บวกหนึ่งให้คุณวัฒน์ กับพี่เซาท์แลนด์เดอร์ แล้ว แหะๆ ไม่อยากจะคุย ไทดำรำพัน เคยฟังจากต้นฉบับแล้ว ส่วนของคุณวัฒน์ แผ่นแรก

เคยฟังทุกเพลงแต่ไม่เคยฟังจากนักดนตรีที่ พี่วัฒน์ หามา ส่วนสามแผ่นล่าง คนอายุรุ่นผม หาคนเคยฟังหรือรู้จัก(เกิน แปดสิบเปอร์เซนต์) ยากซ์ ครับ อิ อิ อิ


ขอบคุณครับ
- แผ่นแรก "Tribute To The Great King" เป็นการบันทึกเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ในแนวดนตรีแจ๊ส ลงแผ่น CD สำคัญ อันมีชื่อว่า Tribute To The Great King จากสังกัดดนตรีคุณภาพระดับ Audiophile นามว่า Chesky Records
ด้วยการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์จำนวน 12 บทเพลงมาร่วมบรรเลงในลักษณะแนวดนตรีแจ๊ส โดยทาง K S Sonsgroup Co., Ltd. Thailand และ Chesky Records, Inc. ได้จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ใน พ.ศ. 2539 โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะนำขึ้นทูลเกล้าถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

* เป็นอัลบั้ม "หายาก" อีกหนึ่งชุด ซึ่งถ้าไม่หลงเหลือมาเป็นซีดีมือสอง ก็คงยากที่จะค้นหามาฟังครับ
*** ส่วนเสริมครับ
เพลงพระราชนิพนธ์ เพลงแรกของพระองค์ท่านคือเพลง "แสงเทียน" ซึ่งเป็นเพลงบลูส์ ที่มีท่วงทำนองที่ไพเราะมาก พระองค์โปรดเกล้า ให้ มจ. จักรพันธุ์ ฯ ทรงแต่งคำร้องถวายแต่เนื่องจากมีพระราชประสงค์ที่จะทรงแก้ไขให้ดีกว่าเดิม จึงยังไม่โปรดเกล้า ฯ พระราชทานให้นำออกมาบรรเลง แต่โปรดเกล้า ฯ พระราชทานเพลง "ยามเย็น" และเพลง"สายฝน" ออกมาบรรเลงก่อนตามลำดับ จึงทำให้ คนส่วนมากเข้าใจว่าเพลง "ยามเย็น" เป็นเพลง พระราชนิพนธ์เพลงแรก
เพลงยาม "ยามเย็น" เป็นพระราชนิพนธ์เพลงที่สองซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นขณะยังทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช และโปรดเกล้า ฯ ให้ มจ. จักรพันธุ์ ฯ ทรงแต่งคำร้องภาษาไทย และให้คุณหญิงนพคุณ ทองใหญ่ ฯ แต่งคำร้องภาษา อังกฤษ และใช้ชื่อเพลงว่า LOVE AT SUNDOWN ถ้าใครได้ฟังเพลงนี้ ที่ร้องโดย DIANE SCHUR นักร้องแจซซ์ชื่อก้องโลกนัยน์ตาพิการ และบรรเลงโดยวงดนตรีบริทิชเคาท์ซี "คอนแจซซ์" จะต้องยอมรับว่า นี่คือเพลงแจซซ์ที่ดี เพลงหนึ่งของโลก ดนตรี แจซซ ์ทีเดียว
