lavigne
Jr. Member

คะแนน 2
ออฟไลน์
กระทู้: 34
|
 |
« เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 12:05:17 AM » |
|
ในประเทศไทยทำไมไม่ผลิตอาวุธใช้กันเองครับ...หรือว่ากฎหมายไม่รองรับครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 01:31:35 AM » |
|
ทำไมถึงคิดว่าเราไม่ผลิตเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
somkeat rtmc-love king
Full Member
 
คะแนน 19
ออฟไลน์
กระทู้: 301
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 07:43:00 AM » |
|
203 ยังทำได้เลยนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน
|
|
|
kutingtong
Sr. Member
  
คะแนน 68
ออฟไลน์
กระทู้: 905
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 09:40:52 AM » |
|
คงจะหมายถึง ไม่ผลิตในเชิงพานิชย์ ขายให้ประชาชนมากกว่าครับ เป็นคำถามโลกแตกที่มีมานานแล้วครับ อาจเป็นเพราะทางผู้ควบคุมรู้นิสัยคนไทยมั๊งครับ ขนาด กล้องนิคอน ยังมีตัวที่หลุด QC ออกมาขายเถื่อนเลย อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 09:49:44 AM » |
|
คงจะหมายถึง ไม่ผลิตในเชิงพานิชย์ ขายให้ประชาชนมากกว่าครับ เป็นคำถามโลกแตกที่มีมานานแล้วครับ อาจเป็นเพราะทางผู้ควบคุมรู้นิสัยคนไทยมั๊งครับ ขนาด กล้องนิคอน ยังมีตัวที่หลุด QC ออกมาขายเถื่อนเลย อิอิ
ถ้าหมายถึงตลาดทั่วไป คำตอบคือรัฐออกกฎหมายอนุญาตให้ทำได้มาตั้งแต่ พ.ศ.2519 แต่ตลาดเล็กเกินไป ไม่คุ้มกับการลงทุน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
feen
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 01:30:59 PM » |
|
ถ้าขายดี ผมว่าเดี๋ยวก็เหมือน รถ vmc หรือไม่ก็ มอเตอร์ไซค์ ไทเกอร์ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 7665
ออฟไลน์
กระทู้: 9988
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 01:55:18 PM » |
|
ช่างปืนเก่งๆไปตีมีดขายรวยไปแล้ว ถ้าไม่ตั้งเป้าการส่งออกคงจะยากที่จะลงทุนและตลาดข้างนอกก็แน่นไปหมดแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ruk™-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 643
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 4012
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 02:03:50 PM » |
|
ผมอยู่อยุธยาไม่ไกลจากกองโรงงานวัตถุระเบิด(ช่างแสง) ต.บ้านเกาะ ตรงใกล้ๆสี่แยกช่างแสง จะมีป้ายเตือน"ระวังรถขนวัตถุระเบิด" จึงยืนยันว่าประเทศไทยเราก็ผลิตอาวุธในทางทหาร(บางชนิด) ใช้เองนะครับ ส่วนทางพาณิชย์ท่านผู้การสุพินท์ตอบไปแล้ว และก็อย่างที่ท่าน Yut13 บอก แถวๆอรัญญิก อุทัย ท่าเรือ นครหลวง เดี๋ยวเหลือแต่ช่างตีมีด ตีเคียวอย่างเดียวแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คุณอาจเผาและทำลายบ้านเมืองเราได้ แต่คุณไม่สามารถทำลายความรักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ของเราไปได้ HS3JBX ทองพูน นุโยนรัมย์ : (คำขวัญประจำจังหวัด) ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานต์กวี คนดีศรีอยุธยา
