
Surround Sound System กับความสับสนเข้าใจผิด

ปัจจุบัน ดูเหมือนว่าระบบเสียงที่สร้างบรรยากาศรายรอบให้เหมือนกับการจำลองโรงภาพยนตร์เข้ามาไว้ในบ้านที่เรียกๆ กันว่าระบบ Home Theater นั้น แม้ว่าจะไม่มีอะไรที่เป็นพัฒนาการใหม่ให้สัมผัสได้ระดับ Breakthrough วงการ แต่บรรดาผู้บริโภคกลับรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรต่อมิอะไรที่เป็นความใหม่ หรือ ปรากฏการณ์ใหม่ ทางด้านนี้ออกมาให้เห็นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับการมีชื่อระบบเซอร์ราวน์ดใหม่ๆ ออกมานั้น คือตัวการสำคัญนักเชียว
จนทำให้หลายๆคน ที่ได้ไม่ได้สนใจติดตามเรื่องนี้มาแต่ต้น แล้วคิดจะซื้อหามาใช้งานสักชุด เกิดอาการลังเลด้วยไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งไปเจอ คนขายที่คุยคล่องพูดจาแบบน้ำไหลไฟดับ แต่จับใจความอะไรไม่ได้ ยิ่งพาให้เป็นงงไปกันใหญ่
โดยเฉพาะกับการมาถึงของบรรดาเซอร์ราวน์ดสกุลก่อนล่อสุดที่ลงท้ายว่า EX และ ES ก่อนการมาถึงของพวก TrueHD ที่ว่ากันว่ายิ่งจะทำให้งงเตลิดเปิดเปิงยิ่งขึ้นไปอีก กอปรกับเห็นโฆษณาเครื่อง โฆษณาซิสเต็ม ในระยะหลังๆ ทำนองว่าเป็นเทคโนโลยีล่าสุดแบบ 7.1 แบบ 9.1 บ้าง หนาตาขึ้นมาเรื่อยๆ ก็เลยยิ่งทำให้หลายๆ คน พากันงงยกกำลังสอง กำลังสามกันไปโน่นเลย โดยประมวลจากเสียงเข้าหูในระยะหลังๆ ผมพบว่ามีความสับสนเข้าใจผิดในผู้ที่กำลังมองหาระบบภาพและเสียงพวกนี้อยู่พอสมควร จึงคิดว่าน่าจะนำเรื่องนี้มาทำความเข้าใจกันแบบชัดๆ ในวงกว้างสักหน เพราะส่วนใหญ่ที่ได้พูดคุยไปกับใครที่มาพูดคุยถามถึงเรื่องพวกนี้บ้างนั้น จะเป็นการตอบแบบรวบรัดพอเป็นสังเขปมากกว่า พอดีกับได้พบบทความต่างประเทศอยู่ชิ้นหนึ่งที่พูดถึงเรื่องนี้ได้ชัดเจนดี จึงขอนำมาเรียบเรียงให้ทำความเข้าใจกันได้ง่ายๆ ณ ที่นี้
คุณ.รอเจอร์บอกว่าเหตุที่ทำให้เขาต้องเขียนบทความชิ้นนี้ขึ้นมา ก็เริ่มจากประเด็นนี้แหละ คือขนาดแค่จะตั้งชื่อให้กับลำโพงให้กับแชนเนลเสียงที่เพิ่มขึ้น คนคิด คนทำ ยังถกกันป่วนขนาดนี้ แล้วผู้บริโภคจะไม่ยิ่งงงไปกว่าหรือเมื่อมันมีระบบออกมาสมบูรณ์แล้ว แล้วในระบบ 6.1 เอง กับที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
บางซิสเต็มก็มีเซอร์ราวน์ดหลังที่ว่านั่นแค่ตู้เดียว แต่บางชุดกลับมีสองตู้หรือสองข้าง มันยิ่งทำให้น่างงมากขึ้นไปอีกเพื่อความกระจ่างในเรื่องนี้ คุณ.รอเจอร์บอกว่าเราต้องไปทำความเข้าใจเรื่องการทำงานของระบบ 6.1-แชนเนล กันตั้งแต่ต้นเลยเป็นดีที่สุด
