เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 25, 2025, 01:03:59 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระราชพาหนะ เครื่องใหม่  (อ่าน 6481 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ชวนชม
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 10:14:42 PM »

พระราชพาหนะ เครื่องใหม่  BOING 737-800    (ภาพแทน)





http://www.manager.co.th/Politics/PoliticsQAQuestion.asp?QAID=5553

ราชพาหนะ VS ‘แอร์ฟอร์ซวัน’ เรื่องของการจัดลำดับความสำคัญ !
คำถาม

เห็นคุณสนธิฯพูดในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร(ครั้งที่ 6) ว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับการจัดซื้อ “เครื่องบินพระราชพาหนะ” แต่ถ้าผมจำไม่ผิด เพิ่งมีมติครม.ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้อนุมัติเงินกว่า 3,000 ล้านบาทซื้อเครื่องบินพระราชพาหนะถวายนี่ครับ ไม่ทราบรายละเอียดของเรื่องเป็นอย่างไร คุณพายัพฯช่วยย้อนหลังบอกเล่าหน่อย เพราะจำได้ว่าเคยมีการอภิปรายคัดค้านกันในสภาผู้แทนราษฎรถึงตอนจะซื้อเครื่องบิน “ไทยคู่ฟ้า” เมื่อสองสามปีก่อน

สังคม บทจร 3 พ.ย. 48 
คำตอบ

“ทุกวันนี้ พระบรมวงศานุวงศ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จพระราชดำเนิน มีพระราชพาหนะที่จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจทางภาคใต้ ยังใช้เครื่องบินเก่า ๆ เครื่องบินเก่า ๆ สิบกว่าปีแล้ว แต่ว่าไอ้รัฐบาลชุดนี้มันซื้อเครื่องบินใหม่ แล้วมันเรียกว่าไทยคู่ฟ้า แล้วมันบินไปโน่น บินไปนี่ บินไปยุโรป บินไปอเมริกา บินไปโน่น บินไปนี่ พาคนซึ่งไม่ได้เป็นข้าราชการไป ผมถาม...เอาเพียงแค่นี้เอง ก็รู้ซึ้งเห็นแก่ใจแล้วใช่ไหมว่าคนเราสันดานที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร ใจนี่นะ...ที่แท้จริง...ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องบิน ต้องประชุมครม. แล้วบอกว่า พวกเรา...พระราชพาหนะนั้นเก่าแล้ว...เราน่าจะซื้อพระราชพาหนะใหม่ให้กับพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมวงศานุวงศ์ แล้วเราเอาเครื่องบินเก่า ๆ ของพระองค์ท่านมาใช้ก็แล้วกัน... แค่นี้ยังคิดไม่ออก แล้วมันยังจะคิดมาปกครองประเทศไทย...

“เอาประเทศไทยของเราคืนมา....”








เครื่องบิน "ไทยคู่ฟ้า" คู่บัลลังก์นายกฯทักษิณ ชินวัตร



น่าจะไปส่งคำถามที่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรครั้งที่ 7 ที่อาคารลุมพินีสถานในวันนี้โดยตรงนะครับ เพราะดูเหมือนคุณสนธิฯพูดไว้สั้น ๆ เป็นการยกตัวอย่างประกอบ ยังไม่ได้เข้าเรื่องนี้ตรง ๆ วันนี้น่าจะพูดถึงเรื่องนี้โดยตรง

แต่ไม่เป็นไรไหน ๆ ก็ถามมาที่นี้แล้ว ผมจะให้ข้อมูลพื้นฐานก่อน

จริงครับ ว่ารัฐบาลอนุมติซื้อเครื่องบินพระราชพาหนะลำใหม่แล้วเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2548

แต่เป็นการอนุมัติหลังจาก “ตะแบง” ต่อไปไม่ได้ !

รัฐบาลงบประมาณ 3,017 ล้านบาท หรือ 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 737 - 800 จำนวน 1 ลำเป็นเครื่องบินทดแทนเครื่องบินพระราชพาหนะเดิม

สมควรอย่างยิ่งแล้วครับ

เพราะเครื่องบินพระราชพาหนะ ลำปัจจุบัน คือ โบอิ้ง 737 – 400 มีอายุการใช้งานมากกว่า 13 ปีแล้ว

แต่กว่าจะจัดซื้อ กว่าจะผลิต และกว่าจะได้รับมอบ -- ก็ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ ?

