหว้      ผมพยายามหาข้อมูลแล้วบอกให้เขาทราบ  ส่วนการตัดสินใจคงต้องขึ้นอยู่กับตัวเขา 

  จะได้ไม่โดนลูกมาโทษในภายหลังว่าเขาเรียนที่โน่น ที่นี่ ก็เพื่อพ่อแม่ โดยที่เขาไม่ได้ชอบเลย   ฟังดูแล้วเป็นเรื่องน่าเศร้า ซึ่งเห็นกันมามากแล้ว
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #36 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 11:32:00 AM »

ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับพี่ไพโรจน์ครับ... ไหว้

หลานเก่งมากครับ... เยี่ยม

สอบเข้ามหิดลฯผมว่ายากกว่าเตรียมฯอีกมังครับ...

ความเห็นผมเหมือนพี่ธำรงครับ...

ถ้าหากหลานอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์หรืออาจารย์มหาวิทยาลัย...

เลือกมหิดลฯไปเลย...

แต่หากอยากเลือกสายวิทย์อาชีพไปเตรียมฯครับ...

แนะนำในฐานะศิษย์เก่าเตรียมฯ แต่จบม.มหิดลครับ... Cheesy

ขอบพระคุณครับคุณหมอ   ไหว้  ขอโทษด้วยนะครับที่โทรไปกวนตอนรักษาคนไข้อยู๋ 
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #37 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 11:39:44 AM »

ลูกของคุณไพโรจน์เก่งมากเลยครับ

ถ้าเขาอยากเรียนต่อ Pure science ไม่ว่าจะเป็นด้าน ฟิสิกส์ เคมี หรือชีวะ  ทั้งนี้โยงไปถึง ฟิสิกส์ประยุกต์เช่น วิศวกรรมศาสตร์ ก็โอเคครับ  แต่หากลูกอยากเป็นหมอ ที่นี่ไม่เหมาะนักครับ

ต้นปีการศึกษา 2552 ผู้ปกครองนักเรียนที่จบ ม.6 จาก รร.มหิดลฯ หลายรายบ่นว่าเด็กสอบติดแพทยศาสตร์เทียบ % กับจำนวนนักเรียนที่จบแล้วต่ำกว่าเตรียมอุดมศึกษา พญาไท  แบบทิ้งขาด ซึ่งทางโรงเรียนมหิดล ฯ ตอบว่า แพทยศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์  มิใช่วัตถุประสงค์หลักของการผลิตนักเรียนของ รร.มหิดล ฯ เพราะ รร.มหิดล ฯ ต้องการผลิตนักเรียนให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติ

ขอบพระคุณครับพี่birdwhistle   เป็นความเห็น และ ข้อมูลที่ดีมากครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #38 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 11:51:50 AM »

ผมและลูกชายเคยเรียนแต่ที่โรงเรียนบ้านนอกไม่มีประสพการณ์ของทั้งสองโรงเรียนนี้เลย อย่างไรก็แล้วแต่ขอแสดงความยินดีด้วยครับ.... ไหว้

                 ยินดีด้วยครับเฮีย  .....  เป็นผมถ้าลูกรักเรียนไฝ่จะตามใจลูกครับ


ดูจากเวลาที่โพสท์  ต้อง 'ดม ครับ Grin

ขอบคุณพี่ Middle    ขอบคุณเฮียปู (มากรุงเทพฯโทรบอกด้วยนะครับ )    ขอบคุณเฮียกล็อค (สงกรานต์เจอกันครับ )
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #39 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 12:41:55 PM »

ถ้าเลือกมหิดล แนวทางการเรียนจะลู่ไปในทาง วิทยาศาสตร์เสียมากกว่าครับ ถ้าชอบวิทย์นี่แนะนำเลย
แต่ถ้าเลือกเตรียมอุดม มันจะไปได้หลากหลายครับ เพราะแนวทางการเรียนเหมือนโรงเรียนมัธยมทั่วไป
เช่น สวนกุหลาบ บดินทรเดชา สตรีวิทยา อะไรพวกนี้ครับ แต่สิ่งที่ต่างจากโรงเรียนที่กล่าวมาคือ ทั้งเตรียมอุดมและมหิดล ไม่มี ม.ต้น ^^



