เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
มิถุนายน 26, 2025, 05:01:26 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมประเทศไทยไม่ผลิตอาวุธใช้เอง  (อ่าน 9085 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
lavigne
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 34


« เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 12:05:17 AM »

ในประเทศไทยทำไมไม่ผลิตอาวุธใช้กันเองครับ...หรือว่ากฎหมายไม่รองรับครับ
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 01:31:35 AM »

ทำไมถึงคิดว่าเราไม่ผลิตเอง
บันทึกการเข้า
somkeat rtmc-love king
Full Member
***

คะแนน 19
ออฟไลน์

กระทู้: 301



« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 07:43:00 AM »

203 ยังทำได้เลยนะ
บันทึกการเข้า

ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน
kutingtong
Sr. Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 905


« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 09:40:52 AM »

คงจะหมายถึง ไม่ผลิตในเชิงพานิชย์ ขายให้ประชาชนมากกว่าครับ เป็นคำถามโลกแตกที่มีมานานแล้วครับ อาจเป็นเพราะทางผู้ควบคุมรู้นิสัยคนไทยมั๊งครับ ขนาด กล้องนิคอน ยังมีตัวที่หลุด QC ออกมาขายเถื่อนเลย อิอิ
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 09:49:44 AM »

คงจะหมายถึง ไม่ผลิตในเชิงพานิชย์ ขายให้ประชาชนมากกว่าครับ เป็นคำถามโลกแตกที่มีมานานแล้วครับ อาจเป็นเพราะทางผู้ควบคุมรู้นิสัยคนไทยมั๊งครับ ขนาด กล้องนิคอน ยังมีตัวที่หลุด QC ออกมาขายเถื่อนเลย อิอิ

ถ้าหมายถึงตลาดทั่วไป  คำตอบคือรัฐออกกฎหมายอนุญาตให้ทำได้มาตั้งแต่ พ.ศ.2519   แต่ตลาดเล็กเกินไป ไม่คุ้มกับการลงทุน
บันทึกการเข้า
feen
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 01:30:59 PM »

ถ้าขายดี ผมว่าเดี๋ยวก็เหมือน  รถ vmc หรือไม่ก็ มอเตอร์ไซค์ ไทเกอร์ ครับ 
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 01:55:18 PM »

ช่างปืนเก่งๆไปตีมีดขายรวยไปแล้ว
ถ้าไม่ตั้งเป้าการส่งออกคงจะยากที่จะลงทุนและตลาดข้างนอกก็แน่นไปหมดแล้ว
บันทึกการเข้า
Ruk™-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 643
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4012



« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 02:03:50 PM »

      ผมอยู่อยุธยาไม่ไกลจากกองโรงงานวัตถุระเบิด(ช่างแสง) ต.บ้านเกาะ ตรงใกล้ๆสี่แยกช่างแสง
จะมีป้ายเตือน"ระวังรถขนวัตถุระเบิด" จึงยืนยันว่าประเทศไทยเราก็ผลิตอาวุธในทางทหาร(บางชนิด)
ใช้เองนะครับ ส่วนทางพาณิชย์ท่านผู้การสุพินท์ตอบไปแล้ว
      และก็อย่างที่ท่าน Yut13 บอก แถวๆอรัญญิก อุทัย ท่าเรือ นครหลวง เดี๋ยวเหลือแต่ช่างตีมีด
ตีเคียวอย่างเดียวแล้วครับ
บันทึกการเข้า

คุณอาจเผาและทำลายบ้านเมืองเราได้ แต่คุณไม่สามารถทำลายความรักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ของเราไปได้
HS3JBX ทองพูน นุโยนรัมย์ : (คำขวัญประจำจังหวัด) ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานต์กวี คนดีศรีอยุธยา
mooh.cha<LOVE THE KING>
แม้นหวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1689


หนูคือลูกสาวของ พ่อหมู....ค่ะ


« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 10:25:18 AM »

ช่างปืนเก่งๆไปตีมีดขายรวยไปแล้ว คิก คิก


จริงด้วยแถวบ้านผมก็มี  ขายเล่มหนึ่ง 2-3 พันบาท หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน


