เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 19, 2025, 07:23:27 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 13 14 15 [16] 17 18 19 20
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: AK 102 เขี้ยวเล็บใหม่ของ อส.  (อ่าน 91748 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yongpayne
Full Member
***

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 237


« ตอบ #225 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 01:19:07 PM »

เอาเป็นว่าไม่รู้หรือลืมก็ศึกษาเพิ่มเติมได้ครับ ไหว้
ถูกต้องนะคร้าบ เยี่ยม อะไรที่ไม่ทราบก็แนะนำด้วยครับ มือใหม่หัดยิงนะครับ ผมเป็นมือปราบเอกสารซะส่วนใหญ่ครับ  ตกใจขออภัยในความไม่ทราบนะครับ หัวเราะร่าน้ำตาริน ไหว้
บันทึกการเข้า
tongtani
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 14


« ตอบ #226 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 01:22:59 PM »

ผมพอทราบเพราะเข้าเวป อวป.ประจำและมีความรู้เรื่อง อวป.พอตัว หลงรัก หลงรัก หลงรัก
บันทึกการเข้า
yongpayne
Full Member
***

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 237


« ตอบ #227 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 01:35:56 PM »

ผมไม่ค่อยได้เข้าเท่าไรเลย พอเข้ามาก็นั่งดูยาวเลย งานก็รัดตัว หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
vinchy
มโนธรรม คือ มิตรแท้เตือนใจ
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 125
ออฟไลน์

กระทู้: 554


« ตอบ #228 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 02:59:59 PM »

แล้วแต่ความละอียดในการสอนนะครับ ระยะเวลาของหลักสูตรด้วย ผมเรียนอาวุธศึกษาที่เป็นอาวุธสงครามแค่วันเดียวเอง หยิบๆมาให้ดูแล้วก็พูดไม่ได้จับเลย ขนาดลูกซองยังมีเวลาให้ฝึกไม่กี่วันเอง เร่งรัดมากๆ ไหว้

           คุณ  yongpayne จบหลักสูตรนายสิบตำรวจที่รับพวกจบปริญญาตรีมาใช่หรือเปล่าครับ
(เห็นเพิ่งรับมา ๓ รุ่น ย้อนหลัง๒ปีมานี้เองแล้วก็กลับไปรับ ม.๖ เหมือนเดิม) ถ้าเป็นรับจากปริญญาตรีการอบรมจะใช้เวลาน้อยแค่๓-๔เดือน

ส่วนจาก ม.๖ หลักสุตรปกติจะใช้เวลา ๑ ปี(ยกเว้นรุ่นพิเศษ ลง ศชต.ฝึก ๖ เดือน/แต่เข้มข้นเพื่อลงพื้นที่โดยเฉพาะ)
และเรียนกันแบบนักเรียนจริงๆ(ไม่ค่อยโดยซ่อมเพราะทางโรงเรียนกลัวพวกนักเรียนฟ้องร้อง) ถ้าเป็นสมัยผมเรียน ๑ ปี วิ่งกันมาไม่น่าตำกว่า ๑,๐๐๐ กม.

โดนซ่อมนับครั้งไม่ถ้วน แบบหนังหัวลอกเลยครับ บางคนดื้อมากๆก็โดนอัดด้วยรองเท้าคอมแบตหยอกๆครับ ยิ่งท่าเป็นของพวก ตชด. นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ
หนักกว่านี้อีกและต้องหลังจบ ๑ ปี ต้องเรียนหลักสูตรของ ตชด. อีก ๓ เดือน(หนังลอกทั้งตัวครับ) จึงจะเริ่มทำงานได้

