รวมวิธีสับรางด้วยมือถือครับ

บังเอิญอ่านเจอ เห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็ ลองดูครับ

รวมวิธีการสับรางด้วยมือถือ

>>1.memเบอร์โทรกิ๊ก ให้โชว์เป็นตัวเลขแทน
>>
>>สมมติว่าเบอร์โทรกิ๊กเป็นเบอร์ 012345678 ก็ให้memดังนี้
>>
>>Name : 018110888
>><--ให้เข้าใจเอาเองว่าเลขนี้หมายถึงกิ๊กหรือว่าใครก็ตามที่ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้
>>Number : 012345678
>>
>>ตอนmemเบอร์โทรศัพท์ แล้วจะต้องใส่ชื่อ ก็ให้ใส่ชื่อเป็นตัวเลขแทน
>>โดยใช้เบอร์โทรที่โทรกลับไม่ได้ เช่น เบอร์message center ต่างๆ
>>ของเครือข่ายไหนก็ได้ ของAIS จะเป็นเบอร์ 018110888 พอกิ๊กโทรเข้ามา
>>ที่เครื่องก็จะโชว์ชื่อ แต่เผอิญว่าเราmemชื่อกิ๊กเป็นตัวเลข
>>ตัวเลข018110888ก็จะโชว์ขึ้นมาแทนชื่อ ถ้าเราอยู่กับแฟน
>>เราจะไม่รับก็ไม่เสียหาย ถ้าแฟนถามว่าทำไมไม่รับก็บอกแฟนไปว่า
>>เค้าโทรมาตื้อให้ไปฟังแอมเวย์ ถ้าแฟนไม่เชื่อ ก็เอาเบอร์ให้ดู
>>ถ้าแฟนจะลองโทรย้อนกลับ ก็ให้กดเบอร์018110888แล้วกดโทรออก
>>ก็จะได้ยินเป็นเสียงสัญญาณสายไม่ว่างตลอด<--เน้น..ขั้นตอนนี้นะคับ
>>ว่าให้กดเบอร์แล้วกดโทรออก อย่าเรียกในเมนู Missed Call ล่ะ เพราะใน Missed
>>Call มันเป็นแค่ชื่อเสมือนเท่านั้น ถ้ากดโทรออกจากMissed Call
>>มันจะไปเรียกเบอร์กิ๊กเอาอะดิ คราวนี้ก็ตัวใครตัวมันละกัน
>>
>>
>>2. ถ้าอยู่กับแฟน แล้วกิ๊กโทรเข้ามา แต่ไม่ได้memเบอร์ไว้ตามข้อ1 ทำไงดีล่ะ?
>>
>>อันนี้เอามาจากเพื่อนผมนะคับ....
>>กดตัดสายทิ้งเลย แล้วโทรกลับหาบุพการีทันที
>>พอบุพการีรับก็ให้เริ่มพูดด้วยประโยคที่ว่า "มีอะไรมั้ย" แล้วค่อยถามสารทุกข์
>>สุขดิบ...คุยไปเรื่อยๆซักพัก อันนี้ขึ้นอยู่กับความลื่นไหลของแต่ละคนละกัน
>>คุยยังไงก็ได้ให้แฟนเข้าใจว่าเรากำลังคุยอยู่กับบุพการี
>>หรือผู้ใหญ่ที่เราให้ความเคารพนับถือ
>>จุดสำคัญอยู่ที่ตอนวางสาย กดวางสายเสร็จ ให้ปิดเครื่องทันที
>>ทำให้เร็ว..แล้วต้องเนียนๆด้วยนะ อย่าให้มีพิรุธ
>>
>>
>>3.โทรศัพท์ที่ใช้ ศึกษาคุณสมบัติให้ดี รุ่นแพง คุณสมบัติเยอะๆ ความจำแม่นๆ
>>ใส่รูปไว้เป็นwallpaperได้ ให้ห่างๆไว้เลย
>>
>>เอารุ่นธรรมดาก็พอ รุ่นแบบที่ว่าจำlistโทรเข้า โทรออก ไม่ได้รับสาย
>>ไว้ได้เป็นเดือนๆ อย่าไปใช้ โดยเฉพาะรุ่นที่เป็นSmart Phone หรือ พวกที่ใช้