บันทึกการเข้า

บางครั้งระหว่างทาง  สำคัญกว่าจุดหมายปลายทาง
DekWatPa_รักในหลวง
Jr. Member
**

คะแนน 6
ออฟไลน์

กระทู้: 48


« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 11:37:48 AM »

      ผมอยู่อยุธยาไม่ไกลจากกองโรงงานวัตถุระเบิด(ช่างแสง) ต.บ้านเกาะ ตรงใกล้ๆสี่แยกช่างแสง
จะมีป้ายเตือน"ระวังรถขนวัตถุระเบิด" จึงยืนยันว่าประเทศไทยเราก็ผลิตอาวุธในทางทหาร(บางชนิด)
ใช้เองนะครับ ส่วนทางพาณิชย์ท่านผู้การสุพินท์ตอบไปแล้ว
      และก็อย่างที่ท่าน Yut13 บอก แถวๆอรัญญิก อุทัย ท่าเรือ นครหลวง เดี๋ยวเหลือแต่ช่างตีมีด
ตีเคียวอย่างเดียวแล้วครับ
สวัสดีครับพี่Theruk
ผมก็อยู่อยุธยาครับ บางครั้งผ่านไปแถวนั้นก็เห็นป้ายเตือนก็ยังคิดในใจว่าแถวนี้อันตรายนะครับเกิดตูมตามขึ้นมาเหมือนคลังแสงแถวๆอีสานระเบิดในครั้งนั้นครับ  แต่ก่อนเคยได้ยินเป็นเรื่องเล่าขำๆ แต่อาจจะเป็นจริงว่านักเลงโตคนหนึ่ง มักจะพกปืนติดตัวประจำแต่ด้วยความที่มีนิยมชมชอบลูกซองแต่ถ้าแบกปืนยาวไปมาตามท้องถนนก็คงโดนตำรวจท่านจับ เลยไปติดต่อช่างทำปืนคนหนึ่งที่ร่ำลือกันมานานว่าเก่งมากๆ สั่งออร์เดอร์ไปหนึ่งกระบอก เสร็จแล้วหนึ่งเดือนไปรับ ก็ได้อย่างประสงคสมกับที่ตั้งตารอคอย เป็นลูกซองสั้นบรรจุทีละหนึ่ง สวยงาม ด้ามปืนปั้นมาอย่างดีเหมาะมือมากๆ ลองยิงดูในระยะหวังผลก็ได้ดั่งใจไม่ตายก็สาหัสแน่ๆ พี่นักเลงโตก็พกไปเที่ยวเตร่ตามประสา มีอยู่วันหนึ่งเกิดเรื่องในงานวัด พี่แกก็ชักออกมาจนสุดแขนแล้วเอี้ยวตัวนิดหนึ่งไม่งั้นปลายปากกระบอกปืนจะติดขอบกางเกงยีนส์ตัวเก่ง พร้อมกับตะโกนออกมาขู่นักเลงต่างถิ่นวัยกระเตาะว่า เดี๋ยวยิงให้ไส้แตกเลยนะโว๊ย! นักเลงต่างถิ่นเห็นปืนถึงกับก้าวขาไม่ออก แต่ด้วยตนเองก็มีของดีเลยชักออกมาเป็น เก้ามอมอ ค่ายS&W ที่มีมาตรฐานดีและราคาสูง ต่างกับลูกซองสั้น(กึ่งยาว)ของนักเลงโตเจ้าถิ่นที่สั่งทำโดยโรงงานแมดอินไทยแลนด์ ผลปรากฏดวลกันในระยะหวังผล นักเลงต่างถิ่นกลับบ้านสบายแมลงวันไม่ได้กินเลือด เพราะเจ้ากรรมลูกซองดันลำกล้องแตก มือก็แหกซิครับ สุดท้ายนักเลงโตประจำถิ่นโดนตำรวจจับและยังต้องรักษาตัวอีก โชคดีไม่พิการ แต่ก็เข็ดไปหลายเลยครับ ที่เล่ามาไม่ใช่ว่าช่างคนไทยไม่เก่งนะครับ แต่อยากให้มองในมุมอีกมุมหนึ่งว่า เขาขาดการสนับสนุนครับฝีมือดี แต่ขาดเครื่องมือและวัสดุที่มีคุณภาพ และความรู้ที่ถูกต้องต่างหากครับ ผมเชื่อว่าหากมีการสนับสนุนที่ดี และการวางกฎหมายควบคุมที่เข้มงวดกวดขันเพื่อปองกันการนำเอาไปใช้อย่างผิดกฎหมาย บ้านเราก็คงมีอุตสาหกรรมอีกหนึ่งอย่างที่สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ไม่แพ้อุตสาหกรรมยานยนต์ได้นะครับ
บันทึกการเข้า
Pex Shotgun-รักในหลวงครับ
เป็ก ครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 70
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2208



« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 09:19:53 AM »

HK 33 ซื้อโรงมามาผลิตใช้ พักเดียวก็เลิกเห่อ     ขายเครื่องจักรทิ้งหมด



เสียดายเครื่องทำลำกล้องจัง  หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า



ปืนที่เรามีเปรียบดังเช่นเครื่องดับเพลิง พวกเราภาวนาว่าไม่ต้องใช้มันในสถานะการณ์จริง

แต่ถ้าเราจำเป็นต้องใช้ ต้องใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
woglock
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 11:16:14 AM »

คนไทย ไม่มีปืนยี่ห้อไทย ก็น้อยอกน้อยใจ ว่ารัฐบาลไทย ทำอะไรอยู่ ไม่ส่งเสริม ทั้งที่ฝีมือการทำปืนเถื่อนของไทย ก็แจ่มแจ๋ว

เอาล่ะ งั้นมาตั้งสมมุติฐานกัน **************

ขอให้ทุกท่าน เข้าสู่ โหมดแห่งความฝัน
*****************************************************************

คนไทย มีปืนยี่ห้อ"หนุมาณ" เป็นบริษัทร่วมทุนจากสิงห์คโปร์กับรัฐบาลไทย ประมาณว่า สิงห์คโปร์ออกแบบ ไทยออกกฏ ว่างั้น
ทำกึ่งออโต้ขนาด 9 ม.ม. วัสดุ โพลิเมอร์+เหล็กกล้า ลำกล้องสี่นิ้ว สั่งซื้อจากฟิลิบปินส์(เอาน่า...ไง ๆ ยี่ห้อก็ของไทย)
เป็นแบบเข็มพุ่งกระแทกแบบกล็อก  ออกแบบค่อนข้างทื่อ ๆ นิด ๆ เก็บงานเรียบร้อย หน้าตาปืน คล้าย ๆ ซิก229 ปนกล็อก ใส่เซฟตี้มันทุกจุดที่นึกได้
ซองกระสุน 10 นัด (กฏหมายไทยให้ได้แค่นั้น) อารมณ์คนที่ได้จับต้องครั้งแรก เหมือนได้จับ รูเกอร์ พี85 เลย ......
ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 70,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 40,000 บาท

ลูกโม่ .38 ลำกล้อง 3 นิ้ว โครงเจ (เพราะคนไทยส่วนใหญ่ตัวเล็กกว่าฝาหรั่ง) วัสดุเหล็กกล้า ผิวรมดำ และฮาร์ดโครม (มีรุ่นโครงขาวโม่ดำ เป็นรุ่นลิมิเต็ดด้วย)
ออกแบบ คล้ายกับจะเลียนแบบสมิธ แต่ปุ่มปลดโม่ กดเข้าแบบรูเกอร์ มีหลังสะพานเหมือนโคลท์ (เอ หรือไม่มีดีหว่า ให้นักวิจัยตลาดเขาตัดสินใจดีกว่า)
ลำกล้องค่อนข้างหนา แต่คอมเมนต์มาจากโรงงานว่า ไม่ควรยิงลูก +P+ (เอาน่า....)  น้ำหนักปืน 870 กรัม (รุ่นลิมิเต็ด 885กรัม ประกับปมมะค่าแกะลายด้วยมือ)
หน้าตาและขนาดปืน ใกล้เคียง สมิธ โมเดล 36 - 1 แต่น้ำหนักมากกว่า ติดศูนย์ปรับได้(ไม่มียี่ห้อ ทำจากฟิลิบปินส์) โม่จุ 6 นัด ตัวปืนค่อนข้างหนา
ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 55,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 32,000 บาท