ทราบกันหรือไม่ครับว่า ปัจจุบันนี้เครื่องบินพระราชพาหนะมีไม่พอ และเก่ามาก เครื่องสำรองอีก 2 ลำมีอายุใกล้เคียงกัน ลำหนึ่ง 25 ปี อีกลำหนึ่ง 18 ปี

บางครั้งถึงขั้นที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ต้องเสด็จโดยเครื่อง ซี 130

กองทัพอากาศต้องปรับเครื่องบินลำเลียง ซี 130 มาใช้ โดยเอานำเก้าอี้ของสายการบินมาติดบนแผ่นอลูมิเนียม ปูพื้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่สะดวกสบายนัก

แต่ถึงจะตัดสินใจจัดซื้อไปแล้ว เรื่องก็ยังไม่จบง่าย ๆ แค่นั้น

ยังจะต้องตำหนิติติงกันอย่างรุนแรงต่อไป

ประการแรก – เพราะรัฐบาลไม่แสดงความใส่ใจที่จะจัดซื้อเครื่องบินพระราชพาหนะทูลเกล้าฯถวายให้ทันการณ์

ทั้ง ๆ ที่กองทัพอากาศเสนอซื้อไปตั้งแต่ ปี 2546 แต่กลับถูก “แช่เรื่อง” ไว้

ทั้ง ๆ ที่โดยสำนึกแล้ว ไม่ว่าใครพรรคไหนจะมาเป็นรัฐบาล ถ้ายังถือว่าตัวเองเป็นคนไทยอยู่ จะต้องเร่งรัดภารกิจนี้

เป็นภารกิจเร่งด่วน เพราะนี่เป็นเรื่องของการถวายความปลอดภัย

แต่กลับมาคิดจัดซื้อเอาตอนปลายปี 2548

และกว่าจะได้เครื่องใหม่มาทดแทนลำเดิมที่ใช้งานมานานกว่า 13 ปี ต้องรออย่างน้อย 2 ปี หรืออาจจะเป็น 3 ปี

ประการที่สอง - ร้ายแรงมาก เพราะนอกเหนือจากไม่เร่งรัดแล้ว ยังใช้ข้ออ้างที่มิบังควรมาชะลอการจัดซื้อ ก็คือไม่มีเงิน ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง

ข้ออ้างเมื่อปี 2546 ดังกล่าวก็คือรัฐบาลยังไม่มีงบประมาณ

แต่ปรากฏว่าในปี 2546 เดียวกันนั้น รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มีมติครม.เพื่อจัดซื้อเครื่องบินลำเลียงขนาดกลางมาใช้ เป็นเครื่อง แอร์บัส 319 ACJ ซึ่งในที่สุดเครื่องลำนี้ ก็กลายมาเป็น “ไทยคู่ฟ้า” หรือที่ชาวบ้านเรียกตามแบบเครื่องบินประจำตัวประธานาธิบดีอเมริกัน “แอร์ฟอร์ซ 1” นั่นเอง

ไม่มีเงินซื้อเครื่องบินพระราชพาหนะ แต่มีปัญญาซื้อเครื่องบินประจำตำแหน่ง

เป็นข้ออ้างที่ไม่สมควร !

ไหนประกาศนักหนาว่ามีเงินเยอะ ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟก่อนหมดก่อนกำหนด ทำโครงการเมกกะโปรเจ็คได้มากมาย

ประการที่สาม - เครื่องแอร์ฟอร์ซ 1 ที่ได้มานั้น มาจากกระบวนการที่มิบังควร

เป็นการเล่นแร่แปรธาตุ เอาเครื่องเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะไปแลก

แทนที่คิดจะแลกเพื่อจัดหาเครื่องบินพระราชพาหนะลำใหม่ แต่กลับเอามาแลกเพื่อนำมาใช้เอง

สมองในส่วนที่ใช้ “จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง” ผิดเพี้ยน !