และเมื่อจบมา มีหลักบังคับเลยว่า ก่อนไปทำงานด้านอื่นต้องผ่านงานสายตรวจจักรยานยนต์ ๖ เดือน จึงจะมีสิทธิ์ไปนั่งทำงานอำนวยการ(ด้านเอกสาร)
สมัยผมจบมา ผมเป็นสายตรวจอยู่ปีหนึ่งเต็มๆ จึงได้มาทำหน้าที่สืบสวน โดยดูจากผลงานที่ผ่ามมาว่าไหวไหม ใจรักหรือเปล่า
(สายสืบสมัยก่อนไม่ค่อยมีชั้นประทวนที่อาวุโสน้อยๆได้มีสิทธิ์มาอยู่อย่างตำก็เป็น จ.ส.ต.แล้ว) 

ส่วนหลักสูตรที่รับจบปริญญาตรีมา เห็นทำงาน ๒ ปี ติดสิบตำรวจเอกแล้ว
(ตามเงื่อนไขพิเศษเฉพาะหลักสูตรนี้เท่านั้น) โดยที่หลายๆคนที่พบยังไม่รู้จักคำว่าตำรวจจริงๆเลย
ขอให้ท่านพยายามสมัครใจไปอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่จัดขึ้นในทุกๆปี แล้วท่านจะซึมซับความเป็นตำรวจ ที่ทำหน้าที่ที่ดีต่อไปในอนาคตครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
นายต้นงิ้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 479
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4867



« ตอบ #229 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 03:24:21 PM »

แล้วแต่ความละอียดในการสอนนะครับ ระยะเวลาของหลักสูตรด้วย ผมเรียนอาวุธศึกษาที่เป็นอาวุธสงครามแค่วันเดียวเอง หยิบๆมาให้ดูแล้วก็พูดไม่ได้จับเลย ขนาดลูกซองยังมีเวลาให้ฝึกไม่กี่วันเอง เร่งรัดมากๆ ไหว้

           คุณ  yongpayne จบหลักสูตรนายสิบตำรวจที่รับพวกจบปริญญาตรีมาใช่หรือเปล่าครับ
(เห็นเพิ่งรับมา ๓ รุ่น ย้อนหลัง๒ปีมานี้เองแล้วก็กลับไปรับ ม.๖ เหมือนเดิม) ถ้าเป็นรับจากปริญญาตรีการอบรมจะใช้เวลาน้อยแค่๓-๔เดือน

ส่วนจาก ม.๖ หลักสุตรปกติจะใช้เวลา ๑ ปี(ยกเว้นรุ่นพิเศษ ลง ศชต.ฝึก ๖ เดือน/แต่เข้มข้นเพื่อลงพื้นที่โดยเฉพาะ)
และเรียนกันแบบนักเรียนจริงๆ(ไม่ค่อยโดยซ่อมเพราะทางโรงเรียนกลัวพวกนักเรียนฟ้องร้อง) ถ้าเป็นสมัยผมเรียน ๑ ปี วิ่งกันมาไม่น่าตำกว่า ๑,๐๐๐ กม.

โดนซ่อมนับครั้งไม่ถ้วน แบบหนังหัวลอกเลยครับ บางคนดื้อมากๆก็โดนอัดด้วยรองเท้าคอมแบตหยอกๆครับ ยิ่งท่าเป็นของพวก ตชด. นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ
หนักกว่านี้อีกและต้องหลังจบ ๑ ปี ต้องเรียนหลักสูตรของ ตชด. อีก ๓ เดือน(หนังลอกทั้งตัวครับ) จึงจะเริ่มทำงานได้

และเมื่อจบมา มีหลักบังคับเลยว่า ก่อนไปทำงานด้านอื่นต้องผ่านงานสายตรวจจักรยานยนต์ ๖ เดือน จึงจะมีสิทธิ์ไปนั่งทำงานอำนวยการ(ด้านเอกสาร)
สมัยผมจบมา ผมเป็นสายตรวจอยู่ปีหนึ่งเต็มๆ จึงได้มาทำหน้าที่สืบสวน โดยดูจากผลงานที่ผ่ามมาว่าไหวไหม ใจรักหรือเปล่า
(สายสืบสมัยก่อนไม่ค่อยมีชั้นประทวนที่อาวุโสน้อยๆได้มีสิทธิ์มาอยู่อย่างตำก็เป็น จ.ส.ต.แล้ว) 