ลูกซองแบบโยนลำ เบอร์12 บรรจุ 5 นัด ลำกล้อง 18 นิ้ว หน้าตาคล้าย 870 แปลกกว่าใครตรงโคนลำกล้องเป็นเหลี่ยม ศูนย์หน้าลูกปัด ลำกล้องหลังถนน ศูนย์หลังร่องบาก
วัสดุเหล็กกล้า พานท้ายไม้(ไม้นำเข้า นักเลงปืนขัดใจมาก) ระบบการทำงาน เหมือน 870 เพียงแต่ มีสปริงคืนลำเลื่อนเหมือนฟาร์บอาร์ม
ลำกล้อง หนากว่าลูกซองนำเข้า ปลายค่อนข้างรีด ไม่ระบุ ว่าสามารถยิงลูก 3 นิ้วได้หรือไม่ (นักเลงปืนเถียงกันกระทู้ร้อน)
ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 26,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 20,000 บาท หน่วยงานปราบปราม 15,500 บาท

ลูกซองเดี่ยว หักลำ  เอาไบคาลมาพะยี่ห้อ หนุมาณ เพื่ออุดตลาด  ไม่นำเสนอมาก เพราะเป็นรุ่นที่ไม่มีกำไร เนื่องจากตกลงราคาซื้อกับไบคาลได้ไม่ดี
ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 20,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 19,000 บาท

มีระเบียบกระทรวงมหาดไทยออกมาหลังปืนยี่ห้อหนุมาณ ออกวางจำหน่าย (เอกสารเผยแพร่ น้อยมาก รู้กันเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนใหญ่)
ว่า หากผู้ขอ ป.3 ท่านใด ระบุว่า จะซื้อปืนยี่ห้อหนุมาณ ให้อำนวยความสะดวกให้ตามแต่สมควร โดยระบุลงใน ป.3 ว่า ให้ซื้อปืนหนุมาณเท่านั้น


***************************************************************
เอาล่ะครับ ตื่นมาล้างหน้าล้างตากันได้แล้วครับ นอนนาน ๆ แล้ว เดี๋ยวมันจะมึนหัวนะครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 11:26:25 AM »

คนไทย ไม่มีปืนยี่ห้อไทย ก็น้อยอกน้อยใจ ว่ารัฐบาลไทย ทำอะไรอยู่ ไม่ส่งเสริม ทั้งที่ฝีมือการทำปืนเถื่อนของไทย ก็แจ่มแจ๋ว

เอาล่ะ งั้นมาตั้งสมมุติฐานกัน **************

ขอให้ทุกท่าน เข้าสู่ โหมดแห่งความฝัน
*****************************************************************

คนไทย มีปืนยี่ห้อ"หนุมาณ" เป็นบริษัทร่วมทุนจากสิงห์คโปร์กับรัฐบาลไทย ประมาณว่า สิงห์คโปร์ออกแบบ ไทยออกกฏ ว่างั้น
ทำกึ่งออโต้ขนาด 9 ม.ม. วัสดุ โพลิเมอร์+เหล็กกล้า ลำกล้องสี่นิ้ว สั่งซื้อจากฟิลิบปินส์(เอาน่า...ไง ๆ ยี่ห้อก็ของไทย)
เป็นแบบเข็มพุ่งกระแทกแบบกล็อก  ออกแบบค่อนข้างทื่อ ๆ นิด ๆ เก็บงานเรียบร้อย หน้าตาปืน คล้าย ๆ ซิก229 ปนกล็อก ใส่เซฟตี้มันทุกจุดที่นึกได้
ซองกระสุน 10 นัด (กฏหมายไทยให้ได้แค่นั้น) อารมณ์คนที่ได้จับต้องครั้งแรก เหมือนได้จับ รูเกอร์ พี85 เลย ......
ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 70,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 40,000 บาท