|
|
|
mooh.cha<LOVE THE KING>
แม้นหวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 563
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1689
หนูคือลูกสาวของ พ่อหมู....ค่ะ
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 10:25:18 AM » |
|
ช่างปืนเก่งๆไปตีมีดขายรวยไปแล้ว  จริงด้วยแถวบ้านผมก็มี ขายเล่มหนึ่ง 2-3 พันบาท 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
บางครั้งระหว่างทาง สำคัญกว่าจุดหมายปลายทาง
|
|
|
DekWatPa_รักในหลวง
Jr. Member

คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 48
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 11:37:48 AM » |
|
ผมอยู่อยุธยาไม่ไกลจากกองโรงงานวัตถุระเบิด(ช่างแสง) ต.บ้านเกาะ ตรงใกล้ๆสี่แยกช่างแสง จะมีป้ายเตือน"ระวังรถขนวัตถุระเบิด" จึงยืนยันว่าประเทศไทยเราก็ผลิตอาวุธในทางทหาร(บางชนิด) ใช้เองนะครับ ส่วนทางพาณิชย์ท่านผู้การสุพินท์ตอบไปแล้ว และก็อย่างที่ท่าน Yut13 บอก แถวๆอรัญญิก อุทัย ท่าเรือ นครหลวง เดี๋ยวเหลือแต่ช่างตีมีด ตีเคียวอย่างเดียวแล้วครับ
สวัสดีครับพี่Theruk ผมก็อยู่อยุธยาครับ บางครั้งผ่านไปแถวนั้นก็เห็นป้ายเตือนก็ยังคิดในใจว่าแถวนี้อันตรายนะครับเกิดตูมตามขึ้นมาเหมือนคลังแสงแถวๆอีสานระเบิดในครั้งนั้นครับ แต่ก่อนเคยได้ยินเป็นเรื่องเล่าขำๆ แต่อาจจะเป็นจริงว่านักเลงโตคนหนึ่ง มักจะพกปืนติดตัวประจำแต่ด้วยความที่มีนิยมชมชอบลูกซองแต่ถ้าแบกปืนยาวไปมาตามท้องถนนก็คงโดนตำรวจท่านจับ เลยไปติดต่อช่างทำปืนคนหนึ่งที่ร่ำลือกันมานานว่าเก่งมากๆ สั่งออร์เดอร์ไปหนึ่งกระบอก เสร็จแล้วหนึ่งเดือนไปรับ ก็ได้อย่างประสงคสมกับที่ตั้งตารอคอย เป็นลูกซองสั้นบรรจุทีละหนึ่ง สวยงาม ด้ามปืนปั้นมาอย่างดีเหมาะมือมากๆ ลองยิงดูในระยะหวังผลก็ได้ดั่งใจไม่ตายก็สาหัสแน่ๆ พี่นักเลงโตก็พกไปเที่ยวเตร่ตามประสา มีอยู่วันหนึ่งเกิดเรื่องในงานวัด พี่แกก็ชักออกมาจนสุดแขนแล้วเอี้ยวตัวนิดหนึ่งไม่งั้นปลายปากกระบอกปืนจะติดขอบกางเกงยีนส์ตัวเก่ง พร้อมกับตะโกนออกมาขู่นักเลงต่างถิ่นวัยกระเตาะว่า เดี๋ยวยิงให้ไส้แตกเลยนะโว๊ย! นักเลงต่างถิ่นเห็นปืนถึงกับก้าวขาไม่ออก แต่ด้วยตนเองก็มีของดีเลยชักออกมาเป็น เก้ามอมอ ค่ายS&W ที่มีมาตรฐานดีและราคาสูง ต่างกับลูกซองสั้น(กึ่งยาว)ของนักเลงโตเจ้าถิ่นที่สั่งทำโดยโรงงานแมดอินไทยแลนด์ ผลปรากฏดวลกันในระยะหวังผล นักเลงต่างถิ่นกลับบ้านสบายแมลงวันไม่ได้กินเลือด เพราะเจ้ากรรมลูกซองดันลำกล้องแตก มือก็แหกซิครับ สุดท้ายนักเลงโตประจำถิ่นโดนตำรวจจับและยังต้องรักษาตัวอีก โชคดีไม่พิการ แต่ก็เข็ดไปหลายเลยครับ ที่เล่ามาไม่ใช่ว่าช่างคนไทยไม่เก่งนะครับ แต่อยากให้มองในมุมอีกมุมหนึ่งว่า เขาขาดการสนับสนุนครับฝีมือดี แต่ขาดเครื่องมือและวัสดุที่มีคุณภาพ และความรู้ที่ถูกต้องต่างหากครับ ผมเชื่อว่าหากมีการสนับสนุนที่ดี และการวางกฎหมายควบคุมที่เข้มงวดกวดขันเพื่อปองกันการนำเอาไปใช้อย่างผิดกฎหมาย บ้านเราก็คงมีอุตสาหกรรมอีกหนึ่งอย่างที่สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ไม่แพ้อุตสาหกรรมยานยนต์ได้นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pex Shotgun-รักในหลวงครับ