>>OS Symbian นะ ห่างๆไว้เลย บางรุ่น เล่นจำหมด โทรไปกี่ครั้ง บ่อยแค่ไหน
>>รุ่นพวกนี้มันดึงlistออกมาเป็นไฟล์ เปิดดูในExcelได้เลย
>>เลือกรุ่นที่เลือกลบเบอร์ โทรเข้า โทรออก ไม่ได้รับสาย
>>ที่ลบเบอร์ทีละเบอร์ได้ ไม่ใช่ลบทีเล่นเคลียร์ทั้งlist
>>หลังจากลบเสร็จก็เติมlistให้เต็มตามเดิมด้วยล่ะ อย่าให้มันแหว่ง
>>ถ้าลบเบอร์โทรออก ก็กดเบอร์โทรออกอะไรก็ได้ให้มันเต็มซะ ถ้าเป็นเบอร์โทรเข้า
>>หรือ เบอร์ไม่ได้รับสาย คงต้องวานเพื่อน หรือหยอดตู้ โทรเข้ามาก็ได้
>>
>>
>>4.นำจุดด้อยของโทรศัพท์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์
>>
>>ไม่แน่ใจว่าข้อนี้จะใช้ได้กับมือถือรุ่นปัจจุบันรึเปล่านะ
>>เมื่อก่อนตอนที่Ericsson T28sออกมา รุ่นนี้ชอบมีปัญหาเรื่องPAพังบ่อยๆ
>>ช่างมักจะแนะนำให้ปิดเครื่อง ชาร์จแบต <--- เอาไปใช้เลย
>>โทรไปหาแฟนก่อน อย่ารอให้แฟนโทรมา ร่ำลา..กันให้เสร็จสรรพ
>>บอกแฟนไปว่าจะนอนแล้วนะ (ทำเสียงง่วงๆด้วยล่ะ)
>>เดี๋ยวจะปิดเครื่องชาร์ตแบตแล้ว (ทำให้เป็นประจำด้วยล่ะ) พอวางสายเสร็จ
>>ปิดเครื่อง ทีนี้ก็11-RDได้เต็มที่
>>อืม..ตอนไปเที่ยวก็ดูตาม้าตาเรือให้ดีด้วยล่ะ เดี๋ยวไปเจอเพื่อนแฟน
>>แต่ถ้าเพื่อนแฟนบังเอิญเห็น ก็ให้รีบๆเปลี่ยนที่เที่ยวซะ
>>อย่าให้เพื่อนแฟนเข้ามาทัก หรืออย่าไปคุยกับเพื่อนแฟนเชียวล่ะ
>>พออีกวันถ้าแฟนถาม..แก้ไม่ยาก ท่องไว้ว่า "จับไม่มั่น คั้นไม่ตาย
>>ยังไงก็ไม่สารภาพ" อ้างข้างๆคูๆไปเรื่อยๆ เพื่อนตาฝาดมั้ง..อารัยก็ว่าไป
>>แต่..ถ้าเจอแฟนจังๆ ทำยังไงล่ะ...อย่าวิตกคับ
>>อันนี้แก้ง่ายกว่าเจอเพื่อนแฟนซะอีก ก็บอกไปเลยว่า
>>เพื่อนโทรบอกว่าเห็นเธอมาเที่ยวกับคนอื่น...ผมก็เลยตามมาไง ไหน..มากับใคร
>>เมื่อกี้บอกว่าจะนอนแล้วไง
>>แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...(พลิกสถานการณ์ให้เค้าตั้งตัวไม่ทัน)
>>
>>
>>5.โทรศัพท์มือถือกับแบตหมด มันของคู่กัน
>>
>>โทรศัพท์เดี๋ยวนี้แข่งกันว่าแบตใครอึดกว่ากัน จะแข่งกันไปถึงไหน
>>แค่2-3วันก็เต็มกลืนแล้วหละ โดยเฉพาะPhilips Xeniumนะ ห่างๆไว้เลย
>>ขึ้นชื่อเรื่องแบตโคตรทนมาตั้งแต่รุ่นแรกๆแล้ว
>>เริ่มจากXenium929,939เมื่อ5ปีก่อน
>>มือถือเครื่องอื่นๆแบตอยู่ได้2-3วันก็หรูแล้ว
>>แต่Xenium929,939ปาเข้าไป10กว่าวัน ถ้าใช้เปลืองๆหน่อยก็ไม่เคยต่ำกว่า5วันเลย