ลูกโม่ .38 ลำกล้อง 3 นิ้ว โครงเจ (เพราะคนไทยส่วนใหญ่ตัวเล็กกว่าฝาหรั่ง) วัสดุเหล็กกล้า ผิวรมดำ และฮาร์ดโครม (มีรุ่นโครงขาวโม่ดำ เป็นรุ่นลิมิเต็ดด้วย)
ออกแบบ คล้ายกับจะเลียนแบบสมิธ แต่ปุ่มปลดโม่ กดเข้าแบบรูเกอร์ มีหลังสะพานเหมือนโคลท์ (เอ หรือไม่มีดีหว่า ให้นักวิจัยตลาดเขาตัดสินใจดีกว่า)
ลำกล้องค่อนข้างหนา แต่คอมเมนต์มาจากโรงงานว่า ไม่ควรยิงลูก +P+ (เอาน่า....)  น้ำหนักปืน 870 กรัม (รุ่นลิมิเต็ด 885กรัม ประกับปมมะค่าแกะลายด้วยมือ)
หน้าตาและขนาดปืน ใกล้เคียง สมิธ โมเดล 36 - 1 แต่น้ำหนักมากกว่า ติดศูนย์ปรับได้(ไม่มียี่ห้อ ทำจากฟิลิบปินส์) โม่จุ 6 นัด ตัวปืนค่อนข้างหนา
ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 55,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 32,000 บาท

ลูกซองแบบโยนลำ เบอร์12 บรรจุ 5 นัด ลำกล้อง 18 นิ้ว หน้าตาคล้าย 870 แปลกกว่าใครตรงโคนลำกล้องเป็นเหลี่ยม ศูนย์หน้าลูกปัด ลำกล้องหลังถนน ศูนย์หลังร่องบาก
วัสดุเหล็กกล้า พานท้ายไม้(ไม้นำเข้า นักเลงปืนขัดใจมาก) ระบบการทำงาน เหมือน 870 เพียงแต่ มีสปริงคืนลำเลื่อนเหมือนฟาร์บอาร์ม
ลำกล้อง หนากว่าลูกซองนำเข้า ปลายค่อนข้างรีด ไม่ระบุ ว่าสามารถยิงลูก 3 นิ้วได้หรือไม่ (นักเลงปืนเถียงกันกระทู้ร้อน)
ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 26,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 20,000 บาท หน่วยงานปราบปราม 15,500 บาท

ลูกซองเดี่ยว หักลำ  เอาไบคาลมาพะยี่ห้อ หนุมาณ เพื่ออุดตลาด  ไม่นำเสนอมาก เพราะเป็นรุ่นที่ไม่มีกำไร เนื่องจากตกลงราคาซื้อกับไบคาลได้ไม่ดี
ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 20,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 19,000 บาท

มีระเบียบกระทรวงมหาดไทยออกมาหลังปืนยี่ห้อหนุมาณ ออกวางจำหน่าย (เอกสารเผยแพร่ น้อยมาก รู้กันเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนใหญ่)
ว่า หากผู้ขอ ป.3 ท่านใด ระบุว่า จะซื้อปืนยี่ห้อหนุมาณ ให้อำนวยความสะดวกให้ตามแต่สมควร โดยระบุลงใน ป.3 ว่า ให้ซื้อปืนหนุมาณเท่านั้น


***************************************************************
เอาล่ะครับ ตื่นมาล้างหน้าล้างตากันได้แล้วครับ นอนนาน ๆ แล้ว เดี๋ยวมันจะมึนหัวนะครับ  ไหว้


ติความฝันนิดเดียว... ตรงที่มีสิงคโปร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนี่แหละครับ... Grin Grin Grin

บันทึกการเข้า
woglock
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 11:33:54 AM »

ติความฝันนิดเดียว... ตรงที่มีสิงคโปร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนี่แหละครับ... Grin Grin Grin

รัฐมนตรีกระทรวงพานิชย์เผยว่า การที่เราจะลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยง เราควรกระจายความเสี่ยงไปยังภาคธุรกิจอื่นด้วย
กับคำถามว่า ทำไมต้องเป็นสิงคโปร์ พณ.ฯ ตอบว่า เพราะเขาเป็นเจ้าแรกที่เสนอตัวและพิจารณาแล้วว่ามีความพร้อมที่สุด
ซ้ำยังสามารถยอมรับเงื่อนไขของรัฐบาลไทยที่ค่อนข้างเข้มงวดได้.......
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 11:37:30 AM »

ช่างพื้นบ้านไทยที่เคยผลิตปืนเถื่อน แล้วชมกันว่าเก่งอย่างโน้น เก่งอย่างนี้นั่นน่ะ... เก่งจริงแค่ในระดับตีเหล็กขึ้นรูปแล้วลงตะไบให้ได้ตามรูปตามร่างที่ต้องการครับ แต่ถ้าจะมาผลิตปืนเป็นเรื่องเป็นราวระดับอุตสาหกรรมแล้วยังห่างชั้นมาก, ที่ชมว่าเก่งน่ะเพราะคนชมและคนถูกชมไม่เคยศึกษาว่าหากจะผลิตอาวุธปืนให้ได้มาตรฐานนั้นต้องทำอย่างไร...