คงจะยังจำได้ใช่ไหมว่าเมื่อปี 2540 เฮลิคอปเตอร์ซูเปอร์พูม่า MK 2 ตามขบวนเสด็จที่ภาคใต้ เกิดอุบัติเหตุตกที่อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2540 นับจากนั้นจึงได้ถอนเครื่องชุดนี้ออกจากภารกิจ โดยรัฐบาลจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ชุดใหม่ถวายเมื่อเดือนสิงหาคม 2546 แล้วก็ถอนซูเปอร์พูม่า 2 เครื่องที่เหลืออยู่ออกมา เพราะถือว่าไม่ปลอดภัย

แล้วก็เอาซูเปอร์พูม่าไปแลกเป็นเครื่องบินไทยคู่ฟ้า

ทั้ง ๆ ที่กระบวนการจัดหาเครื่องบินพระราชพาหนะลำใหม่ตั้งแต่ก่อนปี 2546 นั้น กองทัพอากาศได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา สรุปมีแนวทางดำเนินการ 2 แนว

1. จัดซื้อลำใหม่เลย ซึ่งที่สุด แล้วรัฐบาลบอกว่ายังไม่มีเงิน

2. ใช้เครื่องเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะซูเปอร์พูม่า MK 2 จำนวน 2 ลำ ไปแลกซื้อ

ในเมื่อแนวทางแรกทำไม่ได้ ก็หันมาแนวทางที่ 2 ซึ่งในที่สุดได้มีการเจรจากับบริษัทต่างประเทศ 4 บริษัท โดย 2 เจ้าแรกคือค่ายโบอิ้ง กับค่ายแอร์บัส ส่วนอีก 2 รายเป็นนายหน้า ก็เลยตัดไป

โบอิ้งกับแอร์บัสเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

แอร์บัส เสนอ แอร์บัส 319 ACJ ก็คือรุ่นที่กลายมาเป็น “ไทยคู่ฟ้า” ทุกวันนี้

โดยรัฐบาลต้องจ่ายเงินเพิ่ม 29.6 ล้านเหรียญสหรัฐ !

ส่วนโบอิ้งเสนอ โบอิ้ง 737 - 800 ก็คือรุ่นเดียวกันกับที่คณะรัฐมนตรีชุด “ความรู้สึกช้า” เพิ่งมีมติจัดซื้อถวายเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2548

ถ้าซื้อรุ่นนี้ รัฐบาลต้องจ่ายเพิ่ม 51.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

และได้รับเครื่องทันที(ปี 2546) !

ประเด็นอยู่ตรงนี้ - ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจจัดซื้อเครื่องบินพระราชพาหนะมาทูลเกล้าฯถวายโดยเร็ว ก็ควรจะต้องตัดสินใจแลกซื้อกับ โบอิ้ง 737 - 800 ไปตั้งแต่ปี 2546 โน้น

แต่ก็ไม่ทำ

ใช่เพราะว่ามีคนอยากมีเครื่องบินส่วนตัวใช้หรือไม่ – ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิด

ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนทักท้วงในช่วงนั้น คนของรัฐบาลก็แก้ตัว ออกตัว ไปคนละทิศคนละทาง แต่โดยสาระคือพยายามปฏิเสธว่าไม่ใช่เครื่องบินประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เป็นเครื่องบินสำหรับบุคคลสำคัญทั่วไป

นายวิษณุ เครืองาม (อีกแล้ว) ชี้แจงได้พิสดารที่สุด

นายคนนี้บอกว่าเครื่องบินแอร์บัส 319 ACJ ที่จะจัดซื้อได้ขึ้นทะเบียนเป็น “เครื่องบินพระที่นั่งสำรอง” เหมือนกับอีก 2 ลำก่อนหน้า

นายคนนี้บอกว่าเครื่องบินลำใหม่นี้ในครั้งแรกไม่คิดจะจัดซื้อ แต่เป็นความจำเป็นที่ต้องกำจัดเครื่องซูเปอร์พูม่า ในเมื่อขายไม่ได้ จึงได้นำมาแลกเปลี่ยนกับเครื่องบินลำใหม่ ซึ่งต้องเพิ่มเงิน แต่ได้เปิดการประมูลให้ทั่วโลกมาร่วมด้วย และสาเหตุที่ต้องเร่งจัดซื้อเนื่องจากหากปล่อยให้ข้ามปีราคาของเครื่องบินซุปเปอร์พูม่าจะตกลงไปอีก