ระบบเสียงแบบ 6.1-แชนเนลหรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า Extended Surround นั้น เป็นการทำงานเสริมระบบ 5.1-แชนเนล เดิมโดยการเพิ่มขึ้นมาในลักษณะของการขยาย (Extended) แชนเนล ซึ่งมีผู้ออกแบบอยู่สองรายด้วยกัน คือ Dolby Lab. ที่เรียกระบบใหม่ที่ว่านี้ของตัวเองว่า Dolby Digital Surround EX ส่วนอีกรายก็คือ DTS ซึ่งได้เรียกระบบของตนว่า DTS-ES โดยที่ทั้งสองระบบนี้สามารถเล่นกับระบบ 5.1 ได้ กล่าวคือซอฟท์แวร์ หรือ แผ่นดีวีดีใหม่ๆ ที่บันทึกโดยการเข้ารหัสสัญญาณเสียงมาเป็นแบบ EX หรือ ES นั้น สามารถนำไปเล่นกับเครื่องที่เป็นระบบ 5.1-แชนเนล ได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งนี้ก็เนื่องเพราะสัญญาณเสียงของเซอร์ราวน์ดหลัง หรือ Back Surround นั้น จะถูกแทรกหรือพ่วงอยู่ในสัญญาณเสียงเซอร์ราวน์ดทั้งด้านซ้าย และ ด้านขวาในระบบ 5.1 นั่นเอง

ซึ่งกับเรื่องนี้ ทางดอลบีย์ แล็บ เองได้อธิบายการทำงานของ Dolby Digital Surround EX เอาไว้ว่า การเพิ่มสัญญาณเสียงแชนเนลใหม่เข้าไปใน Dolby Digital 5.1 นั้น จะทำโดยการผสมสัญญาณช่องที่ 6 นี้เข้าไปยังช่องสัญญาณของลำโพงเซอร์ราวน์ดซ้ายและขวา ด้วยกรรมวิธีที่เรียกว่า Martix โดยเมื่อนำมาPlay Back หรือเล่นกลับแล้ว สัญญาณเซอร์ราวน์ดหลังหรือ Back Surround ที่เพิ่มเข้าไปนั้น ก็จะถูกดึงออกมาด้วยกรรมวิธี Matrix เช่นเดียวกัน จากนั้นจึงถูกส่งต่อไปยังลำโพงเซอร์ราวน์ดหลังที่อยู่ตรงกลางทางด้านหลัง โดยในโรงภาพยนตร์นั้น มันอาจจะใช้ลำโพงเซอร์ราวน์ดหลังที่ว่านี้มากกว่าหนึ่งตู้ก็ได้ทั้งนี้ก็เนื่องเพราะโรงภาพยนตร์นั้นมีขนาดใหญ่ การใช้ลำโพงที่ตำแหน่งนี้เพียงตู้เดียวจึงอาจครอบคลุมพื้นที่ได้ไม่ทั่วถึงนั่นเอง

ปัจจุบัน ดูเหมือนว่าระบบเสียงที่สร้างบรรยากาศรายรอบให้เหมือนกับการจำลองโรงภาพยนตร์เข้ามาไว้ในบ้านที่เรียกๆ กันว่าระบบ Home Theater นั้น แม้ว่าจะไม่มีอะไรที่เป็นพัฒนาการใหม่ให้สัมผัสได้ระดับ Breakthrough วงการ แต่บรรดาผู้บริโภคกลับรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรต่อมิอะไรที่เป็นความใหม่ หรือ ปรากฏการณ์ใหม่ ทางด้านนี้ออกมาให้เห็นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับการมีชื่อระบบเซอร์ราวน์ดใหม่ๆ ออกมานั้น คือ ตัวการสำคัญนักเชียว