ส่วนหลักสูตรที่รับจบปริญญาตรีมา เห็นทำงาน ๒ ปี ติดสิบตำรวจเอกแล้ว
(ตามเงื่อนไขพิเศษเฉพาะหลักสูตรนี้เท่านั้น) โดยที่หลายๆคนที่พบยังไม่รู้จักคำว่าตำรวจจริงๆเลย
ขอให้ท่านพยายามสมัครใจไปอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่จัดขึ้นในทุกๆปี แล้วท่านจะซึมซับความเป็นตำรวจ ที่ทำหน้าที่ที่ดีต่อไปในอนาคตครับ ไหว้


 เยี่ยม ฝึกมาไม่เข้มข้น วินัยก็ไม่เข้าขั้น รุ่นพี่รุ่นน้องไม่เคารพกันซะแล้ว เท่าที่เจอมา งานไม่ค่อยสนรอสอบนายร้อยเป็นหลัก ผิดพลาดขออภัย
บันทึกการเข้า

พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
Pol.Sgt.Thongphet
Full Member
***

คะแนน 25
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 329


"ปั้น X ไม่เก่ง เน้นความไว"


« ตอบ #230 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 04:04:16 PM »

แล้วแต่ความละอียดในการสอนนะครับ ระยะเวลาของหลักสูตรด้วย ผมเรียนอาวุธศึกษาที่เป็นอาวุธสงครามแค่วันเดียวเอง หยิบๆมาให้ดูแล้วก็พูดไม่ได้จับเลย ขนาดลูกซองยังมีเวลาให้ฝึกไม่กี่วันเอง เร่งรัดมากๆ ไหว้

           คุณ  yongpayne จบหลักสูตรนายสิบตำรวจที่รับพวกจบปริญญาตรีมาใช่หรือเปล่าครับ
(เห็นเพิ่งรับมา ๓ รุ่น ย้อนหลัง๒ปีมานี้เองแล้วก็กลับไปรับ ม.๖ เหมือนเดิม) ถ้าเป็นรับจากปริญญาตรีการอบรมจะใช้เวลาน้อยแค่๓-๔เดือน

ส่วนจาก ม.๖ หลักสุตรปกติจะใช้เวลา ๑ ปี(ยกเว้นรุ่นพิเศษ ลง ศชต.ฝึก ๖ เดือน/แต่เข้มข้นเพื่อลงพื้นที่โดยเฉพาะ)
และเรียนกันแบบนักเรียนจริงๆ(ไม่ค่อยโดยซ่อมเพราะทางโรงเรียนกลัวพวกนักเรียนฟ้องร้อง) ถ้าเป็นสมัยผมเรียน ๑ ปี วิ่งกันมาไม่น่าตำกว่า ๑,๐๐๐ กม.

โดนซ่อมนับครั้งไม่ถ้วน แบบหนังหัวลอกเลยครับ บางคนดื้อมากๆก็โดนอัดด้วยรองเท้าคอมแบตหยอกๆครับ ยิ่งท่าเป็นของพวก ตชด. นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ
หนักกว่านี้อีกและต้องหลังจบ ๑ ปี ต้องเรียนหลักสูตรของ ตชด. อีก ๓ เดือน(หนังลอกทั้งตัวครับ) จึงจะเริ่มทำงานได้