เป็ก ครับ
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 70
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 2208
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 09:19:53 AM » |
|
HK 33 ซื้อโรงมามาผลิตใช้ พักเดียวก็เลิกเห่อ ขายเครื่องจักรทิ้งหมด เสียดายเครื่องทำลำกล้องจัง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ปืนที่เรามีเปรียบดังเช่นเครื่องดับเพลิง พวกเราภาวนาว่าไม่ต้องใช้มันในสถานะการณ์จริง
แต่ถ้าเราจำเป็นต้องใช้ ต้องใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
|
|
|
woglock
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 11:16:14 AM » |
|
คนไทย ไม่มีปืนยี่ห้อไทย ก็น้อยอกน้อยใจ ว่ารัฐบาลไทย ทำอะไรอยู่ ไม่ส่งเสริม ทั้งที่ฝีมือการทำปืนเถื่อนของไทย ก็แจ่มแจ๋ว เอาล่ะ งั้นมาตั้งสมมุติฐานกัน ************** ขอให้ทุกท่าน เข้าสู่ โหมดแห่งความฝัน *****************************************************************คนไทย มีปืนยี่ห้อ"หนุมาณ" เป็นบริษัทร่วมทุนจากสิงห์คโปร์กับรัฐบาลไทย ประมาณว่า สิงห์คโปร์ออกแบบ ไทยออกกฏ ว่างั้น ทำกึ่งออโต้ขนาด 9 ม.ม. วัสดุ โพลิเมอร์+เหล็กกล้า ลำกล้องสี่นิ้ว สั่งซื้อจากฟิลิบปินส์(เอาน่า...ไง ๆ ยี่ห้อก็ของไทย) เป็นแบบเข็มพุ่งกระแทกแบบกล็อก ออกแบบค่อนข้างทื่อ ๆ นิด ๆ เก็บงานเรียบร้อย หน้าตาปืน คล้าย ๆ ซิก229 ปนกล็อก ใส่เซฟตี้มันทุกจุดที่นึกได้ ซองกระสุน 10 นัด (กฏหมายไทยให้ได้แค่นั้น) อารมณ์คนที่ได้จับต้องครั้งแรก เหมือนได้จับ รูเกอร์ พี85 เลย ...... ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 70,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 40,000 บาท
ลูกโม่ .38 ลำกล้อง 3 นิ้ว โครงเจ (เพราะคนไทยส่วนใหญ่ตัวเล็กกว่าฝาหรั่ง) วัสดุเหล็กกล้า ผิวรมดำ และฮาร์ดโครม (มีรุ่นโครงขาวโม่ดำ เป็นรุ่นลิมิเต็ดด้วย) ออกแบบ คล้ายกับจะเลียนแบบสมิธ แต่ปุ่มปลดโม่ กดเข้าแบบรูเกอร์ มีหลังสะพานเหมือนโคลท์ (เอ หรือไม่มีดีหว่า ให้นักวิจัยตลาดเขาตัดสินใจดีกว่า) ลำกล้องค่อนข้างหนา แต่คอมเมนต์มาจากโรงงานว่า ไม่ควรยิงลูก +P+ (เอาน่า....) น้ำหนักปืน 870 กรัม (รุ่นลิมิเต็ด 885กรัม ประกับปมมะค่าแกะลายด้วยมือ) หน้าตาและขนาดปืน ใกล้เคียง สมิธ โมเดล 36 - 1 แต่น้ำหนักมากกว่า ติดศูนย์ปรับได้(ไม่มียี่ห้อ ทำจากฟิลิบปินส์) โม่จุ 6 นัด ตัวปืนค่อนข้างหนา ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 55,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 32,000 บาท