วันที่ 22 ตุลาคม 2547 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกหนังสือชี้แจงความชัดเจนของเครื่องบินลำนี้ว่าใช้สำหรับรองรับภารกิจของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในโอกาสต่าง ๆ เช่น การต้อนรับบุคคลสำคัญ แขกของรัฐบาล การเดินทางไปราชการต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและเสริมสร้างศักยภาพการบริหารงานราชการแผ่นดิน

ที่ชัดเจนก็คือการตั้งชื่อเครื่องบินลำนี้ว่า "ไทยคู่ฟ้า" และมีตราสัญลักษณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรีประดับอยู่

ส่วนข้อแตกต่างของการจัดซื้อเครื่องบินพระราชพาหนะ ระหว่างถ้าได้ทำไปเมื่อปี 2546 กับที่เพิ่งจะทำเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2548 ก็คือ...

ราคาจัดซื้อเมื่อปี 2546 ใช้เงินเพิ่ม 51.5 ล้านเหรียญ ตีเป็นเงินไทย 2,000 ล้านบาทกว่า ๆ แล้วได้รับเครื่องทันที

แต่ราคาที่จัดซื้อปี 2548 นี้ต้องใช้เงิน จำนวน 3,017 ล้านบาท หรือ 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,171 ล้านบาท

ที่สำคัญ -- ไม่รู้ว่าจะได้รับเครื่องเมื่อไหร่

นี่คือคำถามที่รัฐบาลจะต้องตอบ

1. ทำไมในช่วงปี 2546 รัฐบาลอ้างว่าไม่มีเงิน ชะลอการจัดซื้อ แต่กลับมาซื้อ “ไทยคู่ฟ้า” ให้ตัวเอง ?

2. ทำไมมีการแปรกระบวนการพิจารณาจัดหาเครื่องบินราชพาหนะ โดยวิธีการแลกเครื่องเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะซูเปอร์พูม่า ให้กลายมาเป็นการแลกเครื่องบินให้รัฐบาลใช้เอง จุดเปลี่ยนแปลงนี้มาจากใครสั่ง ?

3. ทำไมไม่ตัดสินใจแลกซื้อเครื่องโบอิ้ง 737 - 800 ทูลเกล้าฯถวายให้เป็นเครื่องบินพระราชพาหนะตั้งแต่ขณะนั้น ?

4. ตั้งแต่ปี 2546 - สิงหาคม 2548 ขั้นตอนการจัดหาเครื่องบินพระราชพาหนะหายไปไหน ทำไมไม่เร่งรัด ?

ที่สำคัญไปกว่านี้ก็คือในช่วงใกล้ ๆ กับการอนุมัติซื้อเครื่องบินพระราชพาหนะลำใหม่เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2548 นี้ รัฐบาลก็ยังมีความพยายามที่จะจัดซื้อเครื่องบินสำหรับบุคคลสำคัญอีก

กระทรวงกลาโหมได้เตรียมเสนอขออนุมัติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2548 เพื่อให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณในโครงการจัดหาเครื่องบินแบบใช้งานทั่วไป 2 เครื่อง วงเงิน 1,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี (2548 – 2549) เพื่อสนับสนุนการเดินทางให้กับผู้บังคับบัญชาระดับสูงและบุคคลสำคัญในรัฐบาล ในการเดินทางตรวจราชการที่สำคัญ

โดยเฉพาะภารกิจในการรักษาความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

รวมทั้งการปฏิบัติและการส่งกลับ ผู้เจ็บป่วยจาการปฏิบัติหน้าที่มารักษาพยาบาล

แต่พอมีข่าวออกไปในช่วงเช้าวันที่ 20 กันยายน 2548 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะรัฐมน ตรีก็ได้ตัดสินใจถอนเรื่องกลับก่อน โดยรอให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาเพื่อมาเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจเอง

และในวันที่ 27 กันยายน 2548 ก็ได้มีการอนุมัติในหลักการ

เพียงแต่เปลี่ยนเป็นระบบแลกเปลี่ยนทางการค้าแทนเท่านั้น

ก็เท่ากับเป็น “การยืนยัน” อีกครั้งว่า “ไทยคู่ฟ้า” นั้นมีไว้ใช้สำหรับภารกิจนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเท่านั้น

ข้อมูลมากกว่านี้ เห็นจะต้องตามไปฟังคุณสนธิฯที่ลุมพินีสถาน (เวทีลีลาศเก่า) เย็นวันนี้ตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป


พายัพ วนาสุวรรณ 3 พ.ย. 48 


หมายเหตุ  ข้าพเจ้าได้ตัดข้อความออกบางตอน  ท่านที่สนใจสามารถอ่านได้จากเวปดังกล่าว
บันทึกการเข้า
SSP228
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 113


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 10:28:39 PM »

จริงแท้แค่ใหนไม่ทราบครับ แต่ถ้าเพื่อพระเจ้าอยู่หัวแล้วละก็
เอาภาษีผมไปซื้อได้เลยครับ...
รักในหลวงครับ...
บันทึกการเข้า
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 10:31:12 PM »

ยิ่งขุดยิ่งเจอ  ต่อไปประเทศไทย (THAILAND) ดูตัวNDไว้ให้ดีมันจะกลายเป็น KTHAI ผมไม่ค่อยอยากฟังอยากรู้เรื่อง นาย..ก เพราะได้แต่รับรู้รับฟัง แต่ทำอะไรไม่ได้มันเสียอารมณ์อย่างแรงแต่ก็ยังดีใจที่ไม่ได้ลงคะแนนให้ไอ้พวกนี้ Angry Angry
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 10:39:03 PM »

 Undecided คณะ ครม. มาประชุม ครม. พเนจร ที่นครสวรรค์ ซึ่งมีระทางห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 200 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. จะใช้เวลา 1 ชม. 45 นาที สิ้นเปลืองค่าน้ำมันประมาณ 1,000 - 1,500 บาท ต่อรถ 1 คัน (ราคาน้ำมันปัจจุบัน) Undecided
 Undecided การที่นายก นั่งเครื่องไทยคู่ฟ้า มาลงที่ บน.4 ตาคลี (ระยะทางจาก บน.6 - บน.4 ลากเป็นเส้นตรงคิดได้เป็นระยะทางประมาณไม่ถึง 150 กม.) แล้วจึงค่อยเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปเยี่ยมประชาชนตามอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครสวรรค์ ท่านว่าคุ้มหรือไม่ Undecided

 Undecided สิ่งที่ได้จากการมาประชุม ครม. พเนจรครั้งนี้ Undecided
  1. ได้หน้า เหล่า สส. ทรท. ในนครสวรรค์ ต่างจัดฉากจัดประชาชนไปต้อนรับนายตามจุดต่าง ๆ
  2. ได้เงิน หว่านเงินซื้อไข่เจียว 3 จาน 1,000 บาท
  3. ได้เข้ากรุง การจราจรในจังหวัดนครสวรรค์ติดขัดไปทั่วตลอดทั้ง 2 วัน ที่นายกมา ได้บรรยากาศเหมือนอยู่กรุงเทพฯ
  4. ได้ความปลอดภัย มีการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายทุกมุมเมืองไม่ต่ำกว่า 20 จุด
  5. ผักราคาดีขึ้น แม่ค้าขายผักรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะผักขายดี โดยเฉพาะผักชี
  6. นึกไม่ออก
 Undecided แต่สรุปว่า ผมไม่ชอบเลยเหมือนมาเอาเงินมาละลายแม่น้ำโดยไม่น่าจะได้อะไรกลับไปมากกว่าเดิม เพราะฉากที่จัดไว้ก็เดิม ๆ ในกลุ่มที่สนับสนุน สส. ในพื้นที่ แต่จุดที่เป็นปัญหาจริง ๆ ไม่เห็นนายกได้เข้าไปยังพื้นที่นั้น ๆ เลย นอกจากบึงบรเพ็ด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้อะไร ระหว่างธรรมชาติ กับรีสอร์ทที่กำลังมีโครงการถมบึงสร้างรีสอร์ท จะสร้างทำไม บึงบรเพ็ดไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะจะมาพักค้างแรม แล้วทำไมต้องไปสร้างกลางบึง ข้าง ๆ บึงรอบ ๆ บึงก็ยังมีพื้นที่ที่จะสร้างรีสอร์ทได้มากมาย Undecided
 Undecided พอแค่นี้ดีกว่าครับ Undecided
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2005, 11:27:38 PM โดย NaiMai » บันทึกการเข้า

BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 10:39:08 PM »

เอวัง.........
บันทึกการเข้า
Tiger wut
อาวุธประจำตัวคือ"ขวดนม"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 975
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15042


พี่ครับ พี่ครับ เสือมา


« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 10:45:38 PM »

 Wink   เสนอข่าวด้านเดียว....  สนธิก็สนธิเถอะ... ถ้าใครเป็นแฟนรายการจริง ต้องได้ดูตอนที่เสนอความคิดแก้ปัญหาภาคใต้.... ท่านสนธิ พูดได้น่าประทับใจมาก...บอกว่าวิธีแก้ไขปํญหาภาคใต้ ต้องปล่อยให้พวกเขาปกครองดูแลกันเอง.....ผมก็ไม่รู้พวกเขาพวกไหน?  ปกครองกันเองแบบไหน?  ตั้งเป็นรัฐอิสระหรือ?
บันทึกการเข้า

รักดีกินถั่ว   รักชั่วกินเหล้า  รักทั้งดี -ทั้งชั่ว กินถั่วแกล้มเหล้า
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 10:47:52 PM »

ฟังหูไว้หู Grin
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
Tiger wut
อาวุธประจำตัวคือ"ขวดนม"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 975
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15042


พี่ครับ พี่ครับ เสือมา


« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 10:48:28 PM »

 Wink ผมรู้สึกว่า สนธิ  นี่ชอบเอาสถาบันเบื้องสูงมาเกี่ยวข้องตลอด ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
บันทึกการเข้า

รักดีกินถั่ว   รักชั่วกินเหล้า  รักทั้งดี -ทั้งชั่ว กินถั่วแกล้มเหล้า
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 386
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9425


« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 11:04:58 PM »

ฟังหูไว้หู Grin
Smileyใช่ครับ
บันทึกการเข้า
Nakin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 115
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3905


รักทุกคนเลย ......


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 11:41:21 PM »

Wink ผมรู้สึกว่า สนธิ นี่ชอบเอาสถาบันเบื้องสูงมาเกี่ยวข้องตลอด ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

นาย  สนธิ  ( และพวก ) ..... คนนี้  จะเกลียดทักษิณ  ด้วย .... เรื่องผลประโยชน์  หรือ  อคติส่วนตัว  หรือ  จะเป็นแนวร่วมกับพรรคไหน  หรือ  ต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง  หรือ  จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม .......    :Smiley

นาย  สนธิ  ( และพวก ) ....  คนนี้  จะใช้วิธีการใด ๆ  หรือ  มุ่งสร้างประเด็น  ในเรื่องไหน .....  ก็แล้วแต่เขา .......    :Smiley 


เรื่องทั้งหลายนั้น .....  จะจริง    หรือ    ถูกบิดเบือน   ......  อย่างไร     :Smiley

ใครจะ  เชื่อ  หรือ  ไม่เชื่อ  .......  ก็แล้วแต่จะพิจารณา        Cool       เพราะ    กาลเวลาจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง .....




แต่  ขออย่างเดียว ......... นาย  สนธิ  ( และพวก )  ......  ควรเลิกอ้างสถาบันสูงสุดเสียที     Angry

ที่สำคัญ  คนไทยทุกคนก็   รักสถาบันสูงสุด  และ  รักประเทศไทย  ไม่น้อยกว่า  นาย  สนธิ  ( และพวก )      Smiley

ดังนั้น ..... อย่าคิดเอาเองว่า ..... ใครที่ไม่เห็นด้วยกับ  นาย  สนธิ  ( และพวก )  จะ .......... อย่างนั้น  อย่างนี้     Angry   

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2005, 11:47:54 PM โดย Nakin » บันทึกการเข้า

Happy   shooting    ......   