และเมื่อจบมา มีหลักบังคับเลยว่า ก่อนไปทำงานด้านอื่นต้องผ่านงานสายตรวจจักรยานยนต์ ๖ เดือน จึงจะมีสิทธิ์ไปนั่งทำงานอำนวยการ(ด้านเอกสาร)
สมัยผมจบมา ผมเป็นสายตรวจอยู่ปีหนึ่งเต็มๆ จึงได้มาทำหน้าที่สืบสวน โดยดูจากผลงานที่ผ่ามมาว่าไหวไหม ใจรักหรือเปล่า
(สายสืบสมัยก่อนไม่ค่อยมีชั้นประทวนที่อาวุโสน้อยๆได้มีสิทธิ์มาอยู่อย่างตำก็เป็น จ.ส.ต.แล้ว) 

ส่วนหลักสูตรที่รับจบปริญญาตรีมา เห็นทำงาน ๒ ปี ติดสิบตำรวจเอกแล้ว
(ตามเงื่อนไขพิเศษเฉพาะหลักสูตรนี้เท่านั้น) โดยที่หลายๆคนที่พบยังไม่รู้จักคำว่าตำรวจจริงๆเลย
ขอให้ท่านพยายามสมัครใจไปอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่จัดขึ้นในทุกๆปี แล้วท่านจะซึมซับความเป็นตำรวจ ที่ทำหน้าที่ที่ดีต่อไปในอนาคตครับ ไหว้


 เยี่ยม ฝึกมาไม่เข้มข้น วินัยก็ไม่เข้าขั้น รุ่นพี่รุ่นน้องไม่เคารพกันซะแล้ว เท่าที่เจอมา งานไม่ค่อยสนรอสอบนายร้อยเป็นหลัก ผิดพลาดขออภัย
เห็นด้วยครับ +1
บันทึกการเข้า

Pol.Sgt.Thongphet
Full Member
***

คะแนน 25
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 329


"ปั้น X ไม่เก่ง เน้นความไว"


« ตอบ #231 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 04:06:12 PM »

ต่อตามกระทู้ครับ

ปืนราคาแพงมากครับ

บันทึกการเข้า

^-^ภูพาน~รักพ่อหลวง^-^
มีภัย มีเรา biw199
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 224
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3412



« ตอบ #232 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 06:28:26 PM »

แล้วแต่ความละอียดในการสอนนะครับ ระยะเวลาของหลักสูตรด้วย ผมเรียนอาวุธศึกษาที่เป็นอาวุธสงครามแค่วันเดียวเอง หยิบๆมาให้ดูแล้วก็พูดไม่ได้จับเลย ขนาดลูกซองยังมีเวลาให้ฝึกไม่กี่วันเอง เร่งรัดมากๆ ไหว้

          คุณ  yongpayne จบหลักสูตรนายสิบตำรวจที่รับพวกจบปริญญาตรีมาใช่หรือเปล่าครับ
(เห็นเพิ่งรับมา ๓ รุ่น ย้อนหลัง๒ปีมานี้เองแล้วก็กลับไปรับ ม.๖ เหมือนเดิม) ถ้าเป็นรับจากปริญญาตรีการอบรมจะใช้เวลาน้อยแค่๓-๔เดือน

ส่วนจาก ม.๖ หลักสุตรปกติจะใช้เวลา ๑ ปี(ยกเว้นรุ่นพิเศษ ลง ศชต.ฝึก ๖ เดือน/แต่เข้มข้นเพื่อลงพื้นที่โดยเฉพาะ)
และเรียนกันแบบนักเรียนจริงๆ(ไม่ค่อยโดยซ่อมเพราะทางโรงเรียนกลัวพวกนักเรียนฟ้องร้อง) ถ้าเป็นสมัยผมเรียน ๑ ปี วิ่งกันมาไม่น่าตำกว่า ๑,๐๐๐ กม.