>>ตอนนี้ออกรุ่นใหม่Xenium9@9โฆษณาว่าแบตอยู่ได้เป็นเดือน
>>โทรศัพท์อย่างนี้แค่หางตาก็อย่าไปมอง
>>ถ้าจะเอาที่แบตหมดเร็วๆเลยก็ Siemens แบตหมดเร็วมาก
>>เล่นนิดๆหน่อยๆวันเดียวก็หมดแล้วหละ ประมาณว่าต้องชาร์จทุกวัน
>>แต่ผมไม่ได้แนะนำว่าต้องใช้Siemensนะ เพียงแต่ถ้าคุณใช้รุ่นไหน
>>ก็ต้องต้องกะเวลาแบตหมดให้พอดีกับก่อนจะไปเที่ยวก็เท่านั้น
>>สมมติว่า คืนนี้คุณต้องการ11-RD ถ้าโทรศัพท์คุณ2วันชาร์จที
>>คุณก็ต้องวางแผนล่วงหน้าไว้วันก่อนหน้านี้แล้ว
>>ว่าจะให้โทรศัพท์มีประจุไฟอยู่ในแบตเท่าไหร่
>>กะเวลาใช้งานแค่พอใช้ได้ก่อนถึงเวลาก่อนเที่ยวนิดนึง แต่สายสุดท้ายที่คุณโทร
>>คุณต้องโทรหาแฟนคุณนะ โทรทั้งๆที่แบตจะหมดนั่นแหละ
>>ให้เค้าได้ยินสัญญาณเตือนแบตใกล้หมดด้วย แล้วคุยให้เครื่องมันดับไปเองเลยนะ
>>จากนั้นก็อย่าเปิดเครื่องอีกล่ะ หมดแล้วหมดเลย ทีนี้พอเข้าใจแล้วใช่มั้ยคับ
>>ว่าทำไมโทรศัพท์ที่แบตทนๆ มันไม่ค่อยน่าใช้
>>
>>
>>6.จะรู้ได้อย่างไรว่าปลายทางปิดเครื่อง แบตหมด หรืออยู่นอกพื้นที่ให้บริการ
>>
>>คุณลองกดปิดเครื่องแล้วโทรเข้าเบอร์คุณเองสิ
>>ลองจับเวลาหลังกดเลขหมายหลักสุดท้ายเสร็จ จนถึงคำแรกที่ระบบอัตโนมัติพูด
>>ไม่ว่าจะเป็น "ท่านกำลังเข้าสู่บริการ....." หรือ
>>"หมายเลขที่ท่านเรียกไม่....." หรือ ".....(จะเป็นคำพูดใดๆก็ช่าง)...."
>>พอกดเลขหลักสุดท้ายเสร็จ ระบบคำพูดอัตโนมัติเหล่านี้มักจะพูดขึ้นมาทันที
>>แต่ถ้าลองถอดแบตโดยไม่ต้องปิดเครื่องก่อน หรือ
>>เอาโทรศัพท์ไปใส่ไว้ในกล่องโลหะ เช่น
>>กล่องขนมปังอาเซนอล(กระป๋องโลหะกลมๆแดงๆอ่ะ)หรือกล่องโลหะอะไรก็ได้ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน

>>จากนั้นก็ลองโทรเข้าไปอีกที ลองจับเวลาหลังจากกดเบอร์หลักสุดท้ายสิ
>>คุณจะพบว่า มันจะเงียบไปซักพัก แล้วถึงจะมีคำพูดจากระบบอัตโมมัติพูดขึ้นมา
>>ส่วนสาเหตุ ทำไมมันเป็นอย่างนี้ ก็เพราะว่า ถ้าคุณกดปิดเครื่อง
>>ตัวเครื่องจะส่งสัญญาณไปที่ชุมสาย บอกว่าหมายเลขนี้ปิดเครื่องแล้ว
>>ถ้ามีใครโทรเข้ามา ชุมสายก็จะไม่เสียเวลาค้นหาเครื่อง
>>ระบบคำพูดอัตโนมัติจะทำงานเลย ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องส่งสัญญาณไปจริงรึเปล่า
>>ลองกดปิดเครื่องใกล้ๆวิทยุสิ จะได้ยินเสียงคลื่นรบกวนวิทยุอยู่แป๊ปนึง
>>นั่นแหละ มือถือกำลังส่งสัญญาณปิดเครื่องไปที่ชุมสายแหละ