เพลง "สายฝน" เป็นพระราชนิพนธ์เพลงที่ 3 ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้นำออก บรรเลงเป็นเพลงที่สองต่อ จากเพลง "ยามเย็น" ณ เวทีลีลาศสวนอัมพรประพันธ์เนื้อร้องภาษาไทยโดย มจ. จักรพันธุ์ ฯ และประ พันธ์เนื้อร้องภาษาอังกฤษ (FALLING RAIN) โดย มจ. จักรพันธุ์ ฯ และ คุณหญิงนพคุณ ทองใหญ่ ฯ มีข้อสังเกตในการพระราชนิพนธ์ ในระยะเริ่มแรกทรงแปรรูปการพระราชนิพนธ์หลายๆ จังหวะ เริ่มต้นด้วย BLUES คือเพลงแสงเทียน ต่อมาเป็น FOXTROT ในเพลงยามเย็น และเป็น WALZ ในเพลงสายฝน อีกทั้งยังทรงแปรรูปลีลาของสำเนียง และเมโลดี เช่นแบบแจซซ์มาเป็นแบบ POP JAZZ ในลีลาแบบไทยๆ รวมทั้งการเปลี่ยนไปใช้คอร์ดต่างๆ และริเริ่มในคอร์ดที่แปลกๆ ใหม่ๆ อีกด้วย
"ใกล้รุ่ง" เป็นเพลงพระราชนิพนธ์อันดับที่ 4 คำร้องภาษาไทยแต่งโดย ดร. ประเสริฐ ณ นคร สำหรับ คำร้องภาษาอังกฤษ (NEAR DAWN) โปรดเกล้า ฯ ให้คุณหญิงนพคุณ ทองใหญ่ ฯ เป็นผู้ประพันธ์ และโปรดเกล้านำออกบรรเลงครั้งแรกในงานของสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในวันที่ 4 มิถุนายน 2489 โดยวงดนตรี สุนทราภรณ์
H.M. BLUES หรือเพลง "ชะตาชีวิต" เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในแนว BLUES อีกเพลงหนึ่งที่ ถือว่า ยอดเยี่ยมมากทั้งเนื้อร้อง และทำนอง HOWARD ROBERTS นักกีตาร์ JAZZ ของสังกัด GRP PRODUCTION ที่มีผลงานให้กับ DAVE GRUSIN และ DIANE SCHUUR กล่าวว่าครั้งแรก ที่ได้ยินเพลงนี้เขาไม่เชื่อว่านี่คือผลงานการประพันธ์ของพระมหากษัตริย์ไทย หรือ ชาวเอเชีย เพราะเพลงนี้คือเพลง BLUES ของคนผิวดำอย่างแท้จริง คนที่ทำได้ถึงขนาดนี้น่าจะเป็น คนดำ เจ้าตำรับ BLUES เท่านั้น ! เพลงชะตาชีวิตในภาคภาษาอังกฤษมีเนื้อหาดังนี้
WE'VE GOT THE HUNGRY MEN'S BLUES. YOU'LL BE HUNGRY TOO IF YOU' RE IN THIS BAND. DON'T YOU THINK THAT OUR MUSIC IS GRAND ? WE'VE GOT THE HUNGRY MEN'S BLUES. WE'D LIKE TO EAT WITH YOU TOO, THAT'S WHY WE'VE GOT THE H.M. BLUES.
เพลงนี้พระราชนิพนธ์หลังจากเสวยราชสมบัติแล้ว และเสด็จแปรพระราชฐานไปประเทศ สวิสเซอร์ แลนด์ พระองค์ได้ทรงดนตรีในงานรื่นเริง ที่ได้ทรงเชิญข้าราชบริพารไปร่วมงานเป็นการส่วนพระองค์ และได้โปรดเกล้า ฯ ให้ มจ. จักรพันธุ์ ฯ ทรงแต่งคำร้องภาษาอังกฤษใส่ในทำนองที่ทรงพระราชนิพนธ์ ขึ้นมา โดยให้ชื่อเพลงว่า H.M. BLUES เพื่อเป็นปริศนาว่า H.M. แปลว่าอะไร และส่วนใหญ่มีความ เห็นว่าหมายถึง HIS MAJESTY BLUES แต่แท้ที่จริงแปลว่า
HUNGRY MEN'S BLUES เพราะเหตุ ว่าทรงบรรเลง ตั้งครึ่งคืนในงานนั้น โดยมิได้เสวย อะไรเลย แต่ในขณะเดียวกัน ข้าราชบริพารที่มาร่วมในงานต่างไดรับพระราชทานอาหารอย่างอิ่มหนำ สำราญ สำหรับคำร้องภาษาไทยได้โปรดเกล้า ฯ ให้ ดร. ประเสริฐ ณ นคร เป็นผู้แต่งคำร้องแต่เนื่อง จากในเวลานั้นเนื้อเพลงภาษาอังกฤษ และโนทเพลงอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ ดร. ประเสริฐไม่ทราบความ หมาย จึงใส่คำร้องภาษาไทยที่มีความหมายออกมาคนละแบบ