เรื่องผลิตอาวุธปืนไม่ใช่ของยากหรอก เรื่องยากกว่าเรายังผลิตได้เลย หากนึกไม่ออกก็ลองดูการผลิตเครื่องยนต์ ผลิตรถยนต์นั่นไง... บุคลากรระดับผลิต/ประกอบรถยนต์ หรือเครื่องมือเครื่องจักรอุตสาหกรรมนั้น หากย้ายงานมาให้ผลิตอาวุธปืน ถือเป็นเรื่องสบายง่ายมาก เพราะคนผลิตไม่จำเป็นต้องรู้เสียด้วยซ้ำว่าจะผลิตอะไร เอาแค่ผลิตตามแบบให้ได้รูปร่างขนาด และคุณสมบัติทางวิศวกรรมตามสเปคที่กำหนดเอาไว้ในพิมพ์เขียวเท่านั้นเอง... จากนั้นเป็นเรื่องใหญ่กว่า คือว่าจะขายให้ใคร ขายจำนวนเท่าไหร่ ราคาเท่าไหนจึงคุ้มทุนจมทุนแปรผันทุนค่าเสียโอกาส ฯลฯ...

ดังนั้นเรื่องที่ว่ากันว่าเมืองไทยมีช่างปืนมีฝีมือดีอยู่มากมาย แต่ไม่ยอมสนับสนุนคนฝีมือดี จนกระทั่งต้องกลายเป็นช่างตีมีดน่ะ... ถือเป็นเรื่องที่คนพูดกันในวงเหล้ามากกว่าครับ คือหาสาระได้ไม่ตรงอย่างคนคนพูดต้องการ...

สมมติว่าเอาช่างปืนที่ว่าฝีมือดีมาคุยเรื่องการผลิตปืน, เรื่องแรกคุยกันเรื่องความแข็ง/เหนียวของวัสดุเพื่อจะได้กำหนดได้ว่าชิ้นส่วนไหนใช้วิธีฉีดเข้าแม่พิมพ์ ชิ้นไหนขึ้นรูปด้วยวิธีทุบร้อนทุบเย็น ช่างปืนก็จะไม่รู้ลึก หากจะให้รู้ลึกก็ต้องว่ากัน 3 หน่วยกิต, เรื่องถัดมาคุยกันเรื่องขนาดชิ้นส่วนว่าชิ้นไหนมีค่าผิดพลาดได้ไม่เกินเท่าไหร่ จะคัดเกรดกันอย่างไร เช่นเกลียวลำกล้องเรียบแค่ไหนคัดเอาไว้สำหรับปืนยิงเป้า ชิ้นส่วนฟิตแค่ไหนหลวมแค่ไหน(แบบเดียวกับชิป แมคคอมมิกปรับปรุงแบบ 1911 จนฟิตแน่นด้วย CNC กลายเป็นจุดขายของปืนคิมเบอร์) ตรงนี้ก็จะเจออีก 3 หน่วยกิต... แล้วในที่สุดมันก็กลายเป็นว่ารวมเบ็ตเสร็จ 147 หน่วยกิต(อย่างนี้จ้างวิศวกรปริญญาตรีดีกว่าแฮะ)...

นี่ยังไม่นับเรื่องการสื่อสารการสั่งการ, การรับ/ส่งคำสั่งในระหว่างกระบวนการผลิต, การควบคุมคุณภาพ, การวิจัยและพัฒนา ฯลฯ... สรุปแล้วมันก็เหมือนกับเอาช่างก่อสร้างพื้นบ้านไปก่อสร้างตึก 10 ขั้นนั่นแหละครับ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางเป็นจริง...
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.077 วินาที กับ 20 คำสั่ง