มาตรฐานหลักของการเพิ่มจำนวนแชนเนลทั้งในระบบ Dolby Digital Surround EX และ DTS-ES ต่างก็จะใช้กรรมวิธีแบบ Matrix เหมือนกันแต่ใน ระบบ DTS นั้น ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่แตกต่างออกไป คือแทนที่จะใช้กรรมวิธีการพ่วงสัญญาณแบบ Matrix ทาง DTS ได้ใช้วิธีการเข้ารหัสสัญญาณดิจิทัลในแชนเนลที่เพิ่มใหม่นี้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สัญญาณที่แชนเนลนี้เป็นสัญญาณอิสระอย่างแท้จริงเหมือนกับแชนเนลอื่นๆ นั่นเอง ซึ่งกับวิธีการหลังนี้ เรียกกันว่าระบบ DTS-EX Discrete 6.1

เพราะฉะนั้นจึงทำให้ในปัจจุบันระบบ 6.1 แชนเนล ของ DTS มีอยู่สองแบบด้วยกันคือ DTS-ES Matrix และ DTS-ES Discrete 6.1 ซึ่งกับซอฟท์แวร์หรือแผ่นดีวีดีที่เป็น Discrete 6.1 นี้ ก็สามารถนำไปเล่นกับเครื่องหรือซิสเต็มที่เป็นระบบ 5.1-แชนเนล ได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
มาถึงบรรทัดนี้ขอสรุปกันนิดก่อนที่จะไปต่อนะครับ เพราะมันเกี่ยวพันต่อเนื่องกัน กล่าวคือในระบบเซอร์ราวน์ดล่าสุดตระกูล EX-ES Extended Surround นั้น ของดอลบีย์มีแบบเดียว คือ Dolby Digital Surround EX ในขณะที่ของ DTS มีสองแบบคือ DTS-ES Matrix ที่เป็นแบบเดียวกับดอลบีย์ คือ ใช้กรรมวิธีพ่วงสัญญาณแชนเนลที่หกไปกับสัญญาณเซอร์ราวน์ดซ้าย ขวา กับอีกแบบ คือ DTS-ES Discrete 6.1 ซึ่งสัญญาณแชนเนลที่หกเป็นสัญญาณอิสระในลักษณะดิจิทัลเต็มรูปแบบ
และซอฟท์แวร์หรือแผ่นดีวีดีที่เข้ารหัสสัญญาณบันทึกมาทั้งสามแบบคือ Dolby Digital EX; DTS-EX; DTS-ES Discrete 6.1 หรือ Dolby Surround EX ก็ตาม ให้เข้าใจว่ามันเป็นแบบเดียวกันทั้งหมดนะครับ คือ มันอยู่ที่ความสะดวกมือของคนเขียนเป็นหลักครับ
คราวนี้มาถึงเรื่องที่เป็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับระบบ 6.1-แชนเนลที่หลายๆคน ยังสับสนกันอยู่ คือ ในระบบ 5.1-แชนเนล นั้นเราสามารถเรียกว่าเป็นแบบ 5.1 ได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ก็เนื่องเพราะสัญญาณแต่ละแชนเนลนั้นมันเป็นอิสระจากกันอย่างสิ้นเชิงนั่นเอง โดย 5-แชนเนล ที่ประกอบไปด้วยหน้าสาม หลังสอง (ซึ่งทำงานผ่านลำโพงทั้งห้า อันได้แก่หน้าซ้าย / เซ็นเตอร์ / หน้าขวา / เซอร์ราวน์ดซ้าย / เซอร์ราวน์ดขวา) นั้นเป็นสัญญาณแบบเต็มย่านความถี่ ในขณะที่อีกแชนเนลที่เขียนเป็น .1-แชนเนลนั้น เป็นสัญญาณในย่านความถี่ต่ำที่ให้ลำโพงสับ-วูฟเฟอร์ทำงานโดยเฉพาะ