ลูกซองแบบโยนลำ เบอร์12 บรรจุ 5 นัด ลำกล้อง 18 นิ้ว หน้าตาคล้าย 870 แปลกกว่าใครตรงโคนลำกล้องเป็นเหลี่ยม ศูนย์หน้าลูกปัด ลำกล้องหลังถนน ศูนย์หลังร่องบาก วัสดุเหล็กกล้า พานท้ายไม้(ไม้นำเข้า นักเลงปืนขัดใจมาก) ระบบการทำงาน เหมือน 870 เพียงแต่ มีสปริงคืนลำเลื่อนเหมือนฟาร์บอาร์ม ลำกล้อง หนากว่าลูกซองนำเข้า ปลายค่อนข้างรีด ไม่ระบุ ว่าสามารถยิงลูก 3 นิ้วได้หรือไม่ (นักเลงปืนเถียงกันกระทู้ร้อน) ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 26,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 20,000 บาท หน่วยงานปราบปราม 15,500 บาท
ลูกซองเดี่ยว หักลำ เอาไบคาลมาพะยี่ห้อ หนุมาณ เพื่ออุดตลาด ไม่นำเสนอมาก เพราะเป็นรุ่นที่ไม่มีกำไร เนื่องจากตกลงราคาซื้อกับไบคาลได้ไม่ดี ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 20,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 19,000 บาท
มีระเบียบกระทรวงมหาดไทยออกมาหลังปืนยี่ห้อหนุมาณ ออกวางจำหน่าย (เอกสารเผยแพร่ น้อยมาก รู้กันเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนใหญ่) ว่า หากผู้ขอ ป.3 ท่านใด ระบุว่า จะซื้อปืนยี่ห้อหนุมาณ ให้อำนวยความสะดวกให้ตามแต่สมควร โดยระบุลงใน ป.3 ว่า ให้ซื้อปืนหนุมาณเท่านั้น***************************************************************เอาล่ะครับ ตื่นมาล้างหน้าล้างตากันได้แล้วครับ นอนนาน ๆ แล้ว เดี๋ยวมันจะมึนหัวนะครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
   
คะแนน 1203
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 17188
การต่อสู้คือชัยชนะ
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 11:26:25 AM » |
|
คนไทย ไม่มีปืนยี่ห้อไทย ก็น้อยอกน้อยใจ ว่ารัฐบาลไทย ทำอะไรอยู่ ไม่ส่งเสริม ทั้งที่ฝีมือการทำปืนเถื่อนของไทย ก็แจ่มแจ๋ว เอาล่ะ งั้นมาตั้งสมมุติฐานกัน ************** ขอให้ทุกท่าน เข้าสู่ โหมดแห่งความฝัน *****************************************************************คนไทย มีปืนยี่ห้อ"หนุมาณ" เป็นบริษัทร่วมทุนจากสิงห์คโปร์กับรัฐบาลไทย ประมาณว่า สิงห์คโปร์ออกแบบ ไทยออกกฏ ว่างั้น ทำกึ่งออโต้ขนาด 9 ม.ม. วัสดุ โพลิเมอร์+เหล็กกล้า ลำกล้องสี่นิ้ว สั่งซื้อจากฟิลิบปินส์(เอาน่า...ไง ๆ ยี่ห้อก็ของไทย) เป็นแบบเข็มพุ่งกระแทกแบบกล็อก ออกแบบค่อนข้างทื่อ ๆ นิด ๆ เก็บงานเรียบร้อย หน้าตาปืน คล้าย ๆ ซิก229 ปนกล็อก ใส่เซฟตี้มันทุกจุดที่นึกได้ ซองกระสุน 10 นัด (กฏหมายไทยให้ได้แค่นั้น) อารมณ์คนที่ได้จับต้องครั้งแรก เหมือนได้จับ รูเกอร์ พี85 เลย ...... ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 70,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 40,000 บาท
ลูกโม่ .38 ลำกล้อง 3 นิ้ว โครงเจ (เพราะคนไทยส่วนใหญ่ตัวเล็กกว่าฝาหรั่ง) วัสดุเหล็กกล้า ผิวรมดำ และฮาร์ดโครม (มีรุ่นโครงขาวโม่ดำ เป็นรุ่นลิมิเต็ดด้วย) ออกแบบ คล้ายกับจะเลียนแบบสมิธ แต่ปุ่มปลดโม่ กดเข้าแบบรูเกอร์ มีหลังสะพานเหมือนโคลท์ (เอ หรือไม่มีดีหว่า ให้นักวิจัยตลาดเขาตัดสินใจดีกว่า) ลำกล้องค่อนข้างหนา แต่คอมเมนต์มาจากโรงงานว่า ไม่ควรยิงลูก +P+ (เอาน่า....) น้ำหนักปืน 870 กรัม (รุ่นลิมิเต็ด 885กรัม ประกับปมมะค่าแกะลายด้วยมือ) หน้าตาและขนาดปืน ใกล้เคียง สมิธ โมเดล 36 - 1 แต่น้ำหนักมากกว่า ติดศูนย์ปรับได้(ไม่มียี่ห้อ ทำจากฟิลิบปินส์) โม่จุ 6 นัด ตัวปืนค่อนข้างหนา ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 55,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 32,000 บาท