ผมเรียนบดินทรเดชา ก็สนุกดีมันหลากหลาย ผมก็ไม่รู้ว่าบรรยากาศในการเรียนที่มหิดล มันต่างจากเตรียมอุดม หรือบดินทรเดชา อย่างไร
เพราะยังไม่เคยได้มีโอกาสเข้าไปเีรียน (หัวไม่ถึง) แหะๆ

ขอบคุณน้องpolizehero ครับ  เคยคิดจะแซวน้องว่า " ต.ว.พ่อ บ.ด. " เพื่อแกล้งให้โกรธเล่น ๆ สักหน่อย   คิก คิก

( ต.ว.หมายถึง ไตรมิตรวิทยาลัย ก็คือที่ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำสุโขทัยไตรมิตร )
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #40 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 01:41:59 PM »

ขออนุญาตร่วมแจมครับ


รุ่นปีที่แล้ว   การสอบเข้า mwit (มหิดลวิทยานุสรณ์)ได้คัดเลือกรอบแรกจากผู้สมัครสอบทั่วประเทศประมาณ 20,000 คน  โดยคัดเลือกรอบแรกเหลือเพียง 500 คน    และสอบคัดเลือกอีกครั้งเป็นรอบที่สอง   เหลือตัวจริงเพียง 250 คน  และสำรองอีกประมาณ 100 คน

ปีที่ผ่านมานั้น  มีนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกรอบที่สอง 250 คนนั้น   สละสิทธิ์ไม่มามอบตัวเซ็นสัญญาประมาณ 90 คน    ต้องเรียกจากตัวสำรองขึ้นมาแทน      โดยนักเรียนที่สละสิทธิ์นั้นต่างก็เข้าไปเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมฯ พญาไท    และโรงเรียนเดิมที่เรียนอยู่คือ สาธิตปทุมวันและสวนกุหลาบ     (เด็กห้อง gift เลขฯของเตรียมฯ  เป็นเด็กที่สละสิทธิ์จาก mwit เกือบทั้งห้อง    32 คนในจำนวนนักเรียน 42 คน   และไปอยู่ที่ห้องวิทย์คอมพ์และห้องอื่นๆอีก)

ปีที่ผ่านมานั้น  มีนักเรียนสมัครสอบเข้าเตรียมอุดมฯประมาณ 9000 กว่าคน  คัดเลือกเข้าเรียนเพียง 750 คน    ส่วนหนึ่งได้สละสิทธิ์กลับไปเรียนที่โรงเรียนเดิมคือ  สาธิตปทุมวันและ สวนกุหลาบ   และไปเรียนที่ mwit ด้วยเช่นกัน    ปีที่ผ่านมานักเรียนที่สอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมฯพญาไท  ที่สอบเข้าได้เป็นที่ 1 นั้น  ได้ไปมอบตัวกับ mwit   ไม่เรียนที่เตรียมอุดมฯ     (ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเดียวกัน   พวกเด็กเทพ   เก่งเลือกได้)

ความเห็นโดยส่วนตัวของผม   ณ.วันนี้  mwit มีความพร้อมมากกว่าเตรียมอุดมฯมากครับ    ทางด้านวิชาการของ mwit มีอาจารย์ใหม่ๆที่เก่งและไฟแรง     การเรียนการสอนมีการติวเข้มและดูแลอย่างใกล้ชิด      มีกิจกรรมกีฬาอย่างเป็นระบบ

  แต่ที่เตรียมอุดมฯในปัจจุบัน    อาจารย์จะไม่มีเวลามาดูแล     และในหลายๆวิชาที่เป็นอาจารย์เพิ่งจบมาใหม่ๆ     การเรียนการสอนยังไม่เข้มข้น      นักเรียนจึงต้องเรียนพิเศษกวดวิชาและเรียนกับติวเตอร์มากกว่าเรียนในชั้นเรียน        ต้องช่วยเหลือตัวเองมากๆ      เกรดการเรียนหากตกลงจากเดิม   ก็ไม่มีอาจารย์ดูแลให้     ต่างกับ mwit  ที่อาจารย์จะเรียกนักเรียนไปเคี่ยวเข้มและซ่อมให้ได้คะแนนดีขึ้น

ผมเคยได้ฟังจากนักเรียนชั้น ม.4 ของทั้งสองแห่ง    เด็กๆจะมีความรู้สึกคนละแบบกันครับ   