โดนซ่อมนับครั้งไม่ถ้วน แบบหนังหัวลอกเลยครับ บางคนดื้อมากๆก็โดนอัดด้วยรองเท้าคอมแบตหยอกๆครับ ยิ่งท่าเป็นของพวก ตชด. นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ
หนักกว่านี้อีกและต้องหลังจบ ๑ ปี ต้องเรียนหลักสูตรของ ตชด. อีก ๓ เดือน(หนังลอกทั้งตัวครับ) จึงจะเริ่มทำงานได้

และเมื่อจบมา มีหลักบังคับเลยว่า ก่อนไปทำงานด้านอื่นต้องผ่านงานสายตรวจจักรยานยนต์ ๖ เดือน จึงจะมีสิทธิ์ไปนั่งทำงานอำนวยการ(ด้านเอกสาร)
สมัยผมจบมา ผมเป็นสายตรวจอยู่ปีหนึ่งเต็มๆ จึงได้มาทำหน้าที่สืบสวน โดยดูจากผลงานที่ผ่ามมาว่าไหวไหม ใจรักหรือเปล่า
(สายสืบสมัยก่อนไม่ค่อยมีชั้นประทวนที่อาวุโสน้อยๆได้มีสิทธิ์มาอยู่อย่างตำก็เป็น จ.ส.ต.แล้ว)  

ส่วนหลักสูตรที่รับจบปริญญาตรีมา เห็นทำงาน ๒ ปี ติดสิบตำรวจเอกแล้ว
(ตามเงื่อนไขพิเศษเฉพาะหลักสูตรนี้เท่านั้น) โดยที่หลายๆคนที่พบยังไม่รู้จักคำว่าตำรวจจริงๆเลย
ขอให้ท่านพยายามสมัครใจไปอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่จัดขึ้นในทุกๆปี แล้วท่านจะซึมซับความเป็นตำรวจ ที่ทำหน้าที่ที่ดีต่อไปในอนาคตครับ ไหว้

เสริมนิดหนึง ครับ น้องผม ตชด พลร่ม เรียนเกือบ 2ปีและห้ามย้ายเป็นเวลา8ปีครับ ไหว้
บันทึกการเข้า





พายุยิ่งพัดอื้อ....................ราวป่าหรือราบทั้งแดน
อิศานนับแสนแสน..............สิจะพ่ายผู้ใดเหนอ?
Maj.TOM
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 32
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 209



« ตอบ #233 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 07:22:07 PM »

นักเรียน ตำรวจ เค้าฝึกกันหนักเหมือนกันเนาะ
 

ผมจบจากนักเรียนนายสิบ เหล่าทหารพลาธิการ เรียนเมื่อปี่ 2529 จบ มาปี 2530

รุ่นผม...หุหุ....ทุกอย่างครับ  อะไรที่ไม่เคยโนมาหมด กินน้ำในคอห่าน โดด บ่อเกราะ ไฟเบอ้รทูยู โอยสารพัดครับ

แต่ว่าพอมารุ่นหลังๆ เนี่ย...ไม่รู้เค้าฝึกกันมายังไง  เดินแทบชนรุ่นพี่ยังไม่ขอโทษขอโพยกันเลย...เฮ้อ...
บันทึกการเข้า

ถึงแม้ ผมจะเป็นทหารเหล่าพิเศษที่ไม่ได้ รบทัพจับศึก   แต่ผมก็พร้อมทุกวินาทีเพื่อ..พ่อ....เราะผมเป็นทหาร...ของ.....พ่อ...................
Tanate(รักในหลวง)
Hero Member
*****

คะแนน 243
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2039



« ตอบ #234 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 07:40:41 PM »

ผมว่ามันไม่สวยเท่าak 47เลยครับ ผมว่าak 47 ต้นทุนน่าจะต่ำกว่า ถูกกว่าแน่นอน และก็กระสุนขนาดเดียวกับ m60 อยู่แล้วนี่นา ตกใจ