ซึ่งจากที่กล่าวมานั้น หากเราจะเรียกระบบ 6.1-แชนเนล ที่เป็นการทำงานในลักษณธเดียวกับ 5.1-แชนเนล แล้วล่ะก็ ระบบนั้นก็ควรที่จะทำงานเป็นอิสระในแต่ละแชนเนลของตัวเองอย่างแท้จริงด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณาในประเด็นนี้ จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีเพียงระบบ DTS-EX Discrete 6.1 เท่านั้นที่เป็นการทำงานเต็มรูปในแบบ 6.1-แชนเนล แท้ๆ ในขณะที่ทั้ง DTS-ES และ Dolby Digital Surround EX ยังไม่ได้เป็นแบบ 6.1-แชนเนล ที่สมบูรณ์จริง
ซึ่งกับเรื่องนี้ ทาง Dolby Lab เอง ก็ยังได้กล่าวเอาไว้ว่า Dolby Digital Surround EX นั้น เป็นการนำเอาระบบเสียงแบบ 5.1-แชนเนลมาเพิ่มแชนเนลพิเศษเข้าไปเพื่อให้เกิดเป็น Back Surround ด้วยกรรมวิธีแบบ Matrix จึงมิอาจกล่าวได้ว่าระบบนี้เป็น 6.1-แชนเนล แท้ๆ และไม่ควรเรียกว่าระบบ 6.1ด้วย
แต่แม้จะมีการยืนยันจากผู้ออกแบบเอง ว่ามันไม่ใช่ระบบ 6.1 ก็ตาม ทั้งคนขายและผู้บริโภคต่างก็ยังนิยมเรียกระบบที่ว่านั้นเป็น 6.1-แชนเนลอยู่ดีทั้งนี้ก็เนื่องเพราะสะดวกต่อความเข้าใจจากการที่เห็นมีลำโพงเพิ่มขึ้นมาที่ด้านหลังอีกหนึ่งตู้นั่นเอง

มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายๆท่านเริ่มจะเข้าใจและมองเห็นภาพชัดขึ้นแล้วใช่ไหมครับ ว่าที่เป็นระบบ 6.1 นั้น แท้จริงแล้วมันอย่างไรกันแน่ แต่เรื่องนี้ยังไม่จบนะครับ เพราะยังมีอีกชื่อหนึ่งที่หลายๆท่าน คงเคยได้ยินได้เห็นผ่านหูผ่านตามาบ้าง นั่นก็คือชื่อของ THX Surround EX ครับ
กับชื่อนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ดอลบีย์ แล็บ เริ่มนำระบบ Dolby Digital EX ออกมาใช้ใหม่ๆ นั่นแหละครับ เมื่อทาง THX เห็นเข้า ก็ขอซื้อสิทธิในแบบวงจรมาผลิตใช้งาน แต่ได้นำมาประยุกต์ให้เข้ากั้บเทคโนโลยีของตัวเอง เพื่อให้เป็นรูปแบบเฉพาะตน แล้วทำออกสู่ตลาดในชื่อของตนที่เรียกว่า THX Surround EX นั่นแหละครับ ซึ่งในการแก้ไขดัดแปลง นั้นทำขึ้นด้วยการเพิ่มการปรับแต่งเสียงในส่วนของสัญญาณเซอร์ราวน์ด การปรับแต่งระบบแบบ Re-EQualization นอกจากนั้นยังมีการปรับแต่งเสียงในย่านความถี่ต่ำให้ละเอียดยิ่งขึ้น มีการตั้งค่าการหน่วงเวลา (Delay สัญญาณ) ของลำโพงเซอร์ราวน์ดทั้งซ้ายและขวา มีการกระจายและแบ่งสัญญาณในส่วนของเซอร์ราวน์ดทั้งซ้ายและขวา มีการกระจายและแบ่งสัญญาณในส่วนของเซอร์ราวน์หลัง (Back Surround Channel) จากแต่เดิมที่เป็นสัญญาณเสียงโมโน แชนเนลเดียว ให้แบ่งออกไปเป็น 2-แชนเนล จึงทำให้ระบบของ THX Surround EX นั้น ต้องใช้ลำโพงเซอร์ราวน์ดหลัง หรือ Back Surround Channel นั้น ถึงสองตัวด้วยกัน ในขณะที่ต้นแบบซึ่งเป็นผู้ออกแบบและผู้ผลิตส่วนใหญ่ที่ใช้ระบบ Dolby Digital Surround EX เห็นว่าไม่มีความจำเป็นสักเท่าไรในการใช้ลำโพงเซอร์ราวน์ดหลังที่ว่าถึงสองตัวแบบของ THX