     ( ที่แสดงความคิดมานั้นไม่ใช่เตรียมอุดมฯไม่ดีนะครับ    เจ้านายใหญ่ของผมก็เตรียมฯรุ่น 35   เจ้านายน้อยทั้งสองคนก็เตรียมฯรุ่น 70 และรุ่น 72      ........ฮา        โดยเฉพาะเจ้านายน้อยคนเล็กก็เป็นตัวจริงของ mwit ครับ    แต่กลับเลือกพระเกี้ยว  )

     ในปัจจุบัน  mwit   มีโควต้ารับตรงเข้ามหิดลครับ   และมีโควต้าของโครงการแพทย์ชนบทจุฬาฯ     (และในรุ่นปัจจุบันมีการเปิดสอน TOEFL ให้ด้วย)   เป็นข้อมูลจากนักเรียนที่เรียนที่ mwit ครับ      และในการสอบ กสพท.ปีนี้   นักเรียน mwit สอบติดแพทย์ได้มากมายเลยทีเดียวครับ



ผมคิดว่าลองให้มีการสอบที่เตรียมฯผ่านพ้นไปก่อน     แล้วท่านไพโรจน์ลองฟังความเห็นของลูกดูสักนิดครับว่า   ชอบที่จะเรียนที่ใด?    และมีเพื่อนสอบติด mwit ด้วยกันหรือไม่?   หรือสอบติดที่เตรียมฯกันมากน้อยเพียงใด?    ค่อยพิจารณาตัดสินใจอีกครั้งครับ.

ขอแสดงความยินดีกับท่านไพโรจน์ด้วยครับ    เยี่ยม หลงรัก

           ขอบคุณเฮียบุ๊ง ( ขออภัยที่เรียกเสียสนิทสนมทั้ง ๆ ที่ไม่เคยพบตัวจริง  คิก คิก  เห็นแต่รูป )ที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาให้ข้่อมูลอย่างละเอียดกับผม

           ข้อมูลของปีนี้นะครับ ( ผมฟังจากภรรยา และ ลูกผมนะครับ )  สมัครทั่วประเทศประมาณ 24000 คน  คัดรอบแรกผ่านเข้ามา 506 คน   คัดรอบสองเหลือ 240 คน  ที่เหลือเป็นตัวสำรองเรียงตามคะแนนสูงสุดไปหาต่ำสุด  เป็นเด็กกรุงเทพฯประมาณ 160 คน เด็กต่างจังหวัดประมาณ 80 คน

            ข้อมูลของเด็กบดินทรเดชาที่ผ่านรอบแรกคือ 34 คน ผ่านรอบสองเป็นตัวจริงคือ 13 คน ส่วนใหญ่เด็กกิฟเต็ดเลข  ที่เหลือติดประปรายห้องละ 1 คน   เด็กกิฟเต็ดวิทย์ และ ห้องคิงส์ ไม่ผ่านรอบสองตัวจริงสักคน  ที่สอบติดมหิดลวิทยานุสรณ์มากที่สุดก็คือ สาธิตปทุมวัน และ สวนกุหลาบ ผ่านเข้ามาโรงเรียนละ 60 คน ( ผมไม่แน่ใจว่ารอบแรก หรือ รอบสองนะครับ )

             ผมจะนำข้อมูลที่เฮียชี้แจงให้ผมทราบ ไปบอกลูกเพื่อการตัดสินใจครับ  ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ

   
บันทึกการเข้า

ART
ชีวิตคิดบวก แล้วจะ Happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 552
ออฟไลน์

กระทู้: 10810



« ตอบ #41 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 01:47:14 PM »

เป็นผม แนะนำคุณลูกเรียน มหิดล ครับ  ผมจบเตรียม อุดมฯ รู้อะไรดีมาเยอะจากประสบการณ์ตรงนะครับ คิก คิก
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #42 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 02:36:04 PM »

ถ้าเป็นลูกนายสมชายอายุยังไม่มาก แค่เด็ก ม.4 ยังไม่อยากให้ไปเรียนโรงเรียนประจำครับ... เด็กวัยรุ่นยังต้องเรียนรู้เรื่องราวใส่ประสบการณ์ตัวเองอีกมาก โดยเฉพาะเรื่องวิธีคิด(ไม่ใช่"ความเห็น"ที่เป็นผลลัพธ์ของการคิด)...