พูดจริง     ก็หาว่า    โกหก     ........     พูดตลก    ก็หาว่า     หลอกลวง
G1911
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 280

ทุกสิ่งสรรพ มิอาจได้มา โดยไม่สูญเสียสิ่งใด


« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 11:44:35 PM »

มิสมควรกล่าวถึงเบื้องพระยุคลบาท
ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
บันทึกการเข้า

เดิมนั้นหรือ คือโพธิ์พฤกษ์
กระจกนึก เทียบจิตได้
หมั่นเพียร เช็ดปัดไว้
อย่าปล่อย ให้เกิดธุลี
SNIPER™
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 85
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1441



« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2005, 11:51:36 PM »

ไม่กล้าวิจารณ์หรอกครับ เพราะไม่ได้เลือกเข้ามาตั้งแต่แรก
สุดแล้วแต่เวรแต่กรรม............
บันทึกการเข้า
อิฐแดง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2005, 12:28:31 AM »

Wink ผมรู้สึกว่า สนธิ นี่ชอบเอาสถาบันเบื้องสูงมาเกี่ยวข้องตลอด ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
Wink ผมรู้สึกว่า สนธิ นี่ชอบเอาสถาบันเบื้องสูงมาเกี่ยวข้องตลอด ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

นาย  สนธิ  ( และพวก ) ..... คนนี้  จะเกลียดทักษิณ  ด้วย .... เรื่องผลประโยชน์  หรือ  อคติส่วนตัว  หรือ  จะเป็นแนวร่วมกับพรรคไหน  หรือ  ต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง  หรือ  จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม .......    :Smiley

นาย  สนธิ  ( และพวก ) ....  คนนี้  จะใช้วิธีการใด ๆ  หรือ  มุ่งสร้างประเด็น  ในเรื่องไหน .....  ก็แล้วแต่เขา .......    :Smiley 


เรื่องทั้งหลายนั้น .....  จะจริง    หรือ    ถูกบิดเบือน   ......  อย่างไร     :Smiley

ใครจะ  เชื่อ  หรือ  ไม่เชื่อ  .......  ก็แล้วแต่จะพิจารณา        Cool       เพราะ    กาลเวลาจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง .....




แต่  ขออย่างเดียว ......... นาย  สนธิ  ( และพวก )  ......  ควรเลิกอ้างสถาบันสูงสุดเสียที     Angry

ที่สำคัญ  คนไทยทุกคนก็   รักสถาบันสูงสุด  และ  รักประเทศไทย  ไม่น้อยกว่า  นาย  สนธิ  ( และพวก )      Smiley

ดังนั้น ..... อย่าคิดเอาเองว่า ..... ใครที่ไม่เห็นด้วยกับ  นาย  สนธิ  ( และพวก )  จะ .......... อย่างนั้น  อย่างนี้     Angry   


เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ .... เดี๋ยวนี้มักจะโยงทุก ๆ ประเด็นไปเชื่อมกับสถาบันเบื้องสูง ไม่รู้ว่านายสนธิคนนี้มีจุดประสงค์อะไร และต้องการอะไรกันแน่ Huh 
บันทึกการเข้า

--เพราะต่างความคิด ชีวิตจึงต่าง--
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2005, 12:53:39 AM »

ทำไมพระราชพาหนะลำใหม่ไม่ซื้อ 777 ล่ะคับ...

จะได้มีอายุการใช้งานนานหน่อย...
บันทึกการเข้า
Rock
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2005, 01:16:00 AM »

ผมเห็นด้วยกับคุณพี่เสือ....และพี่นาคินครับ...นายสนธิไม่ใช่คนดีอย่างที่ตัวเขาพูดหรอกครับ...
มันก็เน่าพอๆกับที่เขาพยายามจะทำลายนั่นแหละ...ผลกระทบก็นคือจะเกิดความแตกแยกในสังคมไงครับ
สิ่งที่กล่าวมาคือความเห็นของผมนะขอรับไม่ยืนยันผิดถูก...ไม่ชวนเชื่อครับ


ด้วยความเคารพ.....ร็อค
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.074 วินาที กับ 20 คำสั่ง