ทราบได้อย่างไรครับว่า AK47 ต้นทุนต่ำกว่า

อ้าว คูณ คนละขนาดหรือเนี่ยอิอิ ปลอกเท่ากัน หัวกระสุนไม่เท่ากัน ตกใจ ไหว้

หัวเท่ากัน  ปลอกไม่เท่ากันต่างหาก

เสริมครับ  ไหว้ 

        ถ้าพูดถึง ak-47 แล้ว ak-47 ยุคแรกๆจะเป็นแบบแผ่นพับขึ้นรูปเหมือนๆปัจจุบัน แต่มีปัญหาเรื่องการควบคุมคุณภาพจึงต้องเปลี่ยนมาใช้เหล็กกัดขึ้นรูปแทน ต้นทุนจะสูง
        ต่อมาจึงมีการพัฒนามาเป็น akm (m น่าจะมาจาก modernized) ใช้กระสุนขนาดเดิม แต่เปลี่ยนวิธีการผลิตเป็นแบบแผ่นพับขึ้นรูปเหมือนเดิม เพื่อลดต้นทุน ถ้าศึกษาด้านกระบวนการผลิตจะรู้ว่าวิธีนี้ของเสียจากกระบวนการผลิตจะน้อยกว่าแบบกัดขึ้นรูปมากครับ  หลงรัก

แต่ก็อย่างนั้นแหละครับ ถ้าไม่เอาปืนตระกูล ar-15 ที่ใช้ชิ้นสวนร่วมกับของเดิมๆได้แล้ว น่าจะเอา ak ที่ใช้แม็กร่วมกับ ak-47 ได้ก็ยังดีนะครับ เพราะเห็นทหารพรานหลายๆท่านใช้ ak-47 กันอยู่น่ะครับ
บันทึกการเข้า

โดนแล้วครับ นายอำเภอใจกับปลัดขิก เบื่อระบบข้าราชการไทย ของดเล่นปืนไปก่อนนะครับ
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #235 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 08:36:20 PM »

ปืน AK47 ที่นี่ทำกันเองในโรงรถก็มีครับ อิอิอิ  พับขึ้นรูปเอง
บันทึกการเข้า
Tanate(รักในหลวง)
Hero Member
*****

คะแนน 243
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2039



« ตอบ #236 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 09:04:18 PM »

 Grin
บันทึกการเข้า

โดนแล้วครับ นายอำเภอใจกับปลัดขิก เบื่อระบบข้าราชการไทย ของดเล่นปืนไปก่อนนะครับ
yongpayne
Full Member
***

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 237


« ตอบ #237 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2011, 05:50:21 PM »

แล้วแต่ความละอียดในการสอนนะครับ ระยะเวลาของหลักสูตรด้วย ผมเรียนอาวุธศึกษาที่เป็นอาวุธสงครามแค่วันเดียวเอง หยิบๆมาให้ดูแล้วก็พูดไม่ได้จับเลย ขนาดลูกซองยังมีเวลาให้ฝึกไม่กี่วันเอง เร่งรัดมากๆ ไหว้

           คุณ  yongpayne จบหลักสูตรนายสิบตำรวจที่รับพวกจบปริญญาตรีมาใช่หรือเปล่าครับ
(เห็นเพิ่งรับมา ๓ รุ่น ย้อนหลัง๒ปีมานี้เองแล้วก็กลับไปรับ ม.๖ เหมือนเดิม) ถ้าเป็นรับจากปริญญาตรีการอบรมจะใช้เวลาน้อยแค่๓-๔เดือน

ส่วนจาก ม.๖ หลักสุตรปกติจะใช้เวลา ๑ ปี(ยกเว้นรุ่นพิเศษ ลง ศชต.ฝึก ๖ เดือน/แต่เข้มข้นเพื่อลงพื้นที่โดยเฉพาะ)
และเรียนกันแบบนักเรียนจริงๆ(ไม่ค่อยโดยซ่อมเพราะทางโรงเรียนกลัวพวกนักเรียนฟ้องร้อง) ถ้าเป็นสมัยผมเรียน ๑ ปี วิ่งกันมาไม่น่าตำกว่า ๑,๐๐๐ กม.