เพราะฉะนั้น การทำงานในระบบ THX Surround EX ที่สมบูรณ์จึงต้องใช้ลำโพงถึงแปดตัวด้วยกัน คือหน้าซ้าย / เซ็นเตอร์ / หน้าขวา / เซอร์ราวนด์ซาย / เซอร์ราวน์ดขวา / เซอร์ราวน์หลังสองตัว / สับ-วูฟเฟอร์ (ซึ่งหากนับตู้โดยรวมเป็นที่ตั้ง อันมีจำนวนแปดตู้แล้ว ผมเชื่อว่าคงมีหลายท่านคิดว่าเป็นระบบ 7.1-แชนเนล ขอฝากไว้ก่อนนะครับ ประเดี๋ยวจะกลับมาพูดถึง)

ซึ่งจากการที่ THX Surround EX ได้แยกแยะและปรุงแต่งสัญญาณให้มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้นนั้นเอง จึงเป็นที่ยอมรับกันว่าระบบนี้ให้ประสิทธิภาพการทำงานและให้คุณภาพเสียง ออกมาได้ดีกว่าระบบอื่นๆ โดยเฉพาะดีกว่าระบบที่นิยมใช้กันมากกว่าระบบอื่น คือ Dolby Digital EX แต่ระบบของ THX ก็มิได้ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาดในวงกว้างนัก ทั้งนี้ก็เนื่องเพราะผู้ผลิตส่วนใหญ่ไม่เลือกใช้กัน ด้วยมิเพียงค่าสิทธิบัตรจะมีราคาสูงเท่านั้น หากยังจะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เพราะเงื่อนไข ข้อบังคับ รวมทั้งกฏเกณฑ์ต่างๆ ที่ทาง THX กำหนดเอาไว้ในขั้นตอนการเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ และในขั้นตอนการผลิตนั้น มีความเคร่งครัดอย่างมาก เราจึงไม่ค่อยจะเห็นเครื่องที่เป็นระบบ THX Surround EX มากนัก เพราะด้วยเงื่อนไขต่างๆ นานา ที่กำหนดเอาไว้นั้นทำให้ระบบดังกล่าวมักจะไปปรากฏอยู่ในเครื่องแยกชิ้นที่มีราคาสูงๆ ทั้งสิ้น
ทั้งหมดนั้นคือ ระบบ 6.1-แชนเนลที่เป็นหลักๆ อันเป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วย Dolby Digital Surround EX;DTS-EX และ THX Surround EX ซึ่งใช้กรรมวิธีแบบ Matrix เป็นพื้นฐาน กับระบบ DTS-EX Discrete 6.1 ที่ยอมรับกันว่าคือ 6.1 แท้ๆ เพียงระบบเดียว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณอาจจะเคยเห็นหรือเคยได้ยินใครพูดถึงระบบ 6.1 แบบอื่นๆ ก็ไม่ถือว่าพวกนั้นเป็นระบบหลักนะครับ เพราะส่วนใหญ่มักจะทำออกมาเป็นของตัวเอง แล้วก็เรียกชื่อให้แตกต่างออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อเป็นการสร้างลูกเล่นขึ้นมาหาเหตุจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาสนใจเท่านั้นเอง