ลูกซองแบบโยนลำ เบอร์12 บรรจุ 5 นัด ลำกล้อง 18 นิ้ว หน้าตาคล้าย 870 แปลกกว่าใครตรงโคนลำกล้องเป็นเหลี่ยม ศูนย์หน้าลูกปัด ลำกล้องหลังถนน ศูนย์หลังร่องบาก วัสดุเหล็กกล้า พานท้ายไม้(ไม้นำเข้า นักเลงปืนขัดใจมาก) ระบบการทำงาน เหมือน 870 เพียงแต่ มีสปริงคืนลำเลื่อนเหมือนฟาร์บอาร์ม ลำกล้อง หนากว่าลูกซองนำเข้า ปลายค่อนข้างรีด ไม่ระบุ ว่าสามารถยิงลูก 3 นิ้วได้หรือไม่ (นักเลงปืนเถียงกันกระทู้ร้อน) ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 26,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 20,000 บาท หน่วยงานปราบปราม 15,500 บาท
ลูกซองเดี่ยว หักลำ เอาไบคาลมาพะยี่ห้อ หนุมาณ เพื่ออุดตลาด ไม่นำเสนอมาก เพราะเป็นรุ่นที่ไม่มีกำไร เนื่องจากตกลงราคาซื้อกับไบคาลได้ไม่ดี ราคาตั้งมาจากโรงงาน ลูกค้าพลเรือน 20,000 บาท ลูกค้าส่วนราชการและพนักงานของรัฐ(ไม่ต้องเข้าโครงการ) 19,000 บาท
มีระเบียบกระทรวงมหาดไทยออกมาหลังปืนยี่ห้อหนุมาณ ออกวางจำหน่าย (เอกสารเผยแพร่ น้อยมาก รู้กันเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนใหญ่) ว่า หากผู้ขอ ป.3 ท่านใด ระบุว่า จะซื้อปืนยี่ห้อหนุมาณ ให้อำนวยความสะดวกให้ตามแต่สมควร โดยระบุลงใน ป.3 ว่า ให้ซื้อปืนหนุมาณเท่านั้น***************************************************************เอาล่ะครับ ตื่นมาล้างหน้าล้างตากันได้แล้วครับ นอนนาน ๆ แล้ว เดี๋ยวมันจะมึนหัวนะครับ  ติความฝันนิดเดียว... ตรงที่มีสิงคโปร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนี่แหละครับ... 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
woglock
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 11:33:54 AM » |
|
รัฐมนตรีกระทรวงพานิชย์เผยว่า การที่เราจะลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยง เราควรกระจายความเสี่ยงไปยังภาคธุรกิจอื่นด้วย กับคำถามว่า ทำไมต้องเป็นสิงคโปร์ พณ.ฯ ตอบว่า เพราะเขาเป็นเจ้าแรกที่เสนอตัวและพิจารณาแล้วว่ามีความพร้อมที่สุด ซ้ำยังสามารถยอมรับเงื่อนไขของรัฐบาลไทยที่ค่อนข้างเข้มงวดได้.......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naisomchai
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 11:37:30 AM » |
|
ช่างพื้นบ้านไทยที่เคยผลิตปืนเถื่อน แล้วชมกันว่าเก่งอย่างโน้น เก่งอย่างนี้นั่นน่ะ... เก่งจริงแค่ในระดับตีเหล็กขึ้นรูปแล้วลงตะไบให้ได้ตามรูปตามร่างที่ต้องการครับ แต่ถ้าจะมาผลิตปืนเป็นเรื่องเป็นราวระดับอุตสาหกรรมแล้วยังห่างชั้นมาก, ที่ชมว่าเก่งน่ะเพราะคนชมและคนถูกชมไม่เคยศึกษาว่าหากจะผลิตอาวุธปืนให้ได้มาตรฐานนั้นต้องทำอย่างไร...