เพลง "ดวงใจกับความรัก" เป็นเพลงที่พระราชนิพนธ์ขึ้นมาในช่วงเวลาที่เสด็จขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ ใน ต้นปีพศ. 2489 และในปีนี้เอง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาต่อ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิสเซอร์ แลนด์ และขณะที่ทรงศึกษาอยู่นั้น ได้ทรงดนตรีกับวงดนตรี "กระป๋อง" โดยโปรดเกล้า ฯ ว่าถ้าใครไม่ อายก็ให้เข้ามา ร่วมบรรเลงได้ เพลงนี้โปรดเกล้า ฯ ให้ มจ. จักพันธุ์ ฯ ใส่เนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ และ ทรงให้ชื่อว่า NEVER MIND THE HUNGRY MEN'S BLUES เป็นเพลงที่พระราชทาน ให้หลังจากเสวยพระกระยาหารในงานรื่นเริงส่วนพระองค์ เป็นการตอบปริศนาของ คำว่า H.M. BLUES ด้วย
BLUES DAY หรือ "อาทิตย์อับแสง" เป็นเพลงที่ พระราชนิพนธ์ ขณะที่เสด็จประทับแรมบนเขาใน เมือง DAVOS เพลงนี้โปรดเกล้า ฯ ให้ มจ. จักพันธุ์ ฯ ทรงแต่งคำร้องภาษาไทยด้วย และได้โปรดเกล้า ฯ ให้ MICHEL TODD PRODUCTION นำออกแสดงในกรุงนิวยอร์คร่วมกับเพลง สายฝนด้วย เพลงพระราชนิพนธ์ในช่วงแรกๆ นั้นจะเป็นเพลงทั่วๆ ไปที่มีความไพเราะ และซาบซึ้งเป็นที่ประทับใจ ของพสกนิกรเป็นอย่างมาก ต่อมาทางมหาวิทยาลัยต่างๆ จึงได้ขอพระราชทานเพลงประจำมหาวิทยาลัย โดยเริ่มจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ขอพระราชทานก่อน โดย มรว. สุมนชาติ สวัสดิกุล เป็นผู้ขอ พระราชทาน เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง และโปรดเกล้า ฯ พระราช ทานให้แล้วทางจุฬา ฯ ได้ขอพระราชทาน คำร้องอีกซึ่งได้โปรดเกล้า ฯ ให้ทางจุฬาประพันธ์คำร้องเอง เนื่องจากเพลงพระราชนิพนธ์ในระยะแรก ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่ทรงใช้ SCALE แบบสิบสองห้องหรือ CROMATIC SCALS ที่ใช้คอร์ดสลับซับซ้อน และพัฒนาออกไปไกลมากเลย ทำให้เป็นเพลงที่จำยาก ซึ่งต่อมาพระองค์ได้ปรารภว่า แม้แต่เพลงที่ใช้เสียงเพียง 5 เสียง หรือ PENTATONIC SCALE ก็สามารถแต่งให้มีความไพเราะได้เช่นกัน จึงโปรดเกล้า ฯ ให้มจ. จักพันธุ์ ฯ เริ่มวรรคแรก โดยใช้ SCALE 5 เสียงก่อน จากนั้นพระองค์จึงทรงต่อจนจบเพลง และเมื่อ ทางจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้ขอพระราชทานเพลง ประจำมหาวิทยาลัยมา จึงได้โปรดเกล้า ฯ พระ ราชทานทำนองเพลงแบบใช้ PENTATONIC SCALE คือ 5 เสียงซึ่งได้ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ ก่อนแล้วให้ทางจุฬา ฯ นำไปใส่คำร้องเองภายหลัง คุณหญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา และนายสุพร ผลชีวิน ได้ประพันธ์ คำร้องขึ้นถวาย