ถึงตรงนี้แล้ว พอจะเห็นอะไรเกียวกับเรื่องนี้เป็นภาพชัดขึ้นมาบ้างหรือเปล่าครับ แต่ผมเชื่อว่าอย่างน้อยๆ ถึงตรงนี้แล้วคุณๆ ก็คงได้ความกระจ่างชัดกันไปพอประมาณนะครับ แต่เรื่องนี้ยังไม่จบสนิทครับ เพราะอย่างที่ผมได้กล่าวไว้แต่แรกที่พูดถึงเรื่องนี้ก็คือ นอกจากเรื่องของ 6.1 แล้วยังมีชื่อของ7.1 เข้ามาเกี่ยวพันในระบบเสียงเซอร์ราวน์ดอีกด้วย และเชื่อว่าเวลานี้หลายท่านเริ่มจะได้ยินชื่อของ 7.1-แชนเนล หนาหูขึ้นจนอาจจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบางท่านไปบ้างแล้วใช่ไหมครับ
แต่กับเรื่องของ 7.1 นี้ เมื่อคุณได้ติดตามรายละเอียดในส่วนของ 6.1 มาตั้งแต่ต้นแล้ว คุณย่อมต้องมีคำถามขึ้นในใจแล้วใช่ไหมครับว่า ขนาดระบบ 6.1 แท้ๆ นั้น มันยังมีเพียงระบบเดียวเลย แล้วไอ้เจ้า 7.1 ที่ได้ยินใครต่อใครเขาพูดถึงกันนั้น มันจะอีกท่าไหนกันล่ะ
ครับ ใช่เลย เพราะปัจจับันแม้แต่ 6.1 แท้ๆ ที่มีเพียงระบบเดียวนั้น มันยังไม่ได้รับความนิยมกันสักกี่มากน้อยเลย แล้วจะไปสนใจไอ้ที่มากกว่านั้นกันทำไม เพราะเชื่อได้เลยว่ามันต้องไม่ใช่อะไรที่คือของแท้อย่างแน่นอน ดังนั้นไม่ต้องไปให้ความสนใจเลยนะครับ และกับเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้ใครต่อใครสับสนก็คือเรื่องจำนวนของลำโพงที่ใช้ระบบครับ ผมเชื่อว่าหลายๆคนมีความเข้าใจว่าลำโพงแต่ละตัวนั้น มันหมายถึงแต่ละแชนเนลของระบบเสียง อย่างระบบ 5.1 มีลำโพงหกตัว ก็หมายถึง 6-แชนเนล พอเป็น 6.1 ที่มีลำโพงเซอร์ราวน์ดหลังหรือ Back Surround เพิ่มมาอีกหนึ่งตัว ก็รวมเป็นลำโพงเจ็ดตัว หมายถึง 7-แชนเนล และเพราะดังที่ได้บอกเอาไว้ในระบบอของ THX Surround EX ที่เขากำหนดให้ใช้ลำโพงเซอร์ราวน์ดหลังสองตัวทำให้มีลำโพงในระบบเพิ่มขึ้นมาเป็นแปดตัว หลายๆคนก็เลยเข้าใจไปว่ามันเป็นระบบ 7.1-แชนเนล ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ มันยังคงเป็นระบบ6.1 อยู่ดีนั่นเอง
แต่ถามว่า 7.1-แชนเนล จริงๆนั้น มีไหม ก็ต้องตอบว่ามีครับเพียงแต่มันไม่ใช่ระบบที่นำมาใช้งานได้ในแบบ Home Used สามารถหาดูหาฟัง ได้ตามโรงภาพยนต์ที่บอกว่าระบบเสียงเป็นแบบ SDDS นั่นแหละครับ 7.1 ล่ะ ระบบนี้คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาโดย Sony เพื่อให้นำไปใช้ในโรงหนังโดยเฉพาะชื่อเต็มๆ คือ Sony Dynamic Digital Sound ครับ