โดนซ่อมนับครั้งไม่ถ้วน แบบหนังหัวลอกเลยครับ บางคนดื้อมากๆก็โดนอัดด้วยรองเท้าคอมแบตหยอกๆครับ ยิ่งท่าเป็นของพวก ตชด. นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ
หนักกว่านี้อีกและต้องหลังจบ ๑ ปี ต้องเรียนหลักสูตรของ ตชด. อีก ๓ เดือน(หนังลอกทั้งตัวครับ) จึงจะเริ่มทำงานได้

และเมื่อจบมา มีหลักบังคับเลยว่า ก่อนไปทำงานด้านอื่นต้องผ่านงานสายตรวจจักรยานยนต์ ๖ เดือน จึงจะมีสิทธิ์ไปนั่งทำงานอำนวยการ(ด้านเอกสาร)
สมัยผมจบมา ผมเป็นสายตรวจอยู่ปีหนึ่งเต็มๆ จึงได้มาทำหน้าที่สืบสวน โดยดูจากผลงานที่ผ่ามมาว่าไหวไหม ใจรักหรือเปล่า
(สายสืบสมัยก่อนไม่ค่อยมีชั้นประทวนที่อาวุโสน้อยๆได้มีสิทธิ์มาอยู่อย่างตำก็เป็น จ.ส.ต.แล้ว) 

ส่วนหลักสูตรที่รับจบปริญญาตรีมา เห็นทำงาน ๒ ปี ติดสิบตำรวจเอกแล้ว
(ตามเงื่อนไขพิเศษเฉพาะหลักสูตรนี้เท่านั้น) โดยที่หลายๆคนที่พบยังไม่รู้จักคำว่าตำรวจจริงๆเลย
ขอให้ท่านพยายามสมัครใจไปอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่จัดขึ้นในทุกๆปี แล้วท่านจะซึมซับความเป็นตำรวจ ที่ทำหน้าที่ที่ดีต่อไปในอนาคตครับ ไหว้

แหะๆทายถูกด้วย ผมเป็นสายป.ครับ พึ่งจบมาเอง มาถึงก็ให้เริ่มงานสายตรวจได้แค่2อาทิตย์ แล้วก็จับลงธุรการป. ยาวเลยครับ ใจจริงก็อยากไปลุยกับเขาแต่ เขาขาดคนทำเอกสาร จึงให้เด็กใหม่ทำ มีแต่คนหนีงานเอกสารครับ เพราะมีแต่งานโครงการของทางกองบัญชาการ กระดาษยังต้องซื้อเองเลยครับงบไม่พอใช้ ผมก็ตำรวจมือใหม่แหละครับยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก คงจะสนใจอบรมด้านคดีครับเพราะจบนิติมา ขอขึ้น พงส.ช่วยเหลือ สตช. หลักสูตร กปปที่ผมจบมาเรียนแค่ 4เดือนเองครับตามงบประมาณที่มี วินัยกองร้อยผมokครับ เพราะมีครูฝึกโหดอยู่ครูชอบบู้ๆนิดๆนะ  ตอนนี้กลายเป็นคนทำงานเอกสารชนิดที่ สวป.เรียกตามตัวตลอดแต่ก็รับได้ครับ หัวเราะร่าน้ำตาริน ไหว้
บันทึกการเข้า
yongpayne
Full Member
***

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 237


« ตอบ #238 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2011, 06:41:57 PM »