เด็กวัยนี้ นายสมชายไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้น ไม่ว่าทั้งเพื่อน ครู ผู้คนรอบข้างครับ... คืออยากเห็นเขาเจริญเติบโตทางความคิด การเล่นกับตรรกะ และเรื่องการควบคุมอารมณ์ต่อสิ่งยั่วยุทั้งหลายแหล่ สรุปคืออยากสอนเองครับ...

การไปเรียนไกลบ้านน่าจะเป็นช่วงเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้ว ซึ่งในขณะนั้นพรรคพวกเพื่อนฝูงจะถูกกรองไปแล้วด้วยว่าถ้าเพื่อนไม่เจ๋งจริงก็จะไม่ได้เข้ามหาลัยเดียวกัน... ตรงนั้นน่าไว้ใจมากกว่า"เด็กมัธยม"+ครูผู้ปกครองครับ...

เรื่องวิชาการที่ไหนแข็งหรือไม่แข็ง นายสมชายว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะตัวนายสมชายและคนที่รู้จักทุกคนที่เรียนหนังสือดี ต่างมีประสบการณ์ตรงกันว่า"บรรยากาศเพื่อนร่วมชั้นเรียน"มีผลมากกว่าความสามารถของครูมัธยมครับ... โดยทุกคนรอบข้างนายสมชายที่เรียนหนังสือได้ดีจะอ่านหนังสือได้เร็ว+จับประเด็นได้เร็ว ทั้งสิ้น โดยความสามารถส่วนนี้เกิดจาก"การเล่นกับตรรกะ"ซึ่งเกิดจากการสนทนากับผู้คนที่จับประเด็นได้เร็ว(แยกประเด็นได้เร็ว)เป็นประจำครับ...

สำหรับสองโรงเรียนตามกระทู้... นายสมชายว่าที่ไหนก็ได้ หากไม่ใช่เตรียมอุดมก็ได้ แต่ขออย่าให้เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านร้ายๆเป็นพอครับ...
หากเป็นลูกนายสมชายและ"สอนได้"จะให้สอบเข้านิติศาสตร์ที่ไหนก็ได้ และหากสอบไม่ได้จะให้เรียนรามฯ ครับ... แล้วให้แม่มันสอนหนังสือลูกเรียนกฎหมาย... ฮา...

ผมเห็นด้วยกับพี่สมชายครับ โดยเฉพาะส่วนที่เน้นไว้

ผมว่าบรรยากาศ ทางบ้านก็สำคัญมากๆ ครับ พ่อแม่ควรสนใจถามไถ่เรื่องวิชาการและสนับสนุนจริงด้วย

ไม่ใช่ว่าสนับสนุนเรื่องการเรียนเต็มที่คือแค่บอกให้เรียน จ่ายค่าเทอม มีคนรู้จักกันบอกว่าตอนเด็กๆ นั่งทำการบ้านที่สนามกอล์ฟรอพ่อ...

พ่อแม่อาจไม่ต้องมีวิชาการมากสอยลูกเพิ่มเติมได้ แต่ก็ควรพูดคุยต่อยอดไว้ สอนไม่ได้ก็ถามลูก สร้างประเด็นข้อสงสัย ให้ลูกสอน จะช่วยพัฒนาวิชาการให้ได้เหมือนกัน

ถ้าเด็กรักเรียนแล้ว ปริมาณในห้องไม่สำคัญเท่าคุณภาพครับ ผมเห็นญาติพวกเรียนเก่งได้ทุนถึงเอก มาเป็น อ. หรือทำราชการที่อื่นเป็นสิบคน ไม่เห็นเรียนพิเศษสักคน

อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ที่สุดแล้วก็แต่ตัวน้องเขาเองครับ มีความตั้งใจอยากเรียน/ทำงานอะไรตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลยหรือไม่? จริงๆ อยากเรียนที่ไหน?

