เห็นว่าน่าสนใจลองอ่านดูครับ.. 
...ทหารที่อยู่ที่นี่ก็พยายามทุกวิถีทาง เพื่อจะซื้อใจชาวบ้าน ตั้งแต่ออกไปช่วยทำนา ไปตั้งเต็นท์ตัดผมให้ฟรีตามมัสยิดและโรงเรียน ฝึกอาชีพให้ เป็นการอยู่ร่วมกันแบบไม่กดดัน ทีนี้พอคุ้นเคยกันมากๆ ผู้นำบ้าง ชาวบ้านบ้าง เขาก็มาบ่นให้ฟังว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ช่วยเขาไม่ได้ ผมบอกว่าไม่ใชไม่ช่วย แต่เป็นเพราะชาวบ้านไม่ให้ข้อมูล ไม่บอก แล้วจะให้ช่วยได้ยังไง เวลาเกิดเหตุก็โทษว่าเป็นฝีมือของทหาร ตำรวจ ในหมู่บ้านชาวบ้านจะรู้ข้อมูลดีที่สุดว่าใครเป็นใคร บ้านคุณเองแท้ๆยังไม่ยอมรักษา แล้วจะให้พวกผมทำอย่างไร?...
...มีชาวบ้านมาเตือนเหมือกันว่า มีถังดับเพลิงหายไปให้ระวัง คือ กลุ่มคนร้ายจะดัดแปลงเอาถังดับเพลิงขนาดเล็กไปทำระเบิดแล้วไปฝังไว้กลางถนนต่อสายชนวนลอดไปอีกทางหนึ่ง พอรถทหารวิ่งก็กดรีโมตให้ระเบิด ตอนเกิดเหตุการณ์ ทหารกำลังขนน้ำไปให้ชาวบ้านในพื้นที่ ..ตูมเดียว รถขาดเป็นสองท่อน ทหารผมเสียชีวิตหนึ่งนาย ก่อนมาเราคุยกันว่า มาเท่าไหร่กลับแค่นั้น...
...หลายครั้งที่ได้รับคำเตือนจากชาวบ้านให้ระวัง และมีการบอกจุดว่า มีระเบิดฝังไว้จุดนั้น จุดนี้ ครั้งแรกก็ไม่เชื่อเหมือนกัน เกรงจะเป็นกลลวงของฝ่ายตรงข้าม แต่เพื่อความไม่ประมาทเราได้มีการตรวจสอบ และพบว่าเป็นความจริง คนร้ายมีการฝังระเบิดไว้ แล้วใช้คอนกรีตเททับปิดไว้ เวลารถวิ่งผ่านจะมองไม้เห็น และไม่มีทางทราบได้เลย ถ้าไม่ได้ชาวบ้าน เราคงเสียกำลังพลอีกเยอะ...
...บางหมู่บ้านทหารเข้าไป เขาไม่คุยเลย ปิดบ้านเงียบ พอเข้าไปคุยหรือถามอะไร มีคำตอบอยู่ 3 คำ คือ ไม่รู้ ไม่อยู่ ไม่เห็น..ถ้าเป็นอย่างนี้เราแยกประเภทได้ทันที คือ ถ้าไม่จัดอยู่ในข่ายแนวร่วม แกนนำ ก็อาจจะหวาดกลัวเจ้าหน้าที่ แต่จำแนกได้ไม่ยากหรอก ต้องใช้วิธีเข้าหมู่บ้านไหนได้ ให้เริ่มทำก่อน จากที่แดงๆ ตอนนี้เป็นเขียวแล้วมันต้องใช้เวลาเพราะชาวบ้านเขาผ่านอะไรมาเยอะ...
...ถ้ามั่นใจจริงๆ ว่าปลอดภัย คือการออกลาดตระเวนในเขตหมู่บ้านไทยพุทธ แต่หมู่บ้านไทยมุสลิมก็ดีขึ้น ผมว่าการจะให้เขาไว้ใจเราในระยะสั้นๆ คงเป็นไปไม่ได้ เราจะต้องแสดงความจริงใจให้เขาก่อน
จริงใจจริงๆนะ ไม่ใช่จริงใจหรอกๆ.....พ.ต.สนั่น (รองผบ.พัน ร.602) กล่าวไว้....