เรื่องผลิตอาวุธปืนไม่ใช่ของยากหรอก เรื่องยากกว่าเรายังผลิตได้เลย หากนึกไม่ออกก็ลองดูการผลิตเครื่องยนต์ ผลิตรถยนต์นั่นไง... บุคลากรระดับผลิต/ประกอบรถยนต์ หรือเครื่องมือเครื่องจักรอุตสาหกรรมนั้น หากย้ายงานมาให้ผลิตอาวุธปืน ถือเป็นเรื่องสบายง่ายมาก เพราะคนผลิตไม่จำเป็นต้องรู้เสียด้วยซ้ำว่าจะผลิตอะไร เอาแค่ผลิตตามแบบให้ได้รูปร่างขนาด และคุณสมบัติทางวิศวกรรมตามสเปคที่กำหนดเอาไว้ในพิมพ์เขียวเท่านั้นเอง... จากนั้นเป็นเรื่องใหญ่กว่า คือว่าจะขายให้ใคร ขายจำนวนเท่าไหร่ ราคาเท่าไหนจึงคุ้มทุนจมทุนแปรผันทุนค่าเสียโอกาส ฯลฯ...
ดังนั้นเรื่องที่ว่ากันว่าเมืองไทยมีช่างปืนมีฝีมือดีอยู่มากมาย แต่ไม่ยอมสนับสนุนคนฝีมือดี จนกระทั่งต้องกลายเป็นช่างตีมีดน่ะ... ถือเป็นเรื่องที่คนพูดกันในวงเหล้ามากกว่าครับ คือหาสาระได้ไม่ตรงอย่างคนคนพูดต้องการ...
สมมติว่าเอาช่างปืนที่ว่าฝีมือดีมาคุยเรื่องการผลิตปืน, เรื่องแรกคุยกันเรื่องความแข็ง/เหนียวของวัสดุเพื่อจะได้กำหนดได้ว่าชิ้นส่วนไหนใช้วิธีฉีดเข้าแม่พิมพ์ ชิ้นไหนขึ้นรูปด้วยวิธีทุบร้อนทุบเย็น ช่างปืนก็จะไม่รู้ลึก หากจะให้รู้ลึกก็ต้องว่ากัน 3 หน่วยกิต, เรื่องถัดมาคุยกันเรื่องขนาดชิ้นส่วนว่าชิ้นไหนมีค่าผิดพลาดได้ไม่เกินเท่าไหร่ จะคัดเกรดกันอย่างไร เช่นเกลียวลำกล้องเรียบแค่ไหนคัดเอาไว้สำหรับปืนยิงเป้า ชิ้นส่วนฟิตแค่ไหนหลวมแค่ไหน(แบบเดียวกับชิป แมคคอมมิกปรับปรุงแบบ 1911 จนฟิตแน่นด้วย CNC กลายเป็นจุดขายของปืนคิมเบอร์) ตรงนี้ก็จะเจออีก 3 หน่วยกิต... แล้วในที่สุดมันก็กลายเป็นว่ารวมเบ็ตเสร็จ 147 หน่วยกิต(อย่างนี้จ้างวิศวกรปริญญาตรีดีกว่าแฮะ)...
นี่ยังไม่นับเรื่องการสื่อสารการสั่งการ, การรับ/ส่งคำสั่งในระหว่างกระบวนการผลิต, การควบคุมคุณภาพ, การวิจัยและพัฒนา ฯลฯ... สรุปแล้วมันก็เหมือนกับเอาช่างก่อสร้างพื้นบ้านไปก่อสร้างตึก 10 ขั้นนั่นแหละครับ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางเป็นจริง...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|