ผมเห็นด้วยกับความเห็นของพี่สมชาย กับ คุณต๊อกครับ

ขอคุยเรื่องเรียนพิเศษหน่อย  

           ในช่วง ป.6 ของลูกชายของผมคนนี้  เรียนโรงแรียนแม่พระฟาติมาซึ่งเป็นโรงเรียนดีทีเดียวในย่านดินแดงนี้  ลูกชายสอบได้ที่ 1 ของทั้งชั้นปีมาตลอด ( ไม่ได้เฉพาะในห้องเรียนเท่านั้นนะครับ )  พอถึงเวลาก็ลองไปสอบปรีเทสที่สาธิตปทุมวัน  คนสมัครประมาณ 4000 กว่าคน  ลูกชายได้อันดับประมาณ 2400    ผมตกใจมาก  เขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องเลย  ไม่ได้เรียนมา    

             ผมจึงถึงบางอ้อว่า การเรียนพิเศษสำคัญ เพราะข้อสอบส่วนใหญ่ออกเกินความรู้ที่เด็กมีอยู่  สอบเข้า ม.1 ก็ไปเอาความรู้ในชั้น ม.1 มาถาม    สอบเข้า ม.4  ก็ไปเอาความรู้ของชั้น ม.4-5 มาถามซึ่งยังไม่เคยเรียนเลย  แต่ในการเรียนพิเศษจะมีการสอนพวกนี้   การเรียนพิเศษก็เพื่อให้ได้มีโอกาสสอบเข้าสถาบันที่ต้องการได้มากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง  ไม่ได้หมายถึงว่าเขามีสมองเลิศเลอกว่าเด็กคนอื่น  พ่อแม่ที่ทุนทรัพย์น้อย ลูกก็เสียเปรียบผู้อื่น    ทำยังไงได้ในเมื่อสังคมมันเป็นแบบนี้    

              ผมเคยรู้สึกทุเรศข่าวที่ว่าพ่อแม่ต้องไปนั่งจองคิวตั้งแต่เที่ยงคืนแถวสยามกับสถาบันกวดวิชาที่ดัง ๆ ( เขาจำกัดจำนวนเด็ก  ตามจำนวนที่เขาสามารถสอนได้ ยุติธรรมในการจองคิว เมื่อที่นั่งเต็มจะอดเรียนทันที )   สุดท้ายเราก็ต้องทำทุเรศแบบที่เราเคยคิดเพื่อให้ลูกเราได้เรียน    ถ้าไม่ไปเข้าคิวด้วยตัวเองต้องจ้างคนไปเข้าคิวแทน  เขาจะคิดค่าแรง 1000 บาท

              ลูกชายผมยืนยันว่าในตอนนั้นการเรียนพิเศษมีผลในการสอบเข้าบดินทรเดชาเป็นอย่างมาก  เพราะมีแนวข้อสอบคล้าย ๆ ที่เรียนพิเศษอยู่หลายข้อ  ทำให้เขาทำข้อสอบได้  ซึ่งในการสอบนั้นเพียง 1 คะแนนก็มีผลกับการสอบติด หรือ ไม่ติดได้เลยทีเดียว   ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ก็เพราะความรู้ที่มีเกินกว่าในชั้นปีที่เรียนอยู่จึงทำให้เขาสอบได้   

              อีกไม่นานจะได้เป็นพ่อคน  ขอให้โชคดี น้องต๊อกของพี่   คิก คิก

             
บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #43 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 02:47:08 PM »



บอกลูกนะครับว่า......เรียนหมอมันเหนื่อยนะลูก..........
บางทีเด็กเรียนดีมักถูกเพื่อน พ่อแม่ ญาติ ... จูงให้ไปเรียนแพทย์
เดี๋ยวนี้คณะแพทย์หลายที่จัดค่าย ให้เด็กที่อยากเรียนแพทย์ไปสัมผัสชีวิตจริง เป็นข้อมูลไว้ก่อน

ไม่อยากให้เริ่มด้วยความคาดหวังไปถึงการเข้าโดยโควต้า ... มันเป็นความกดดัน
เด็กเก่งจะไปโดนเคี่ยวกับพวกเก่งด้วยกัน ระหว่างพวกเก่ง ก็ยังต้องไปเจอว่า จะเก่งหัว เก่งกลาง หรือเก่งท้าย
ความเครียดจากการแข่งขัน ต้องอาศัยพ่อแม่ช่วยสังเกตุ ช่วยแนะนำ ผ่อนคลาย