>>คราวนี้มาลองถอดแบตดูบ้าง โดยที่ไม่ต้องปิดเครื่องก่อนถอดแบต
>>จะไม่มีคลื่นใดๆรบกวนวิทยุเลย
>>ก็เพราะว่าแหล่งพลังงานของมือถือโดนตัดออกอย่างกระทันหัน
>>เครื่องก็เลยไม่มีพลังงานส่งสัญญาณไปแจ้งชุมสาย
>>ทางชุมสายก็เข้าใจว่ามือถือเครื่องนี้อาจจะอยู่ในจุดอับสัญญาณหรืออยู่นอกพื้นที่ให้บริการ
>>พอมีคนโทรเข้ามา ชุมสายก็จะใช้เวลาพยายามค้นหามือถืออยู่สักพัก
>>แล้วระบบคำพูดอัตโนมัติถึงจะทำงาน
>>นี่ก็เอาไว้สังเกตว่าเครื่องปลายทางปิดเครื่อง หรือว่า อยู่นอกเขตสัญญาณ
>>ทีนี้..ถ้าคุณต้องการปิดเครื่องหนี ก็แนะนำให้ถอดแบตออกจะดีกว่า
>>คุณจะได้เอาไปอ้างได้ว่า..แบตหมด ^_^"
>>
>>
>>7.อยากรู้ว่าเครื่องปลายทางอยู่ที่ไหน
>>
>>ข้อนี้ไม่เกี่ยวกับhutchนะคับ ระบบนี้ออกมาแบบแจ้งตำแหน่งละเอียดเชียว
>>ม่ายหวายอ่ะ ใครจะใช้ก็ใช้เหอะ
>>ที่ผมจะพูดถึงก็เป็นระบบสีเหลือง,สีฟ้าและสีส้ม
>>คุณลองลงทะเบียนใช้งานผ่านเวปสิ แล้วเข้าไปดูรายละเอียดการโทร
>>ถ้าโทรศัพท์เป็นระบบเดียวกัน เช่น สีเหลือง-สีเหลือง , สีฟ้า-สีฟ้า ,
>>สีส้ม-สีส้ม แบบนี้มันจะแจ้งว่าต้นทางโทรจากที่ไหน
>>เบอร์ปลายทางรับสายอยู่ที่ไหน เพราะว่าเป็นเครือข่ายเดียวกัน
>>มันสามารถเช็คได้อยู่แล้ว
>>แต่ถ้าโทรศัพท์ต่างระบบะกัน เช่น สีเหลือง-สีฟ้า , สีฟ้า-สีส้ม ,
>>สีส้ม-สีเหลือง แบบนี้มันจะแจ้งแค่ว่าต้นทางโทรจากที่ไหน
>>เบอร์ปลายทางจดทะเบียนที่ไหน
>>อย่างนี้เราไม่รู้เลยว่าเบอร์ปลายทางรับสายอยู่ที่ไหน
>>เพราะถ้าโทรข้ามเครือข่าย
>>เบอร์ต้นทางจะยิงสัญญาณไปยังเครือข่ายของเบอร์ปลายทาง ณ
>>จุดจดทะเบียนของเครื่องปลายทางเท่านั้น
>>ส่วนที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของเครือข่ายปลายทางที่จะหาว่าเครื่องลูกข่ายอยู่ที่ไหน
>>ทีนี้เราจะใช้ข้อดีจากจุดนี้ได้ยังไง
>>ถ้าเราไปไหนแล้วไม่อยากให้แฟนรู้ว่าเราไปไหน ก็ใช้โทรศัพท์คนละระบบกันซะ
>>ทีนี้จะขึ้นเหนือล่องใต้ก็ไม่มีใครรู้
>>แต่ถ้าเราต้องการรู้ว่าแฟนเราอยู่ที่ไหน
>>ก็หาเบอร์ที่เป็นระบบเดียวกันโทรเข้าไปหา
>>แล้วค่อยไปค้นดูในรายละเอีดยการใช้โทรศัพท์ ว่าเมื่อตอนที่เราโทรหา
>>เค้าอยู่ที่ไหน
>>
>

ลองเอาไปใช้กันดู คับ..........

	ผู้เขียน	หัวข้อ: รวมวิธีสับรางด้วยมือถือครับ (อ่าน 4389 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้