ขอนอกเรื่องปืนนิด โรงเรียนผมนี่ สร้างทับที่ ป่าช้า(สุสานจีน)เก่าครับ โดยองค์การ ยูซอม ผีดุมาก นพต.รุ่น1-9 บ่นว่าเฮี้ยนๆ ตัวผมเองก็เจอเหมือนกันไม่นึกเลยว่ามันจะมาแบบนี้ โดน2คนพร้อมๆกันเลยครับแต่มาแบบไม่เห็นตัว มาแต่อิทธิฤทธิ์ ไฟในห้องเรียนเปิดเองได้ด้วย เจอตอนเข้ายาม ตอนเที่ยงคืน และกองร้อยญก็เจอแบบผมด้วยครับ เหตุการณ์แบบเดียวกันเลย ตรวจดูในห้องแล้วไม่พบว่ามีใครอยู่เลย หลุมศพเก่าๆยังมีอยู่ครับอยู่บนภูเขาติดกองร้อย เอามาเล่าเล่นๆครับ คิก คิก ไหว้
บันทึกการเข้า
vinchy
มโนธรรม คือ มิตรแท้เตือนใจ
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 125
ออฟไลน์

กระทู้: 554


« ตอบ #239 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2011, 02:32:42 PM »

ขอนอกเรื่องปืนนิด โรงเรียนผมนี่ สร้างทับที่ ป่าช้า(สุสานจีน)เก่าครับ โดยองค์การ ยูซอม ผีดุมาก นพต.รุ่น1-9 บ่นว่าเฮี้ยนๆ ตัวผมเองก็เจอเหมือนกันไม่นึกเลยว่ามันจะมาแบบนี้ โดน2คนพร้อมๆกันเลยครับแต่มาแบบไม่เห็นตัว มาแต่อิทธิฤทธิ์ ไฟในห้องเรียนเปิดเองได้ด้วย เจอตอนเข้ายาม ตอนเที่ยงคืน และกองร้อยญก็เจอแบบผมด้วยครับ เหตุการณ์แบบเดียวกันเลย ตรวจดูในห้องแล้วไม่พบว่ามีใครอยู่เลย หลุมศพเก่าๆยังมีอยู่ครับอยู่บนภูเขาติดกองร้อย เอามาเล่าเล่นๆครับ คิก คิก ไหว้


            ที่เล่ามานี่ น่าจะเป็นที่โรงเรียน ๒ (ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค ๒) ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรีนะครับ
ผมก็จบมาจากโรงเรียน ๒ ครับ (ศิษย์เก่าเขาน้อย) ครูฝึกในโรงเรียน ๒ ก็มีเพื่อนรุ่นเดียวกันอยู่
            สมัยผมเข้าเรียนวันแรก ตั้งแต่เช้ายันดึกครับ(โดนต้อนรับอย่างดีมาก ระบมทั้งตัวอยู่ทั้งอาทิตย์แบบนั่งถ่ายแทบไม่ได้ ฉี่ปนเลือดเลยครับ)
วันแรกก็มีคนขอลาออกเกือบสิบคนแล้วครับ

เดือนแรกไม่เคยออกพ้นรั้วโรงเรียน ห้ามญาติมาพบเว้นแต่กรณีฉุกเฉินจริงๆ
หลายๆคนนอนน้ำตาไหลทั้งเหนี่อยทั้งเพลียจนหลับครับ เรียนอยู่ ๑ ปีเต็ม ผมได้กลับบ้านประมาณ ๓ ครั้งเองครับ

โดนซ่อมตลอด แต่ก็เป็นผลทำให้สอบออกได้อันดับหนึ่งของรุ่น รับโล่ห์เกียรติยศจากผู้บัญชาการศึกษา
(สมัยก่อนโรงเรียนสังกัด บช.ศ.แต่ทุกวันนี้ สังกัด บช.ภ.๒)

การฝึกมากทำให้เราสามัคคีกัน รักกัน เคารพครู เคารพผู้บังคับบัญชา
อดทนต่อความยากลำบากในการทำหน้าที่ อดทนต่อความเจ็บใจ
มีความแน่วแน่ที่จะทำหน้าที่ของเราครับ  ไหว้

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 07, 2011, 02:35:26 PM โดย vinchy » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 13 14 15 [16] 17 18 19 20
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.085 วินาที กับ 21 คำสั่ง