เด็กบางคน เลือกจะเป็นหัวหมา ไม่เป็นหางราชสีห์ อยู่โรงเรียนเดิม ก็ได้รับการดูแลอย่างดีเพราะโรงเรียนหวังให้สร้างชื่อ
เด็กเก่งจะเรียนแพทย์ ยังต้องพยายามคลายว่า แพทย์ที่ไหนก็ได้ ..... บางคนเรียนดีมาก แต่อาจไม่ได้แพทย์ลำดับต้นๆที่คาดหวัง
ความเครียดของเด็กเก่ง คือการไปเจอคนที่เก่งกว่า ..... ตรงนี้ต้องดูแลมากกว่าพวกเรียนตกๆหล่นๆครับ


เตรียมฯมีเฉพาะมัธยมปลาย และมีเด็กจำนวนมาก บรรยากาศการเรียนเป็นการแข่งขันสูง เด็กต้องพึ่งพาตัวเองมาก
การศึกษาร่วมกันก็เป็นการรวมกลุ่ม เด็กแข่งในกลุ่มกันเอง กลุ่มก็แข่งระหว่างกลุ่ม
เด็กมัธยมต้นจากโรงเรียนเดิมที่เคยได้เกรด4เต็มทุกวิชามาตลอด ก็อาจเจอเกรดตก ทำให้เครียด
เด็กจะต้องปรับตัวรับกับสภาวะการแข่งขัน

ขณะที่เด็กที่เรียนโรงเรียนมัธยมปกติ บางโรงเรียนอาจมีการจัดห้องกลุ่มเป้าหมาย อาจมีห้องGifted
ซึ่งจะได้รับการดูแลแบบ"ป้อนให้" เป็นบรรยากาศที่ต่างไปจากการเรียนที่เตรียมฯ

พอเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าเป็นคณะที่เรียนแบบแข่งขัน เช่นวิศว
เด็กเตรียมฯ (และโรงเรียนดัง) จะมีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง การจับกลุ่มศึกษาร่วมกัน เพราะคุ้น ปรับตัวมาก่อน
ขณะที่เด็กสร้าง อาจเอ๋อไปเลย ในเทอมแรก ปีแรก ต้องมาเครียดในการปรับตัวในช่วงนี้

แต่ถ้าเป็นคณะที่เรียนแบบผลสัมฤทธิ์ เช่นแพทย์
อาจต้องมีกิจกรรมละลายพฤติกรรม ให้เด็กที่เรียนแบบไม่เอาใคร กั๊กความรู้ ไม่แบ่งปัน ให้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการศึกษาร่วมกัน
เด็กเตรียมฯอาจกลับต้องปรับตัวบ้าง

มุมมองในเรื่องเหล่านี้ ขึ้นกับพื้นฐานที่มา ไม่อาจชี้ถูกชี้ผิด
เด็กบางคนมีโอกาสเข้าค่าย"เคี่ยว" เพื่อคัดไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ หรืออื่นๆ  ยิ่งต้องทุ่มเท
ผู้ปกครองบางคนให้ลูกเข้าร่วมค่าย แต่ไม่ผลักกดดันว่าต้องไปถึงขั้นใด
เด็กเพียงได้สัมพันธภาพกับกลุ่มหัวกระทิด้วยกัน หวังว่าเด็กเหล่านี้จะเกื้อกูลกันในระดับ"นำ" ในชีวิตข้างหน้าก็พอแล้ว
แต่ผู้ปกครองบางรายก็เครียด ตามการถืออัตตาของ"เกียรติภูมิ"

ถือเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมอง คนมีลูกวัยรุ่นวัยเรียน นะครับ  ไหว้
 

ขอบคุณสำหรับข้อแนะนำดี ๆ ครับ    จะชี้แจงให้ลูกฟังตามที่เฮียแนะนำครับ 

 คงต้องขอนัดเลี้ยงขอบคุณหน่อย  ยิ้มีเลศนัย

บันทึกการเข้า

ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #44 เมื่อ: มีนาคม 16, 2010, 02:51:33 PM »

เป็นผม แนะนำคุณลูกเรียน มหิดล ครับ  ผมจบเตรียม อุดมฯ รู้อะไรดีมาเยอะจากประสบการณ์ตรงนะครับ คิก คิก

ขอข้อมูลหน่อยครับพี่
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 21 คำสั่ง